เชื่อว่าหลายคนน่าจะโตมากับ Toy Story และตุ๊กตา บัซ ไลท์เยียร์ ที่เป็นขวัญใจเด็ก ๆ ทั้งในจอและนอกจอ ในวันนี้ หนังแอนิเมชันเรื่อง "Lightyear บัซ ไลท์เยียร์" ได้เข้าฉายแล้วในภาพยนตร์ เราก็ได้ไปดูมาแล้วฮะ ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค พอมองเป็นภาพรวม ส่วนตัวอาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ชอบมากมาย แต่มันจะมีประเด็นบางอย่างและบางซีนในหนังที่ก็รู้สึกว่ามันทำได้ดีและน่าประทับใจ โดย ‘Lightyear’ เป็นหนังภาคแยกของตัวละคร บัซ ไลท์เยียร์ จากแอนิเมชันToy Story โดยบัซ ไลท์เยียร์ เป็นของเล่นที่มาจากหนังเรื่องโปรดของแอนดี้ (ซึ่งเป็นตัวละครเด็กดีใน Toy Story) โดยหนังเรื่องโปรดของแอนดี้เรื่องนั้นก็คือ Lightyear ซึ่งก็เป็นเสมือนทั้งจุดต้นกำเนิดของของเล่นและเป็นจุดกำเนิดของความสนุกสนานของวัยเด็กอย่างเรา ๆ ด้วยเช่นกันที่หลายคนน่าจะเติบโตมาชอบครึ่งแรกของหนังมาก เป็นแนวทางที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ทั้งเรื่องราวสุดทะเยอทะยานในโทนหนังไซไฟผจญภัยที่สามารถตรึงคนดูให้สนุกเพลิดเพลิน ประเด็นเรื่องของความผิดพลาด ความสูญเสีย และความสัมพันธ์เพื่อนร่วมงาน ก็สามารถสอดรับกับหนังได้ลงตัวและพร้อมจะทำให้น้ำตาซึมในครึ่งแรก เอาจริงดูแล้วก็ได้กลิ่นอายของหนังหลายเรื่อง เช่น Top Gun: Maverick, The Mitchells vs the Machines, Interstellar และ Star Trek เป็นต้น ออกจะบี ยอนด์ สมชื่อสู่ความเวิ้งว้างอันไก ล้โพ้น โดยเฉพาะกับครึ่งหลังที่ไปในทางนี้ที่คาดไม่ถึง ขณะเดียวกันมันก็ผสมผสานกับอารมณ์ขัน มีความตลกอบอุ่นใจ มีตัวละครที่โดดเด่นและแย่งซีน เช่น ซ็อกส์ และป้าในแก๊ง เป็นต้น ที่สร้างสีสันกับหนังได้อย่างดีแอบเสียดายครึ่งหลังที่พอหนังปูเรื่องราวจนเข้าที่เข้าทาง หนังก็เข้าตามสูตรหนังของพิกซาร์แบบไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มาก ทั้งความสนุก เหตุผลหนังที่ยังคงหลวม ๆ แต่มีจุดโหวตามรายทาง อีกทั้งครึ่งหลัง หนังก็ค่อนข้างเดินเรื่องไว อัดแน่นไปด้วยซีนแอ็กชันจนไม่ได้มีเวลาใส่ใจตัวละครบางตัว ซึ่งเราว่าถ้ามันน่าสำรวจไปได้ไกลกว่านี้ หนังก็น่าจะออกมามีมิติที่น่าสนใจกว่า ภารกิจที่ทำให้ตัวละครก้าวผ่านทั้งปมในใจและอุปสรรคข้างหน้าก็ออกจะพื้น ๆ ไม่ได้สนุกน่าลุ้นมากมาย หนังเลยออกมาค่อนข้างขายความเป็นเด็กมากไปจนแอบจืดไปหน่อยส่วนที่น่าประทับใจที่พอกลบข้อเสียของหนังไปได้คือประเด็นหนังในครึ่งแรกที่ชวนตั้งคำถามได้อย่างน่าสะเทือนและถึงอารมณ์ ถึงเรื่องของความเสียสละ ความสูญเสีย ความเย่อหยิ่งและทะเยอทะยาน ความโดดเดี่ยวอ้างว้างที่เต็มด้วยความสิ้นหวัง จากภารกิจที่บัซกำลังทำว่ามันคุ้มค่ากับความสูญเสียที่แลกไปแล้วหรือไม่ ซึ่งความสัมพันธ์ของบัซและอลิชา แม้จะปูเรื่องมาไม่มาก แต่สามารถทำให้คนดูประทับใจได้อย่างดี (ประทับใจซีนห้องโล่ง ๆ ที่บัซดูคลิปอลิชาแล้วทำท่า To infinity...and beyond ชวนซึมเศร้ามากๆ)ส่วนที่ชอบมากอีกอย่างคือ คริส อีแวน ที่มาให้เสียงพากย์ตัวละคร บัซ ไลท์เยียร์ ที่น่าประทับใจ ทั้งลงตัวกลมกลืนและเท่ดุดัน คาแรกเตอร์น้ำเสียงเหมาะสมกับตัวละครในหนังอย่างมาก ซึ่งก็สร้างความประทับใจและเติมเต็มหนังได้อย่างดีส่วนงานภาพ วิชวลเอฟเฟค ซีจีใด ๆ ก็ไม่ต้องพูดถึงเลยฮะ ยังคงทำออกมาได้ดีงามสมกับหนังแอนิเมชันฟอร์มยักษ์ประจำปีนี้ แม้จะมีข้อเสียที่เรื่องราวหาทางลงง่ายตามสูตรไปในช่วงหลัง แต่หนังก็สามารถดูได้เพลิดเพลินน่าติดตามไปจนจบ พร้อมทั้งมันก็พาหวนสู่วัยเด็กให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งเช่นกัน สำหรับผู้เขียนก็ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 6.5/10ที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน รสนิยมและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไปลองดูและพิสูจน์กันได้ หนังฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพยนตร์: Lightyear (2022)ประเภทหนัง: แอนิเมชัน, แอ็กชัน, ผจญภัย, ไซไฟผู้กำกับ: Angus MacLaneผู้เขียนบท: Jason Headley, Angus MacLaneคะแนนจากผู้เขียน: 6.5/10ขอบคุณเครดิตภาพจาก Twitter: @PixarsLightyear / Official Website ของแอนิเมชันภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565