วันก่อนได้มีโอกาสดูวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งเป็นวิดีโอหนังที่เขาตัดมาแค่บางฉากมาให้ชม มีหลายฉากที่ผ่านเข้ามาให้ดู แต่กลับไปติดใจฉากหนังเรื่องหนึ่ง เป็นฉากที่สนุกและน่าติดตามมาก จึงทำให้ต้องไปพิมพ์หาหนังที่เป็นฉบับเต็ม และก็ได้ดูสมใจ สนุกมาก มีทั้งอารมณ์ซึ้ง เศร้า มัน ฮา ครบทุกรสชาติ หนังดีและสนุกจนอยากบอกต่อ Hitman : Agent Jun เป็นหนังเกาหลีที่เพิ่งฉายเมื่อต้นปีนี้เอง อยากรู้ว่ามันจะสนุกและมันขนาดไหนไปดูเรื่องย่อของหนังกันเลย Hitman : Agent Jun มือสังหารสายอาร์ต เป็นเรื่องราวของจุน เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เขาเหมือนจะโดดเดี่ยว แต่กลับมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมยื่นโอกาสให้เขาเป็น จุน สายลับ NIS ฝีมือระดับเทพ จนกล่าวเป็นตำนานถึงความเก่งกาจ เขาเป็นอาวุธในร่างกายคน ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ผ่านเลือดผ่านเนื้อมามากมาย จนวันหนึ่งเขาอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองไม่ใช่มีชีวิตเพื่อรัฐบาลไปวัน ๆ โดยที่เขาไม่มีความสุขกับตัวเองเลย แต่เมื่อได้ก้าวเข้ามาถึงจุดนี้แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะขอถอนตัวหรือเลิกเป็น นอกจากความตายเท่านั้นที่เขาสมควรได้รับ ในภารกิจสุดท้ายที่จะต้องไปปฏิบัติ แต่กลับมีฝนตกอย่างหนัก และเมื่อเขากระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ ร่มชูชีพกลับไม่ทำงานจนทำให้เขาตกลงไปในน่านน้ำอันกว้างใหญ่จนทำให้หาศพไม่เจอ ทุกคนใส่ชุดดำเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาที่ตายในหน้าที่อย่างสมเกียรติ 15 ปีต่อมาปรากฏร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งหมกมุ่นอยู่กับงานเขียนผ่านเว็บตูนอย่างเคร่งเครียด เขาชอบวาดรูปการ์ตูนเพราะทำให้เขาผ่อนคลายที่สุด แต่เรื่องที่เขาเขียนกลับไม่โด่งดังเหมือนที่หวังไว้ แถมเพื่อน ๆ ของลูกก็วิจารณ์งานเขียนของเขาว่าแย่มาก ๆ ภรรยาของเขากลายเป็นคนที่หารายได้เข้าบ้าน จนทำให้เขาเครียดหนักมากและรู้สึกอับอาย จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจเขียนเรื่องราวของเขาเองลงบนเว็บตูนและทำให้เขากลายเป็นนักเขียนผู้โด่งดัง มีรายได้เข้ามามากมาย แต่แล้วก็ต้องแลกกับการถูกตามล่าจากครูฝึกสุดโหดของ NIS และผู้ร้ายข้ามชาติโรคจิตที่จะกลับมาแก้แค้นเรื่องราวในอดีต ใช่แล้ว นักเขียนผู้โด่งดังคนนี้คือคนเดียวกับนักฆ่าระดับตำนานที่เข้าใจว่าเสียชีวิตแล้ว ความสนุกจึงบังเกิดขึ้น เมื่อทั้งเมียและลูกถูกจับเป็นตัวประกันทั้งคู่ แล้วเขาจะไปช่วยใครก่อนดีเมื่อคนที่จับตัวสองคนนั้นเป็นคนละพวก ฉากที่ประทับใจจนจดจำได้อย่างดี เป็นฉากที่แอบเศร้าและน่าสงสารเล็กน้อย เมื่อลูกสาวเล่าพร้อมน้ำตาถึงความน่าสงสารของผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่การหาเงินได้น้อย การโดนแม่บ่นทุกวัน การวาดการ์ตูนที่ไม่เอาไหน หรือการที่พ่อแอบไปทำงานก่อสร้างเพื่อให้ได้เงินมา ซึ่งเป็นการระบายตามประสาของเด็กที่มีต่อพ่อโดยที่ไม่เคยพูดออกมา แต่ทั้งหมดนั้นกลับสร้างความอับอายให้กับผู้เป็นพ่อเพราะในฉากนั้นมีอดีตครูฝึกและน้องชายอีกคนยืนอยู่ด้วย เป็นฉากที่ทั้งเศร้า ทั้งน่าขำและน่ารักมาก ๆ สิ่งที่ชอบจากหนังเรื่องนี้คือ เรื่องราวฮา ๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียด เป็นความฮาที่มันไม่น่าจะมี แต่มันกลับสร้างเสียงหัวเราะได้ ชอบทุกตัวละครเลย ทุกคนมีความรักมีมิตรภาพดี ๆ ให้แก่กัน แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม ความรักของครอบครัวก็เปฺ็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เมียที่ชอบบ่นแต่ก็รักเขามาก ลูกที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง แต่ลึก ๆ กลับรักและสงสารพ่อเขามาก สิ่งที่เรียนรู้อีกอย่างคือ ไม่ว่าใครก็ต้องการความรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรัก เพื่อนฝูง ครอบครัว ไม่มีใครอยากอยู่อย่างโดดเดี่ยวหรอก และความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ สิ่งที่ได้จากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ได้ข้อคิดเตือนใจในการใช้ชีวิตว่า แม้จะมีชีวิตที่ดี การงานที่มั่นคง เงินทองมากมาย แต่หากชีวิตที่มีไม่ใช่ของตัวเอง ไม่มีความอิสระ สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถมีความสุขได้ เหมือนตัวเอกของเรื่องที่ยอมทิ้งการงานและเงินตราทั้งหมดเพื่อที่จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีอิสระอยากจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องขออนุญาตจากใคร สุดท้ายแล้วแม้เส้นทางที่เขาเลือกจะไม่สบายเหมือนที่เขามีก่อนหน้า แต่เขากลับมีความสุขที่ได้มีคนรัก มีครอบครัวแค่นี้ก็มีความสุขกับชีวิตแล้ว ผู้เขียนเองก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคนรอบข้าง ไม่รักงานจนมากเกินไป พยายามแบ่งเวลาให้สมดุลกันเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นขอบคุณภาพถ่ายทั้งหมด