เครดิตภาพ Facebook Officialในที่สุดผมก็ได้ชม Spider-Man ในเวอร์ชั่นทอม ฮอลแลนด์ ซักที Spider-Manที่มีความสดใส ไม่มีดราม่าหม่นหมองเหมือนเวอร์ชั่นเก่า ๆ ทำให้เราดู Spider-Man ในมุมของเด็กซน ๆ คนหนึ่งได้อย่างเพลิดเพลินหนังเล่าเรื่องต่อจาก Civil War ประมาณ 8 ปี ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Tom Holland) เขาดีใจมากที่ตัวเขาได้เป็น 1 ในทีมอเวนเจอร์ แต่หลังจากที่เขาไปมีวิวาทในCivil War เขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าเขายังไม่มีความสามารถที่จะเข้าทีมอเวนเจอร์แบบเต็มตัวได้ อาจจะเพราะเขายังเด็กเกินไป ทำได้ดีที่สุดก็คือช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เหตุการณ์ก็พลิกผันเมื่อปีเตอร์ไปรู้เบาะแสของพวกแก๊งค์ค้าอาวุธของ อันเดรียส ทูเมอร์ส(Michael Keaton) เขาจึงต้องการพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่สตาร์ค (Robert Downey Jr.) เห็นว่าเขาเองก็มีความสามารถว่าดีพอเช่นกันช่วงครึ่งแรกของหนังจะเผยให้เห็นเกี่ยวกับตัวปีเตอร์ พาร์คเกอร์ซะส่วนใหญ่ ก็เพราะต้องการให้คนดูรู้จัก Spider-Manให้มากขึ้น และสืบเนื่องที่โทนี่เคยให้ชุดกับสูทสไปดี้เอาไว้ ปีเตอร์ก็พยายามเรียนรู้ที่จะใช้มัน ซึ่งชุดนี้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำ ๆ ให้แมงมุมภาคนี้มีความก้าวหน้าทางวิวัฒนาการ มากกว่าจะเป็นชุดยางยืิด ๆ ที่ไม่สามารถป้องกันภัยอะไรได้นอกจาแนบไปกับลำตัวให้ดูเท่ ๆ เท่านั้น เพราะนอกจากชุดใหม่จะเพิ่มลูกเล่นในส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นแล้ว ก็ยังมีความสวยงามและจะถอดเข้าถอดออกก็ง่ายสะดวกกว่าภาคเก่า ๆ เครดิตภาพ Facebook Officialในส่วนของการเดินเรื่องหนังมีความสดใส ทำห้ผมรู้สึกสนุกตื่นเต้นว่าจะเกิดอะไรต่อไป และแน่นอนก็ยังมีมุกตลกมาเรียกเสียงฮาได้ตลอด แต่ก็เป็นตลกร้ายเหมือนเดิม ภาคนี้คนดูอาจจะอยากช่วยลุ้นให้สไปเดอร์แมนได้เข้าทีมอเวนเจอร์แบบเต็มตัวซักที แต่ยังไงในสายตาโทรนี่ ปีเตอร์ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งและที่โทนี่พยายามไม่ให้ปีเตอร์มาร่วมทีมก็เพราะว่าห่วงอันตรายนั่นเอง ภาคกิจอันตรายที่แม้แต่ในความรู้สึกลึก ๆ ของปีเตอร์ก็ยังแอบหวั่นใจ และคิดว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอ แต่เขาก็ฮึดสู้ขึ้นมาจนได้ในส่วนของฉากแอ็คชั่น บอกได้เลยว่ามันส์และบ้าระห่ำสุด ๆ สู้กันซะแทบจะทั้งเรื่อง แถมตัวหนังก็ไม่มีความน่าเบื่อมากนัก เรียกได้ว่าครบทุกรสและดูเพลินมากจริงๆ เครดิตภาพ Facebook Officialคาแร็คเตอร์ของทอม ฮอลแลนด์กับบท Spider-Man ที่ดูเกรียนเพราะความเป็นเด็ก มันทำให้ทอมดูมีเสน่ห์และเหมาะกับบทบาทสไปดี้มากขึ้น เรียกได้ว่าไม่มีใครที่จะเหมาะกับบทนี้เท่าทอมอีกแล้ว ทอมถ่ายทอดบทของ Spider-Man เวอร์ชั่นเกรียนและสดใส ทำให้ผมเทใจให้ Spider-Man ยุคทอม ฮอลแลนด์มากที่สุดคะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 นี่คือการต้อนรับกลับบ้านมาร์เวลของ Spider-Man ที่แท้จริงเพราะในภาค Civil War ปีเตอร์ก็เหมือนแค่ตัวประกอบและ Spider-Man ที่มีความสดใส สดใหม่และความขี้เล่นและเกรียนของทอม ที่ทำให้อารมณ์หนังเปลี่ยนไปในแนวที่สดใสมากขึ้น เป็นการ Refresh & Rebuilt Spider-Man ใหม่หมดคะแนนเอฟเฟคต์ 9/10 ไม่ต้องพูดถึงฉากวินาศสันตะโรและฉากแอ็คชั่นในภาคนี้ครับ มันส์และจุใจขอบู๊แน่นอน และมันน่าสนใจขึ้นมากกับความเกรียนของสไปเดอร์แมนที่ดูเหมือนจะไม่มีสาระอะไร แต่เขานั้นเต็มที่กับการต่อสู้ทุกครั้ง ทุกอย่างดูเหมือนเขาไม่ตั้งใจแต่ก็เป็นเพียงเพราะเขาพูดมากเท่านั้นเอง มันเลยเป็นเสน่ห์ในฉากแอ็คชั่นที่สะใจกับพระเอกที่บู๊ไปโม้ไปนั่นเองเครดิตภาพ Facebook Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความอยากพิสูจน์ตัวเองของปีเตอร์ สืบเนื่องจากภาค Civil War ที่เขารู้สึกว่าตัเวองยังไม่เก่งมากพอที่จะเข้าทีมอเวนเจอร์ เขาจึงตัดสินใจใช้พลังที่เขามี ทลายแก๊งค์ค้าอาวุธโดยลำพังเพื่อพิสูจน์ตัวเอง2. ความเป็นห่วงของโทนี่ ไม่ใช่ว่าที่โทนี่ไม่ให้ปีเตอร์เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์เพราะคิดว่าสไปเดอร์แมนยังไม่เก่ง แต่เขาแอบเป็นห่วงปีเตอร์เพราะเขายังเด็กเกินไป แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมเพราะปีเตอร์หัวดื้อและพยายามพิสูจน์ตัวเองจนเขาใจอ่อนนี่คือการเปิดโลกทัศน์สไปเดอร์แมนในศักราชใหม่และ Rebuilt ให้ดูสมกับยุคสมัยมากกว่าเก่า ซึ่งบอกเลยว่าทุกคนอาจจะลืมสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นเก่า ๆจนสนิทไปเลยก็ได้เครดิตภาพ Facebook Official