(ภาพปกถ่ายโดยผู้เขียน)เคยเป็นไหมที่รู้สึกว่า อยากจะจำเรื่องราวต่าง ๆ แต่จำอย่างไรก็จำไม่หมด เพราะข้อมูลเยอะเกินกว่าจะจำไหว เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอปัญหานี้ ตอนที่เห็นหนังสือ “ฝึกสมองลองจดบันทึกเป็นภาพ” เรารู้สึกสนใจ เพราะคิดว่าอย่างน้อยจำเป็นภาพก็น่าสนุก ดีกว่ามานั่งจำข้อมูลเป็นตัวหนังสือเยอะแยะ ที่สำคัญเรามีลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียน เลยคิดว่าเทคนิจำเป็นภาพน่าจะเหมาะกับเขาด้วย จึงตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปกหน้าหนังสือเล่มนี้เขียนโดย Jeong Jin-ho (ชอง จินโฮ) เป็นหนังสือขายดีจากเกาหลี และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์พราว ราคาปกอยู่ที่ 180 บาท(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ผู้แต่งเราอยากให้ลูกได้อ่านเล่มนี้ด้วยเพื่อให้รู้เทคนิคการจดบันทึกเป็นภาพ เลยวางไว้ในจุดวางหนังสือของเขา เขาเห็นจะได้หยิบอ่าน และเด็กน้อยก็หยิบมาอ่านจริง ๆ สิ่งที่ดึงดูดให้เขาหยิบอ่านคือภาพต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเล่ม เราเห็นลูกพยายามวาดภาพตามภาพในหนังสือ และสิ่งที่รอดูต่อไปคือ เขาจะเอาภาพพวกนั้นมาประยุกต์ใช้ในการจดจำเรื่องราวต่าง ๆ หรือไม่(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ลูกลองวาดภาพตามหนังสือหนังสือเล่มนี้อธิบายความหมายของ Visual Thinking ว่า หมายถึงการคิดให้เป็นภาพ ซึ่งขั้นตอนนี้นำมาใช้เวลาสรุปใจความสำคัญ สาเหตุที่คนเราควรคิดเป็นภาพก็คือ สมองนั้นมีสองซีก ซีกซ้ายเป็นส่วนที่เกี่ยวกับภาษา ตัวเลข การใช้เหตุผล ส่วนซีกขวาเกี่ยวกับภาพ ศิลปะ ดนตรี จินตนาการ การที่คนเราจำอะไรไม่ค่อยได้ก็เพราะใช้แต่สมองซีกซ้าย การทำงานของสมองจึงขาดความสมดุล หนังสืออธิบายว่า Visual Thinking เกิดจากสามขั้นตอนคือ เห็น นึกภาพ ถ่ายทอด แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Visual Thinking ไม่ใช่ศิลปะ แต่เน้นที่การจับใจความสำคัญ ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า คนที่วาดภาพเก่งเท่านั้นที่จะทำ Visual Thinking ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องบอกตัวเองคือ เวลาวาดภาพให้ใช้เวลาสั้น ๆ พอ ในหนังสือเน้นว่า วาดง่าย ๆ วาดให้เร็ว วาดแค่สิ่งสำคัญ อะไรที่วาดไม่ได้ ก็จดเป็นตัวอักษรแทน อาจเริ่มด้วยการวาดเลียนแบบ และทำซ้ำไปเรื่อย ๆ และฝึกวาดเป็นประจำ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปกหลังหลังจากสามารถถ่ายทอดข้อมูลที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันได้แล้ว ต่อไปเราจะสามารถถ่ายทอดข้อมูลที่มีแบบแผนมากขึ้นได้ เราจะสามารถลำดับขั้นตอนเรื่องราวต่าง ๆ ได้ เช่น บันทึกการเดินทางในหนึ่งวัน ไม่ก็สามารถสร้างผังงานหรือ flowchart ที่ใช้บอกลำดับว่า ต้องทำอะไรต่อ เช่น สร้างผังบอกลำดับขั้นตอนการกำจัดขยะในบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Visual Thinking ในการสร้างแผนที่ความคิด หรือ Mind Map ได้ด้วย แต่การเขียน Mind Map ต้องอาศัยทักษะการจัดกลุ่มด้วย จะเห็นได้ว่า Visual Thinking มีประโยชน์มากเมื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงาน การเรียน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ หนังสือเล่มนี้จึงมีประโยชน์กับคนทุกเพศทุกวัย หากสามารถนำเทคนิคในหนังสือมาประยุกต์ใช้ได้ เชื่อว่าการจดจำสิ่งต่าง ๆ จะง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) คำโปรยปกหลัง