เครดิตภาพ Fast Saga Officialความสุขของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ฌอน บอสเวลล์ (Lucus Black) คือการออกไปซิ่งรถ เพื่อหนีออกจากบ้านที่ไม่มีความสุข แต่วันนึงเกิดพลิกผลันไปมีเรื่องแข่งรถกับพวกเด็กไฮโซโรงเรียนเดียวกัน จึงทำให้แม่ของฌอน ต้องเลือกที่จะส่งฌอนไปอยู่โตเกียวกับพ่อ ไม่งั้นฌอนจะต้องติดคุกการที่ฌอนมาอยู่ที่โตเกียว เค้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ด้วยขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เข้ากับเพื่อนไม่ได้ แต่แล้วชีวิตเค้าก็กลับมาสดใสอีกครั้งเมื่อทวิงกี้ (Bow Bow) เพื่อนชาวอเมริกันของเขาแนะนำและดึงเค้าเข้าสู่วงการรถแข่งใต้ดินของญี่ปุ่น ทำให้ฌอนได้พบกับ นีล่า (Nathalie Kelley) ซึ่งเป็นแฟนกับ ทาเคชิ (Brian Tee) เจ้าพ่อแห่งการดริฟต์รถในวงการแข่งรถใต้ดิน หรืออีกฉายา DK (Drift King) เครดิตภาพ Fast Saga Officialด้วยนิสัยที่ซ่า ไม่เคยกลัวใครของฌอน ก็ดันไปท้าDK แข่งรถโดยที่ตัวเองไม่มีรถด้วยซ้ำ ฮาน (Sung Kang) เห็นแววในความใจกล้าของฌอน จึงให้ยืมรถไปแข่ง แต่สุดท้ายก็ทำรถพังยับเยิน ฌอนจึงติดหนี้บุญคุณของฮานไปโดยปริยาย หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของฌอนกับนีล่าก็พัฒนาขึ้น จึงเกิดเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างฌอนกับทาเคชิ โดยที่มีลุงคามาตะ ซึ่งเป็นลุงของทาเคชิ (Sonny Chiba) มาเฟียยากูซ่ามีอิทธิพลมาตัดสินให้ใครที่เป็นแฟนของพอล วอคเกอร์ และวิน ดีเซล ภาคนี้ก็ทำใจเลยนะครับ เพราะไม่มีสองคนนั้นมาเป็นนักแสดงหลักเลย แต่ไม่ต้องห่วงภาคนี้เป็นภาคเปิดตัวของ ฮาน ตัวละครทรงเสน่ห์ของหนังจักรวาล Fast ในภาคต่อ ๆไปครับ ถ้าถามว่าในความคิดผมว่าดูมีเสน่ห์ตรงไหน ลักษณะท่าทางที่นิ่ง ๆ ดูฉลาด แต่แฝงไปด้วยความมีเสน่ห์ มันยิ่งทำให้ตัวละครตัวนี้น่าติดตามว่าคิดจะทำอะไรต่อไปกันแน่หัวใจหลักของภาคนี้ ไม่ได้ประชันกันที่ความเร็วครับ ประชันกันที่การดริฟต์ซะส่วนใหญ่ ทุกครั้งที่ดึงเบรคมือพร้อมกับเลี้ยงพวงมาลัยบังคับทิศทางให้รถขับผ่านไปในช่องแคบ ๆได้โดยไม่มีรอยขีดข่วน นี่คือเสน่ห์ของหนังที่เป็นจุดเด่นสุด ๆ ของหนังภาคนี้เลยครับ และสิ่งที่น่าสนใจ คือหนังพยายามชี้ในเห็นความพยายามในการฝึก พยายามในการพัฒนาการดริฟต์ จากมือใหม่ดริฟต์ไม่เป็น การเป็น D.K ไปได้ยังไงกันเครดิตภาพ Fast Saga Officialเอฟเฟคต์ 8/10 ส่วนมากหนังจะเผยให้เห็นถึงความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น ยิ่งตอนกลางคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงและฉากที่ไม่พูดถึงไม่ได้ที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีคะแนนฉากเอฟเฟคต์ที่สูงขนาดนี้ ก็จะเป็นฉากสุดท้ายที่ฌอนแข่งกับ D.K ตอนช่วงลงเขานั่นเองคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้แปลกใหม่หรือน่าสนใจเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างการดริฟต์รถ ก็ทำให้หนังมีจุดขายที่น่าสนใจและน่าติดตามขึ้นมาได้ทันที ส่วนนักแสดงที่มีบทบาททำให้หนังดูมีเสน่ห์ก็จะมีแค่ฮานนะครับ ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. รถตำรวจของประเทศญี่ปุ่น วิ่งได้สูงสุดแค่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในฉากหนึ่งของหนังที่ฌอนซิ่งรถอยู่บนถนนด้วยความเร็ว 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง ฌอนก็ตกใจที่มีตำรวจ ส่วนฮานที่มีสีหน้าเรียบเฉยก็บอกว่า รถตำรวจเป็นรถโรงงาน วิ่งได้แค่ 180 ไล่ก็เหนื่อยเปล่า (นี่ถือเป็นความรู้ใหม่ของผมเลย) แต่ใครมันจะไปเหยียบขนาดนั้นกัน2. ความตั้งใจในการฝึกฝนของฌอน ในครั้งแรกของการมาประลองความเร็วที่ญี่ปุ่น และได้เสียท่าแพ้ให้กับ D.K. ไปแบบหมดสภาพ ฌอนขอร้องให้ฮานช่วยฝึกดริฟต์ให้ และพยายามตั้งใจฝึกฝน ไม่เคยบ่น ไม่เคยงอแงเลย สุดท้ายเค้าก็ทำสำเร็จครับ3. ความยุติธรรมของยากูซ่า ในฉากที่พระเอกเข้าไปตกลงกับยากูซ่าคามาตะ ว่าถ้าพระเอกชนะ ทาเคชิต้องไปจากเมืองนี้ทันที และพระเอกก็ชนะ ซึ่งผมก็ลุ้นว่าลุงเค้าจะผิดสัจจจะมั้ย สรุปก็ไม่ครับ ก็เลยได้รู้ว่า กลุ่มคนประเภทนี้เค้ายึดถือสัจจะอย่างมั่นคงจริง ๆ เครดิตภาพปก Fast Saga Official