สวัสดีครับผม "น้องฟักทอง" อีกเช่นเคยวันนี่้จะมารีวิวหนังชีวประวัติที่หลายสำนักต่างยกเป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ใน "ELVIS" เอลวิสเป็นผลงานชิ้นเอกอีกเรื่องจากผู้กำกับ "บาช เลอห์มานน์" ที่เคยสร้างโลกแฟนตาชีหรูหราลูกเล่นเพรวพราวมาหลายเรื่องแล้วอย่าง "เดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก", "Moulin Rouge!" และ "โรมิโอ + จูเลียต" พร้อมได้นักแสดงหนุ่มคลื่นลูกใหม่ที่จะมาสวมวิญญาณเอลวิสคือ "ออสติน บัตเลอร์" จาก Once Upon a Time in Hollywood ประกบคู่กับ "ทอม แฮงค์ส" จาก ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม และ เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก เอลวิสเป็นเรื่องราวเส้นทางชีวิตของศิลปินร็อคแอนด์โรลในตำนานที่ฮิตถล่มโลกตลอดกาล เอลวิส เพรสลีย์ (รับบทโดย ออสติน บัตเลอร์) เด็กหนุ่มที่ได้เติบโตในเมืองสังคมผิวสีในเมือง ทูเพอโล รัฐมิสซิสซิปปี และเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาได้รับแรงบรรดาลใจและหลงไหลในเสียงดนตรี พอเขาได้เติบโตเขาได้พบกับ ทอม ปาร์คเกอร์ (รับบทโดย ทอม แฮงค์ส) ผู้พันที่เห็นศักยภาพ อันน่าทึ่งในตัวเอลวืสเขาจึงตัดสินใจเป็นผู้จัดการประจำตัวของเขา เส้นทางชีวิตระหว่าง เอลวิส และ ทอม ที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเ้ขาไปตลอดกาล ขอบอกก่อนเลยว่าตัวผมเองไม่ได้เป็นแฟนเพลงเอลวิสมากนัก พอได้ยินเพลงของเขาแบบผ่านหูมาบ้าง แต่พอได้องดูตัวอย่างเรื่องนี้แล้วกลับมีน่าดูอย่างไม่น่าเชื่อ จนได้มาตีตั๋วมาดูในโรงด้วยตัวเอง ความรู้สึกหลังดูจบขอบอกว่าประทับใจมากๆ เริ่มที่การเล่าเรื่องมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อสักนิดเดียว รวมทั้งการตัดต่อในเรื่องก็เต็มไปด้วยความเพรวพราวและหวือหวาเข้าด้วยกัน แต่ความแปลกอยู่ตรงที่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวในมุมมองของ ทอม ปาร์คเกอร์ เป็นหลักซึ่งจะเล่าตั้งแต่เขาได้ปลุกปั้นเขาได้เป็นร็อคแอนด์โรล จนตัวเอลวิสได้จากไป แต่ตัวเขาที่ป่วยหนักอยู่พร้อมกับโดนตราหน้าว่าเป็นคนหน้าเงินที่เอาเปรียยเอลวิส ก็ยังครุนคิดถึงเขาตลอด 20 ปี แล้วตัวหนังก็เล่าเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเอลวิส เขาเป็นคนห้าวหาญ ก้าวหน้า แหกขนบ และก่อกบฐวงการเพลง จนการเมืองต้องสั่นสะเทือน ส่วนในด้านการแสดงผมขอชืนชม ออสติน บัตเลอร์ เลยเพราะเขาสามารถสวมบทบาทเป็นเอลวิสราวกับปลุกเขาให้มีชีวิตอีกครั้งนึง นอกจากจะมีการเล่าเรื่องที่น่าติดตามเพลงประกอบในเรื่องก็ถือว่าเด็ดเหมือนกันนอกจากจะเอาเพลงฮิตเอลวิสแล้ว ยังมีเพลงของศิลปินคนรุ่นใหม่อาทิเช่น โดจา เคท, Eminem, Kacey Musgraves และอื่นๆอีกมากมาย มาผสมผสานอย่างลงตัว พร้อมยังมีบทเพลงจากเสียงร้องของ ออสติน บัตเลอร์ มาอยู่ในอัลบั้มเพลงประกอบอีกด้วย บอกเลยว่าขนาดดูจบจนออกจากโรงแล้วบทเพลงยังตราตรึงลอยอยู่ในหัวเลยทีเดียว สามารถลองฟังบทเพลงสุดประทับใจได้ที่นี้เลย และอื่นนึงสิ่งที่สำคัญคืองานสร้างฉาก คอสตูมต่างๆ ที่ทำออกมาได้งามหยดและตรงกับเหตุการณ์ในยุคนั้นจริงๆ เผลอๆเราแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าฟุตเทจที่เห็นบนจอมันคือของจริงหรือของนักแสดงเอง สรุป - ภาพยนตร์เรื่อง "ELVIS" เป็นหนังแนวเพลงชีวประวัติที่ถึงแม้จะไม่ใช่แฟนคลับหรือรู้จักเอลวิส ก็สามารถเอนจอยกับหนังและบทเพลงสุดไพเราะได้ ด้วยหนังความยาว 159 นาที กลับไม่รู้สึกว่ามันเนือยยาวย้วยจนน่าเบื่อเลย มันเต็มไปด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่เพรวพราวชวนหลงไหลและน่าติดตามกับเส้นทางชีวิตของเขาได้อย่างละเอียด จนกลายเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่หาข้อติได้ยากมากๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คะแนน 9/10 เลยครับ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง "ELVIS เอลวิส" สามารถหาชมได้แล้วที่ TRUEID ในราคาเช่าย่อมเยาแค่ 149 บาท เท่านั้น. เครดิตภาพ- Warner Bros. Thailand Official Twitterภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน