สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมารีวิวหนัง 12 Years a Slave ที่อ้างอิงจากชีวิตโซโลมอน นอร์ธัป ชายผิวสีที่ถูกจับเป็นทาส หนังเรื่องนี้ได้ สตีฟ แม็คควีน มาเป็นผู้กำกับ และ 12 Years a Slave ได้รับเลือกเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำเวทีประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 68 อีกด้วย หนังเรื่องนี้เป็นหนังเล่าถึงชีวิต โซโลมอน นอร์ธัป ชายผิวสีที่เป็นไท แต่กลับถูกขายไปเป็นทาส ความรู้สึกที่ได้ดูครั้งแรก อย่างแรกเลยคือ หดหู่และเข้าใจชาวผิวสีมากขึ้น *รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราและไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นนอกจากรีวิวหนัง ถ้ามีข้อความไหนขัดแย้งหรือไม่ตรงกับใครก็ขออภัยด้วยนะคะเรื่องย่อเมื่อปี ค.ศ. 1841 โซโลมอน นอร์ธัป ชายผิวดำที่เป็นเสรีชนและมีฐานะดีในนิวยอร์ก โซโลมอน นอร์ธัป เป็นนักไวโอลินที่เก่งและมีชื่อเสียงพอตัว เขาถูกคนขาวว่าจ้างให้เล่นดนตรีงานหนึ่ง แทนที่เขาจะได้รับเงินค้าจ้าง แต่เขาถูกจับตัวไปขายเป็นแรงงานทาส เขาต้องตกระกำลับบากเอาตัวรอดจากการกดขี่จากนายจ้าง การหนีออกจากการเป็นทาสเป็นอะไรที่ยากเย็น แต่เขาต้องอดทนและพยายามเพื่อได้กลับไปหาครอบครัวอีกครั้งตัวอย่างhttps://youtu.be/9jSYOrCuJEI นักแสดงชิวีเทล เอจิโอฟอร์ (Chiwetel Ejiofor) รับบท โซโลมอน นอร์ธัป มิชชาเอล ฟัสเบ็นเดอร์(Michael Fassbender) รับบท นายท่านเอปส์เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) รับบท ท่านฟอร์ดซาราห์ พอลสัน (Sarah Paulson) รับบท ภรรยาของเอปส์ ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong'o) รับบท Patsey รีวิวหนังเป็นหนังที่เล่าถึงชีวิตทาส จากคนดำที่เป็นไท มีหน้ามีตาในสังคมยุคนั้น แต่กลับถูกพามาเป็นแรงงานทาส แค่อ่านคำโปรยก็รู้สึกหดหู่แล้ว พอได้ดูจริงแล้วมันยิ่งกว่าหดหู่ ตอนเริ่มหนังเล่าเรื่องไม่เป็นลำดับ ทำให้การดูปะติดปะต่อได้ยาก เปิดมาก็เล่าตอนโซโลมอนเป็นทาสเลย หนังปล่อยให้งงไม่นานก็เริ่มย้อนตอนที่เขายังอยู่กับครอบครัว ตอนนี้แหละที่เราจะได้เห็นชีวิตของโซโลมอนเป็นเสรีชน ตอนเขาเป็นเสรีชน แล้วหนังก็เริ่มเล่าแบบหนักและหดหู่ขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตทาสของโซโลมอน นอร์ธัป มันไม่ง่ายเลย ชีวิตที่ต้องเอาตัวรอดจากการกดขี่ ต้องเป็นผู้ตามใช้แรงงาน ห้ามมีปากเสียงมากกว่าคนขาว ไม่งั้นชีวิตทาสจะไม่สงบสุข นอกจากหนังจะเสนอมุมมองคนขาวกดขี่คนผิดสีแล้ว หนังยังใส่มุมมองคนผิวสีกดขี่คนผิวสีอีกด้วย และยังใส่ความเพิกเฉยต่อความถูกต้อง รู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ไม่ยอมรับว่าผิด มองข้ามเรื่องผิดเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียผลประโยชน์ คนดำกดขี่กันเอง แน่นอนว่าชีวิตทาสแสนจะลำบาก ทุกคนต่างต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่สูงกว่าหรือหลุดพ้นจากแรงงานทาส พอตัวเองได้สิทธิพิเศษเหนือกว่าคนผิวสีอื่นๆ เขาจะหันมากดขี่หรือไม่สนชีวิตทาสคนอื่น ถ้าเขาทำผิดหรือเรียกร้องให้ทาสคนอื่น หรือคนผิวสีที่เป็นเสรีชนก็หาไม่สนใจทาสผิวสีไม่ หรือต้องทำเพื่อความเอาตัวรอดรับรู้แต่ไม่ช่วยเหลือเพราะอาจจะทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์และเดือดร้อน แน่นอนว่าคุณฟอร์ดรู้ว่าโซโลมอนเป็นเสรีชน แต่เขาเลือกที่จะเพิกเฉยเพราะตัวเองจะเสียผลประโยชน์ และเหตุการณ์หลายๆฉากที่ทุกคนรู้ว่าผิดแต่เพิกเฉย ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ใช่เรื่องของตน หรือ ไม่อยากเสียผลประโยชน์นอกจากนี้หนังเสนอมุมมองนายทาสหรือคนขาวที่คิดว่าตัวเองสูงส่งและคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำ เฆี่ยน กดขี่ ฆ่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสมแก่การลงโทษแล้ว กฏหมายหรือใครจะค้านก็ไม่ฟังทั้งสิ้น ซึ่งมันน่าหดหู่มากๆ คนเหมือนกันแต่ถูกแบ่งแยกชนชั้น ฉากที่ชอบที่สุดคือฉากที่นายท่านเอปส์เฆี่ยนแพทซี่ นักแสดงทุกคนแสดงถึงแววตาได้ชัดเจนมาก แพทซี่ที่มีแต่ความข่มขื่นต่อนายท่านเอปส์และภรรยาในใจ นายท่านเอปส์ที่มีอารมณ์สับสนป่นจิตนิดๆ ภรรยาที่มีความเกลียดยุยงให้นายท่านเอปส์เฆี่ยนแพทซี่ และโซโลมอน ที่ต้องกลั้นใจทำเพื่อไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน ฉากนี้เป็นฉากที่หดหู่และน่าส่งสารจับใจมาว่าถึงนักแสดงกันดีกว่า หนังเรื่องนี้มีนักแสดงฝีมือหลายคน เริ่มด้วย ชิวีเทล เอจิโอฟอร์ (Chiwetel Ejiofor) ที่รับบทเป็น โซโลมอน นอร์ธัป การแสดงของเขาถือว่าดีมาก สีหน้าแววตาตอนเป็นทาสเขาแสดงออกมาหมด คนหนึ่งที่เราชอบคือ มิชชาเอล ฟัสเบ็นเดอร์(Michael Fassbender) รับบทเป็น นายท่านเอปส์ บทนายท่านที่โหดเหี่ยมป่นจิตนิดๆ มิชชาเอลทำออกมาได้ดีผ่านแววตาในฉากเฆี่ยนแพทซี่ ปรบมือให้เลย และอีกคนที่ชอบคือ ซาราห์ พอลสัน (Sarah Paulson) รับบทเป็น ภรรยาของเอปส์ บทนี้แสดงให้เห็นคนขาวที่คิดว่าตัวเองสูงส่งที่ในใจมีแต่ความเกลียดชังทาส สีหน้าแววตาที่ซาราห์แสดงออกมาทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครตัวนี้จงเกลียดจงชังแค่ไหน และยังมีนักแสดงมากฝีมืออีกมาก เช่น แบรด พิตต์(Brad Pitt) , พอล ดาโน่(Paul Dano) , เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์(Benedict Cumberbatch) หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตทาสที่ถูกกดขี่ ต้นเรื่องการดำเนินอาจจะไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการทำความเข้าใจมากนัก ภาพค่อนข้างสวยซึ่งเป็นความสวยที่มาพร้อมความหดหู่ หนังจะออกแนวหดหู่กับชีวิตทาส และได้ใส่ตัวละครนายจ้างหลากหลายแบบ มีทั้งใจดี เฉยๆ และโหดเหี้ยม ไล่ระดับจากเบาไปหนัก ถึงแม้นายจ้างจะมีนิสัยต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเพิกเฉยต่อระบบแรงงานทาส ชื่อเรื่อง : 12 Years a Slaveแนวหนัง : ดราม่าความยาว : 133 นาทีคะแนน : 9/10ภาพที่1 จาก instagram : cinefilosoficialภาพที่2 จาก instagram : cinefilosoficialภาพที่3 จาก instagram : miraestapeliyaภาพที่4 จาก instagram : filmhafizasiวิดีโอตัวอย่าง 12 Years a Slave จากช่อง 20thCenturyStudiosหน้าปก canva ภาพจาก instagram // filmhafizasiจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !