รีวิวสวนลุมฯหลังจากรอมานาน! เป็นเหมือนกันมั้ยคะ เวลาที่เราไม่ได้ออกไปไหนนานๆแล้วรู้สึกทั้งเหี่ยว...ทั้งเฉา เชื่อว่าเวลานี้คงมีใครหลายคนตกอยู่ในอาการเดียวกันนี้แน่ๆ ก็แหม...ถูกกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นนกหงส์หยกในกรงทองเสียนาน ได้ออกมาสูดโอโซนข้างนอกบ้างก็สบายดีหยอกเมื่อไหร่ ในที่นี้หมายถึงออกนอกบ้านที่ไม่ใช่การออกไปทำงานน่ะนะ วันนี้สถานที่ที่จะกล่าวถึงไม่ใช่สถานที่แปลกใหม่อะไรนักสำหรับคนกรุง เพราะเป็นที่ที่คนต่างเคยคุ้นและไปเยี่ยมเยือนเป็นปกติทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว แต่มาวันนี้ ที่ออกจะแปลกสักหน่อยสำหรับหลายคน เพราะเป็นระยะที่เพิ่งผ่านช่วงกรุ่นๆกลิ่นอายของโควิดไปได้ไม่นาน ดังนั้น คราวนี้จึงจะขอพาสำรวจกันว่า สวนลุมพินีในวันที่ไม่(ค่อย)มีโควิดแล้ว ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สายหน่อยๆของวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้เขียนก็ลากสังขารอันไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าของตัวเองมาถึงที่นี่จนได้ด้วยรถเมล์ มาถึงก็เจอเข้ากับบรรยากาศอันคุ้นเคย ประตู 3 สีเข้มที่เคยได้แต่นั่งรถผ่านเมื่อเดือนสองเดือนที่ผ่านมาเปิดรอต้อนรับอยู่ ออกซิเจนที่เคยสูดเข้าเต็มปอดก็ได้สัมผัสอีกครั้ง เรียกได้ว่าจากที่ง่วงๆอยู่ก็รู้สึกตื่นขึ้นมาทันที มันช่างดีอะไรอย่างนี้ รีบรุดเดินเข้าไปด้วยใจโหยหา เพื่อที่จะได้พบกับพี่ป้าน้าอา คนแปลกหน้าที่คุ้นเคยในสวนใหญ่แห่งนี้อีกครั้ง แล้วภาพก็ปรากฏแก่สายตาทันที ไม่ว่าจะเป็นชายนักปั่นแต่งตัวเต็มยศด้วยมาดอันมุ่งมั่นตรงมุมถนนฝั่งโน้น คุณพี่ผู้หญิงยืนเอาร่มจิกต้นหญ้าเล่นคลายอารมณ์ หรือจะเป็นเด็กผู้ชายที่กำลังแข่งโรลเลอร์เบลดกับคู่หูอย่างเมามันกำลังสวนหน้ามา ภาพที่สบายตาสบายใจทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ผู้เขียนจึงตัดสินใจออกเดินไปเรื่อยๆก่อน ทีแรกกะว่ามาถึงแล้วจะวิ่งออกกำลังกายเลย แต่ด้วยสภาพอย่างนี้ ออกสำรวจเพื่อวอร์มเสียก่อนดีกว่า ป้ายประชาสัมพันธ์ที่เดินมาเห็นต้องเตะตา คือป้ายที่บอกกฎต่างๆของทางสวนที่เพิ่งออกมาใหม่ หลักใหญ่ใจความคือ งดออกกำลังกายแบบจับกลุ่ม! พูดง่ายๆว่าห้ามทุกกิจกรรมที่มีคนเยอะและอยู่ใกล้กันเกินไป เช่น เต้นแอโรบิค ฟุตบอล ไท้เก๊ก ฯลฯ อนุญาตแค่ให้วิ่งหรือเดิน หรือจะทำอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่ห่างๆกันเข้าไว้ ที่สำคัญ มีการแบ่งโซนออกกำลังกาย วิ่งไปทาง ส่วนเดินก็ไปอีกทาง คอนเวอร์สกันไปเลย จะเห็นได้ว่า สวนลุมฯตอนนี้ผู้คนก็ไม่ได้หนาตานัก แน่นอนว่าจะให้เป็นอย่างภาวะปกติเหมือนตอนที่ไม่เคยมีโควิดเลยก็คงไม่ใช่ ถึงแม้ว่าจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังถือว่าไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เดินๆไปสายตาก็ซอกแซกไปเรื่อย ที่สังเกตได้ชัดคือ ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยกันครบไม่มีขาดเหมือนนโยบายของสถานที่สาธารณะเกือบทุกที่ ป้ายก็ติดหราเด่นอยู่ตรงโน้นด้วย จะมีขาดบ้างก็คนต่างชาติ แปลว่าทุกคนเริ่มชินกับ New Normal (มาตรฐานพฤติกรรมแบบใหม่ที่ทุกคนจำเป็นต้องปรับเพื่อใช้ชีวิตให้รอด) แล้วสินะ ใส่ทั้งๆที่กำลังออกกำลังกายอยู่ด้วย สุดยอดมาก! ที่ต้องบอกว่าสุดยอดนั้น เพราะว่าตัวผู้เขียนเองเคยได้ทดลองใส่มาส์กแล้ววิ่ง ซึ่งปรากฏว่า การใส่หน้ากากเป็นอุปสรรคในการหายใจอย่างมาก ก็เลยแปลกใจนิดหน่อยที่คนที่มาที่นี่ดูจะสบายๆกันหมด เคยอ่านบทความทางการแพทย์ มีคุณหมอหลายท่านแนะนำว่าไม่ควรใส่หน้ากากตอนออกกำลังหรือยกของหนัก ซึ่งในกรณีนี้ ก็สามารถทำความเข้าใจได้ว่าทุกคนกำลังปฏิบัติตามนโยบายสังคม และเป็นการป้องกันทั้งตนเองและผู้อื่นด้วย จึงได้แต่ส่งกำลังใจให้ออกกำลังกันอย่างระมัดระวังและอยู่ในข่ายที่พอเหมาะพอควร เดินผ่านมาอีกเล็กน้อยก็พบกับเครื่องเล่นร้างที่ตั้งเด่นโดดอยู่กลางลาน มองไปก็เจอป้ายแจ้งว่าปิดบริการฟิตเนส เจ็บใจเล็กๆที่คิดจะมาแวะตรงนี้เหมือนกัน แต่พอนึกย้อนไปก็เข้าใจได้ว่าเป็นหนึ่งในกฎใหม่ เสียดายแต่เข้าใจ เครื่องฟิตเนสวันนี้จำเป็นต้องหยุด หยุดแบบมีเส้นกั้น… ป้ายต่างๆมีอยู่ประปรายรายทาง หลังจากตรงนั้นจะสังเกตได้ว่า จุดต่างๆที่มีแนวโน้มว่าจะมีผู้คนรวมกลุ่มกันก็จะถูกทำสัญลักษณ์เอาไว้ หรือขึงเชือกกั้นราวกับเป็นสายสิญจน์เส้นเขื่องเพื่อไม่ให้เข้าไปใช้บริการอย่างเด่นชัด อาทิ ม้านั่งไม้ที่ถูกมาร์กไว้ว่าห้ามนั่งครึ่งหนึ่ง ม้านั่งหินริมน้ำที่ตั้งแยกเหมือนห้ามคบกัน สนามเด็กเล่นร้าง รวมถึงที่พักตามจุดต่างๆอีกหลายจุด ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสงบ ผู้คนต่างคนต่างอยู่ ใบใม้ไหวในวันที่ไม่มีแดด เหล่าเรือเป็ดจอดเรียงรายไร้วิญญาณ ภาพที่ผู้เขียนเก็บมาได้ก็เลยกลายเป็นภาพอยู่อย่างเหงาๆเราคงจะได้รู้ไปโดยปริยาย แม้แต่แมวยังเหงาเลยคิดดู! อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการดีที่ทางสวนลุมพินีจัดมาตรการอย่างชัดเจนในการเข้าใช้บริการ เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการรักษาระยะห่างระหว่างกัน หรือ Social Distancing อย่างที่เรารู้จักกันดี การจัดแบ่งพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆกันไป เดินเว้นระยะ 1-2 เมตร วิ่ง 5 เมตรขึ้นไป ก็มีผู้คนปฏิบัติตามอย่างไม่อิดหนา จะเห็นได้ว่า ต่างคนต่างอยากใช้ชีวิตเป็นปกติกันเต็มแก่ แม้จะรู้ว่ามันเหมือนเดิมไปไม่ได้(หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเร็ววันนี้) แต่ก็พยายามกันอย่างแข็งขันที่สุดในการปรับ ปรับเพื่อจะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างปกติสุขที่สุด...เท่าที่จะทำได้ โลเคชั่น : สวนลุมพินี พระราม 4 เวลาทำการ : 05.30-21.00 น. ทุกวัน ประตูที่เปิดทำการ : ประตู 3, 5, 7 เท่านั้น พิกัด : https://bit.ly/3dp5OgU โดย : บุราณ เครดิตภาพทั้งหมด : บุราณ