เรื่องเล็ก ๆ หรือคำพูดเพียงคำเดียวก็สามารถใช้ประเมินตัวเราได้หลายอย่าง แม้เราจะไม่รู้ตัวก็ตาม(โซยองฮวัน, 2559, น.21)“โซยองฮวัน” ผู้เขียนหนังสือขยันให้ถูกที่ ทำงานไม่ถึงปีก็สำเร็จ เล็งเห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงปีแรกของการทำงานคือ การสร้างลักษณะนิสัยที่ดี และการทำความเข้าใจระบบขององค์กรอย่างถูกต้อง เพื่อปรับตัวใช้ชีวิตในองค์กรได้อย่างเหมาะสม แล้วพัฒนาจนเป็นบุคลากรคุณภาพ ฉายแววโดดเด่น พร้อมเปิดประตูสู่ความฝันที่ปรารถนาได้ในที่สุด หนังสือเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาช่วยพัฒนาตนเองสำหรับคนเริ่มต้นวัยทำงานที่ควรอ่านอีกเล่มหนึ่ง เพราะรวบรวมประสบการณ์ด้านงานจัดการบุคลากรมากกว่า 26 ปี กลั่นกรองออกมาเป็นเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางการทำงานเราไม่จำเป็นต้องถอดใจเพียงเพราะงานที่ทำอยู่ไม่ตรงกับความถนัดของเรา แม้แต่คนที่ทำงานเก่งเพียงงานเดียวขอแค่มุ่งมั่นตั้งใจ ไปทำงานอยู่แผนกไหนก็เปล่งประกายได้แน่นอน(โซยองฮวัน, 2559, น.66)บทที่ 1 ชีวิตทำงานปีแรก เพาะต้นกล้าผู้บริหารเนื่องจากในช่วงการทำงานปีแรกจะเผยนิสัยใจคอ พร้อมทั้งสั่งสมชื่อเสียงของพนักงานในเวลาเดียวกัน แม้ในช่วงแรกของการทำงานนั้นเนื้องานจะยังไม่ต้องการคุณสมบัติแบบหัวหน้างานหรือทักษะการเป็นผู้นำ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประเมินเรื่องความกระตือรือร้น บุคลิก นิสัยส่วนตัว ทัศนคติ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อบริษัท ระยะช่วงนี้เองที่เป็นตัวตัดสินว่ามีสิทธิ์เติบโตกลายเป็นผู้บริหารหรือเปล่า ไม่ว่าพนักงานจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม บริษัทไม่มีทางเลือกบุคลากรที่ใช้งานได้เพียงชั่วคราวแล้วต้องเลิกจ้าง เพราะการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์นั้นมีความยืดหยุ่น และมีโอกาสผันแปรสูง หากไม่เฉียบขาดจะส่งผลกระทบต่ออนาคตบริษัทอย่างแน่นอนบทที่ 2 หลักการใช้ชีวิตในบริษัทช่วง 1 ปีแรกกำหนดเป้าหมาย >> ความฝันเทียบได้กับจุดกำหนดทิศทางในชีวิต แม้จะตกอยู่ในช่วงเวลาอันยากลำบากแค่ไหน เรายังต้องฝันให้ไกลแล้วมุ่งมั่นไปตามทางที่วางเอาไว้ แม้จะยังมองไม่เห็นปลายทางในช่วงปีสองปีแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 10 ปี คนมีฝันและวิสัยทัศน์กับคนที่ไม่มีความฝันใด ๆ จะมีอนาคตที่แตกต่างกันมาก คนมีฝันอาจทำเรื่องผิดพลาดและอาจไม่ประสบความสำเร็จในทุกเรื่องอย่างที่ตั้งใจ แต่สำหรับคนที่ไม่มีความฝันแล้ว คนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เป้าหมายใด ๆ ในชีวิตให้บรรลุความสำเร็จเลยจัดระเบียบตัวเอง >> หนทางการหลุดพ้นจากชีวิตผู้ตามกลายมาเป็นนิสัยแบบผู้นำ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงนิสัยหลายอย่าง หลายคนมักคิดว่าเมื่อลาออกจากบริษัทหนึ่ง ก็จะไม่มีใครล่วงรู้ข้อผิดพลาดที่เคยทำในบริษัทเก่า แต่ที่จริงไม่ใช่เลย สังคมการทำงานแคบมาก คนเราจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมและเป็นไปได้ว่าจะกระทำผิดซ้ำเรื่องเดิมอีก จึงไม่มีบริษัทไหนเสี่ยงจ้างคนมีประวัติด่างพร้อยเข้าทำงานสักเท่าไหร่มนุษยสัมพันธ์ >> พนักงานใหม่ควรนำพลังงาน ความสดใส และดึงดูดใจมาสู่บริษัท ถ้าไม่สามารถทำให้รุ่นพี่รับรู้ถึงการมีตัวตนของตัวเอง ก็ยากที่จะเอาตัวรอดในบริษัท ต่อให้ทำงานโดดเด่นแค่ไหน หากไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่สดใส มีชีวิตชีวาแล้วล่ะก็คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ และได้รับการยอมรับในฐานะบุคลากรคนสำคัญในระยะยาวและยังมีเคล็ดลับต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น การใช้ชีวิตในบริษัทต้องปฏิบัติตัวอย่างไร การให้ความสำคัญกับบริษัทมากแค่ไหนถึงจะพอดี หรือหลักการทำงานที่จะทำให้เข้าใจเป้าหมายของตัวเองและบริษัทได้อย่างดี เป็นต้นการทำงานด้วยจิตวิญญาณว่านี่เป็น งานของฉัน บริษัทของฉันจะช่วยให้เราสร้างผลงานได้เยี่ยมยอด ได้รับคำประเมินทางบวก(โซยองฮวัน, 2559, น.230)สำหรับเด็กจบใหม่การเรียนรู้เกี่ยวกับด้านต่าง ๆ ของเส้นทางชีวิตการทำงานล่วงหน้าถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก หลายคนคิดว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำงานจะเริ่มต้นก็ต่อเมื่อทำงานแล้วเท่านั้น แต่ถ้าหากได้อ่านเล่มนี้ก่อนก็จะมีการวางแผนเส้นทางชีวิตไว้บ้างแล้ว จึงได้เปรียบคนที่ออกตัวพร้อมกัน แต่จุดเริ่มต้นแตกต่างกันอย่างแน่นอน หากติดใจลีลาการเขียนถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ตามแบบฉบับโซยองฮวัน ก็สามารถติดตามผลงานหนังสือเล่มอื่นได้ เช่น ความลับของการสอบสัมภาษณ์งาน หรือ Samsung Man คนเก่งอยู่ที่ไหนทำอะไรก็สำเร็จ เป็นต้นขอบคุณรูปภาพปกจาก AndreaPiacquadio@pexelsขอบคุณรูปภาพประกอบจาก รูปภาพประกอบที่ 1 - BearyChou (ผู้เขียน) / รูปภาพประกอบที่ 2 - BearyChou (ผู้เขียน) / รูปภาพประกอบที่ 3 - StartupStockPhotos@pixabay