ส่วนตัวได้ตามดูซีรีส์มาก่อน แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแฟนอนิเมะเรื่องนี้ แต่เราก็รู้สึกสนุกกับแนวทางที่อนิเมะนำเสนอออกมาทั้งความดาร์คแฟนตาซี มีความสยองขวัญ ปนตลกขบขัน แต่ก็มีเส้นเรื่องตัวละครอันดราม่าที่จับต้องได้ สำหรับภาคหนังก็เล่าเรื่องราวของอีกตัวละครที่เคยกล่าวถึงในซีรีส์ ชื่อว่า "ยูตะ" ที่ได้เผชิญกับคำสาปของริกะ ทำให้ยูตะได้มาเจอกับอาจารย์โกโจและได้เข้าโรงเรียนไสยเวทเพื่อศึกษาและหาทางคลี่คลายคำสาปจากตัว โดยเรื่องราวเกิดขึ้นก่อนหน้าภาคซีรีส์ หากใครไม่ได้ดูภาคซีรีส์มาก็ก่อนก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะถือเป็นหนังที่จบในตอน แต่ถ้าหากใครดูมาก็ถือว่าน่าจะอินมากขึ้นส่วนตัวไม่ได้ประทับใจตัวเรื่องมาก เพราะภาคหนังค่อนข้างมาทรงเดียวกันซีรีส์ที่ว่าด้วยพระเอกที่ไปกี่ยวพันกับคำสาป แล้วมีอาจารย์โกโจเข้ามาช่วยและดึงตัวเข้าโรงเรียน พล็อตก็จะมาทรงๆนี้ที่มีความคล้าย ๆ ในเรื่องราว เล่าเรื่องไปตามสูตรได้ครบดี เลยไม่ได้รู้สึกมีอะไรแปลกใหม่หรือเกินคาดเดาทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังทำหน้าที่พาไปสำรวจตัวละครใหม่ได้น่าสนใจ ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของความรักระหว่างยูตะและริกะที่เป็นเสมือนกับความรักอันบริสุทธิ์และต่อมามันก็มาทำให้ตัวยูตะหวาดผวาและสั่นคลอนมาตลอดตั้งแต่วันที่ริกะจากไป เรารู้สึกเสียดายที่ความสัมพันธ์ระหว่างยูตะและริกะ แม้ว่าจะเล่าออกมาได้โอเคดี แต่ก็อยากให้มันปูเรื่องราวให้มากกว่านี้ เพราะหนังยังไม่พาให้เรารู้สึกร่วมกับมันมากนัก ส่วนปัญหาใหญ่ของหนังสำหรับเราจริง ๆ คือหนังค่อนข้างเดินเรื่องไว เลยไม่ได้มีเวลาสำรวจทั้งตัวละครหลักและรองมากนัก และทั้งอารมณ์ความรู้สึกในหลายซีนที่ยังไม่ชวนซึมซับอารมณ์ได้เพียงพอนักใด ๆ แล้ว งานแอ็คชั่นก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังก็ว่าได้ ทำหน้าที่แบกตัวหนังได้มากพอสมควร เพราะซีนแอ็คชั่นต่าง ๆ ก็สามารถทำให้เราสนุกและเพลิดเพลินไปจนจบ มีความน่าตื่นตาตื่นใจ มีสีสันฉูดฉาดอลังการไม่แพ้ซีรีส์ที่ยังคงใช้วัตถุดิบความเป็นไสยเวท คำสาป คุณไสย ได้มันส์ชวนเร้าใจ มีหลายซีนที่ทำให้รู้สึกชอบหนังขึ้นมาได้พอสมควรจากข้อเสียต่าง ๆ ได้ เช่น ซีนคุยกันในห้องเรียนระหว่างยูตะกับมากิ และ ซีนที่ยูตะกับอินุมากิได้ไปสู้ด้วยกัน เป็นต้น ซึ่งซีนต่าง ๆ ที่กล่าวมาก็สามารถเติมเต็มมิติตัวละครหลักและรองนอกเหนือจากภาคซีรีส์ได้มีหัวใจและมุมมองที่เชื่อมความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านี้ไว้ด้วยกันส่วนตัวละครที่เราประทับใจในภาคนี้คือ มากิ ที่หนังภาคนี้ได้ดึงเสน่ห์มากขึ้น มีแอร์ไทม์ที่มากขึ้น มีการบอกเล่าเรื่องราวตัวละครระหว่างทางที่เติมเรื่องส่วนของซีรีส์และชวนให้เข้าใจถึงความผูกพันธ์ระหว่างมากิและยูตะที่มีร่วมกัน อีกทั้งก็เป็นตัวละครที่มีความน่ารักและสุดเท่ไปในตัว เชื่อว่าหลายคนน่าจะหลงรักเธอคนนี้แน่นอนอีกอย่าง ถือว่าเป็นหนังเซอร์วิสชวนฟินไม่แพ้หนังมาร์เวล โดยเฉพาะช่วงท้ายที่สร้างสีสันและเอาใจคนที่ตามอนิเมะมาอย่างมากถึงการปรากฎของหลาย ๆ ตัวละครที่เราคุ้นเคย แม้จะมาเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่มันก็สร้างความสนุกน่าประทับใจและชวนปริ่มอิ่มเอมได้อย่างดี สำหรับเราก็ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 7 เต็ม 10 ครับ***ที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน รสนิยมและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไปลองดูและพิสูจน์กันได้ฮะภาพยนตร์: Jujutsu Kaisen 0 (2021)ชื่อหนังต้นฉบับ: 劇場版 呪術廻戦 0ประเภทหนัง: แอนิเมชัน, แอ็คชั่น, แฟนตาซีผู้กำกับ: Sunghoo Parkผู้เขียนบท: Hiroshi Sekoคะแนนจากผู้เขียน: 7/10ขอบคุณเครดิตภาพจาก Twitter: @animejujutsu, Facebook: Major Groupภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565