ส่วนตัวไม่เคยดูหนังของ บาซ เลอห์มานน์ ซักเรื่องเลย หนังของผู้กำกับคนนี้ที่ผ่านมาก็มีเรื่อง Romeo + Juliet (1996), Moulin Rouge! (2001), The Great Gatsby (2013) เราที่ได้มาดูเรื่องนี้เรื่องแรกเลยค่อนข้างจะต้องปรับจูนซักนิดพอได้ดูครั้งแรกกับโทนของหนังที่จัดจ้าน ภาพรวมถือว่าเพลิดเพลินดีเลยทีเดียว แม้หลายอย่างจะดูตะกุกตะกักไปพอสมควร แต่การนำเสนอของหนังก็ไปได้สุดทางในแบบของมัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังชีวประวัติดราม่าของ เอลวิส เพรสลีย์ ที่เล่าถึงช่วงที่ยังไม่มีชื่อเสียงมาก ไปจนถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิต โดยถูกเล่าผ่านน้ำเสียงของผู้จัดการของเอลวิสอย่าง ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์หนังค่อนข้าวยาวมาก แต่ก็เดินเร็วมากเช่นกัน (เป็นความย้อนแย้งนิดๆ 5555) แต่นานในทีนี้คือความยาวนานของหนังเป็นการเล่าเรื่องและสำรวจชีวิตของเอลวิสในหลายจุดแบบไม่ได้เรียงลำดับเป็นเส้นตรง อีกทั้งหนังก็เล่าโดยที่ไม่ได้แวะพักในจุดใดจุดนึง ผลเลยทำให้ความยาวของหนังที่ยาวมากกลับรู้สึกว่าผ่านไปไวพอสมควรเพราะหนังเล่าเรื่องต่าง ๆ ได้ฉับไว รวดเร็ว มีความเพลิดเพลิน แต่ข้อเสียในทีนี้คือไม่ได้มีเวลาสำรวจบางสิ่งบางอย่างที่ดูน่าสนใจ พอมันเล่าเรื่องราวชีวิต ประวัติศาสตร์ และประเด็นสังคมที่ควบคู่กันไป เล่าแบบเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้เจาะจงมาก เลยรู้สึกขาดอารมณ์และความหนักแน่นอิมแพคในปลายทาง แต่มันก็มีดีเทลที่น่าสนใจระหว่างทางที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ส่งผลต่อชีวิตการงานของเอลวิส ส่วนเรื่องราวของเอลวิสที่ผ่านมรสุมชีวิตก็สำรวจได้ชวนสะเทือนและน่าเศร้าเลยทีเดียวแม้เรื่องราวที่ดูขาด ๆ เกิน ๆ จะดูเป็นข้อเสียของหนัง แต่หนังก็ได้โทนและสไตล์อันโดดเด่นที่เล่าเรื่องได้มีสีสันอันฉูดฉาด ผ่านงานโปรดักชั่น เสื้อหน้าหน้าผม ซึ่งก็จัดเต็มอันทำให้ออกมาเป็นหนังชีวประวัติสุดอลังการกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านมา ส่วนการตัดต่ออันรวดเร็วฉับไวที่เสมือนกับท่าเต้นของเอลวิสอันร้อนแรงและกระฉับกระเฉง ก็สามารถเข้ากับหนังมากเลยทีเดียว แม้ว่าอาจจะเร็วจนไม่ทันได้ซึมซับอารมณ์บ้าง แต่มันก็ทำให้เราเพลิดเพลินกับหนังได้อย่างดี เหมือนมนต์ที่สะกดให้เราได้ตามติดไปกับเรื่องราวจนจบ เติมเต็มสีสันอันฉูดฉาดในตัวเรื่องราวและยุคสมัยของหนังที่นำเสนอได้อย่างดีมีส่วนที่ไม่แน่ใจอย่างนึงคือการแสดงของ ทอม แฮงส์ ที่ส่วนตัวแม้จะรู้สึกว่าเป็นการแสดงที่ดีและแตกต่างกว่าที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีความรู้สึกแปลกประหลาด ไม่รู้เป็นเพราะแกผันมาเล่นบทร้ายหรือเมคอัพค่อนข้างสะดุดเหมือนตัวละครเพนกวินในหนังแบทแมนของ แมตต์ รีฟส์ เกินไปหรือไม่ 5555 แต่ก็เป็นการแสดงที่น่าจดจำดีแต่ใด ๆ สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือการของ ออสติน บัตเลอร์ ที่แม้จะไม่ได้คล้ายตัวจริงนัก แต่การแสดงทั้งสีหน้าท่าทางก็ทำให้เราเชื่อถือได้ว่านี่คือเอสวิสตัวจริงที่กำลังเต้นและร้องอยู่ แสดงได้ทั้งทรงพลัง หนักแน่น ร้องเต้นได้จัดเต็ม อีกทั้งเขาก็มอบความรู้สึกต่าง ๆ ให้กับตัวละครนี้ได้อย่างดี ถึงความพลุ่งพล่าน ความโศกเศร้า ความสุข ความสิ้นหวังที่ผู้กระทำผ่านสังคมและผู้คนรอบข้าง ออสตินก็มอบการแสดงให้กับหนังจนกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหนังจริง ๆสำหรับเราก็ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 7.5 เต็ม 10 ครับภาพยนตร์: Elvis (2022)ประเภทหนัง: ชีวประวัติ, ดราม่า, มิวสิคัลผู้กำกับ: Baz Luhrmannผู้เขียนบท: Baz Luhrmann, Sam Bromell, Craig Pearce, Jeremy Donerคะแนนจากผู้เขียน: 7.5/10ที่มาของข้อมูลจาก IMDBขอบคุณเครดิตภาพจาก Facebook: Elvis Movie และ Warner Bros. Picturesภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565