George Orwell หรือชื่อจริง Eric Arthur Blair เป็นนักเขียนชาวอังกฤษที่คนทั้งโลกได้ยกย่องว่าเป็น "หนี่งในนักเขียนที่ยิ่งใหญ่สุดของศตวรรษที่ 20" ผลงานที่โด่งดังเป็นอย่างมากได้แก่เรื่อง "Animal Farm" และ "Nineteen Eighty-Four หรือ 1984" โดยทั้งสองเรื่องที่กล่าวมาจะเป็นงานที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อนัยยะทางการเมืองและมีคุณค่าทางวรรณกรรมมากๆ แต่เรื่อง "พม่ารำลึก" นี้ก็มีดีไม่แพ้กัน เนื้อเรื่องจะย้อนไปในช่วงทศวรรษ 1920 ที่อังกฤษได้ล่าอาณานิคมและยึดครองอินเดียและพม่า หลังจากยึดครองก็ได้ทำการส่งคนอังกฤษไปทำงานและปกครองที่นั่น ขณะที่เราเริ่มอ่านเราก็จะรับรู้ถึงความแตกต่างในการใช้ชีวิตระหว่างคนผิวขาว อย่างคนอังกฤษ และคนผิวเหลืองหรือดำอย่างคนพม่าและอินเดียอย่างสิ้นเชิง พวกคนอังกฤษตื่นเช้ามาทานอาหารที่คนใช้เตรียมไว้ให้ พอสายๆก็ไปดื่มเครื่องดื่มมึนเมาที่สโมสร นอนกลางวันไม่ก็ทำงานเล็กๆน้อยๆ ทานข้าวเย็น สังสรรค์กับคนผิวขาวคนอื่นๆ ใช้ชีวิตสุขสบายเป็นชนชั้นสูงไปวันๆ ในขณะที่คนพม่าซึ่งเป็นคนพื้นเมืองต้องทำงานท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุใน มัณฑะเลย์ หรือเจ้าก์ตะดา ตามที่กล่าวไว้ในหนังสือ คอยเป็นคนรับใช้ให้กับคนผิวขาว ต่อให้มีอาชีพที่สูงศักดิ์อย่างอาชีพหมอ แต่เพราะไม่ใช่คนผิวขาวก็โดนปฏิบัติอย่างพลเมืองชั้นสองเฉกเช่นเดียวกับคนพื้นเมืองคนอื่นๆ เนื้อเรื่องจะดำเนินเล่าเรื่องถึงชีวิตของ จอห์น ฟลอรี่ หนุ่มอังกฤษที่ย้ายมาทำงานกับบริษัทค้าไม้ที่พม่า หากวันไหนที่เขาไม่ต้องเข้าไปดูงานในป่าดิบของพม่า ฟลอรี่ก็จะไปรับรู้ข่าวสารและหาอะไรดื่มที่สโมสร แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นมิตรกับคนอังกฤษคนอื่น เพราะคนอื่นๆนั้นชอบดูแคลนคนพม่าและมีท่าทีก้าวร้าวเมื่อคนพม่าเริ่มเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เพื่อนคนเดียวที่เขามีก็คือคุณหมอศัลย์แพทย์และพัสดีชื่อ วีรสวามี ซึ่งเป็นคนอินเดีย และด้วยเหตุนี้ที่ทำให้คนอังกฤษในสโมสรไม่ชอบหน้าฟลอรี่เช่นกัน นั่นก็เพราะเขา "คบค้าสมาคมกับคนพื้นเมือง"ซึ่งเรื่องราวมันเกิดขึ้นเพราะ อูโพจีง ที่ทำงานเป็นผู้พิพากษาที่เจ้าก์ตะดาต้องการที่จะทำลายชื่อเสียงและอาชีพการงานของหมอวีรสวามี คุณหมอเมื่อทราบข่าวร้ายนั้นก็ร้อนรุ่มใจพยายามหาทางออก เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง เพราะทางอังกฤษเพิ่งตั้งกฎใหม่ว่าให้ทุกสโมสรที่พม่านั้นแต่งตั้งคนพื้นเมืองเป็นสมาชิกอยู่ด้วย และแน่นอนว่าคนอื่นในสโมสรไม่พอใจและไม่อยากจะทำตามเป็นอย่างมาก หมอวีรสวามีเห็นช่องทางก็พยายามขอร้องให้เพื่อนรักอย่างฟลอรี่ช่วยเสนอชื่อเขาให้เป็นสมาชิกสโมสร เพราะที่พม่านั้นไม่มีใครกล้ามายุ่งกับคุณถ้าคุณเป็นเพื่อนหรืออยู่ในระดับเดียวกันกับคนผิวขาวนอกจากความขัดแย้ง จอร์จ ออร์เวล ก็ยังได้เล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวของฟลอรี่ตัวเอกของเรา เขารู้สึกรักพม่า และต้องการหาใครสักคนที่พร้อมที่รักสถานที่แห่งนี้เท่ากับที่เขารักมัน เปรียบได้จาก quote หนึ่งในหนังสือ "Beauty is meaningless unless until it is shared" หรือแปลว่า ความสวยงามตรงหน้าจะไร้ซึ่งความหมาย หากไม่มีใครได้ประสบร่วมกันกับเขา ฟลอรี่ต้องการใครสักคนคอยคลายความเปลี่ยวเหงาที่เขามีจากการใช้ชีวิตในต่างแดน และนั่นทำให้เขาพบกับ เอลิซาเบธ สาวสวยจากอังกฤษซึ่งเป็นหลานสาวของคนในสโมสร โดยสรุปแล้วสิ่งที่เราชอบจากหนังสือเล่มนี้คือการเล่าเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นภาพของพม่าในยุคทศวรรษ 1920 ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของป่า และการดำเนินชีวิตทั้งคนพื้นเมืองและคนผิวขาว ทัศนคติ อุดมการณ์ การใส่ร้ายป้ายสี การเมืองสกปรก การเหยียดเชื้อชาติ ความรัก และแก่นแท้ของชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอน และชีวิตยังต้องดำเนินต่อแม้จะเกิดอะไรขึ้น ใครที่ต้องการหาหนังสืออ่านฆ่าเวลาก็อยากจะฝากผลงานดีๆอย่าง Burmese Days หรือ พม่ารำลึก ที่เขียนโดยนักเขียนในดวงใจของเรา George Orwell ไว้ด้วยค่ะ ขอบคุณภาพจากhttps://readery.co/9786167144429https://en.m.wikipedia.org/wiki/File:Vegetable_stand_madraslancer_mandalay1886.jpg