Highlightคนรวยไม่ได้ทำงานเพื่อเงินชำระหนี้ให้ตัวเองเป็นอันดับแรกทรัพย์สินซื้อความฟุ่มเฟือยมีสตางค์มันก็ดีเหลือเกิน มีสตางค์จะทำอะไรก็เพลินจะตาย แต่น่าแปลกนะคที่พอคำถามเด็ก ๆ ทุกคนกลับมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอ ทนาย ครู นักบิน แต่ไม่มีใครแสดงความมั่นใจและพูดออกมาดัง ๆ ว่า “อนาคตหนูอยากเป็นคนรวยค่ะ/ครับ”การศึกษาในโรงเรียน ไม่ได้ปั้นให้เราเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่กำลังปั้นให้เราเป็นแรงงานที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่เรากำลังก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินมาอัพเกรดชีวิตและใช้หนี้รายเดือนที่มีอย่างสม่ำเสมอ ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าเข้าสังคม ส่งให้ที่บ้าน ฯลฯ แล้วก็ฝันอยากจะรวยกับเขาสักทีหนอเมื่อไหร่กันล่ะ? ย้อนแย้งใช่ไหม?ครั้งแรกกับสำนักพิมพ์ซีเอ็ดและหนังสือที่เกี่ยวข้องทางการเงินอย่าง “พ่อรวยสอนลูก” เขียนโดยโรเบิร์ต คิโยสะกิ นักลงทุนชาวอเมริกัน — ญี่ปุ่น ทีจะมาเปิดเผยแนวคิดของคนรวย ผ่านเรื่องเล่าจากคำสอนของพ่อทั้ง 2 คนเตรียมพร้อมเข้าสู่การอ่านเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล่า แต่มีการแบ่งเนื้อเรื่องเป็นบทใหญ่ ๆ 10 บทดังนี้พ่อรวย — พ่อจนบทเรียนที่ 1 : คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงินบทเรียนที่ 2 : ทำไมต้องรู้เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆบทเรียนที่ 3: เพิ่มทรัพย์สิน -ทำธุรกิจของตนเองบทเรียนที่ 4 :ที่มาของภาษีและประโยชน์ของนิติบุคคลบทเรียนที่ 5 : วิธีทำเงินขงคนรวยบทเรียนที่ 6 : ทำงานเพื่อเรียนรู้ — อย่าทำงานเพื่อเงินฟันฝ่าอุปสรรคเริ่มต้นอย่างไรดีข้อควรทำบทส่งท้าย / ลงมือทำ และประวัติผู้เขียนคนรวยไม่ได้ทำงานเพื่อเงินใครอ่านประโยคนี้จบคงเบ้ปาก มองบน พลางคิดในใจว่า ‘เออ ก็ใช่น่ะสิ เธอรวยจะพูดอะไรก็ได้ใช่ไหมล่ะ’ในความเป็นจริงแล้ว เราทำงานหาเงิน เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายอยู่กิน คนรวยเองก็เป็นคนเหมือนกับเราไม่ได้แตกต่างกันทางกายภาพ แต่แตกต่างกันที่วิธีคิดเมื่อคนรวยทำงาน เขาจะคิดเสมอว่าเขาจะได้อะไรจากสิ่งนี้ ซึ่ง ‘อะไร’ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงตังเงินเสมอไป อาจจะหมายถึงประสบการณ์ โอกาส หรือทักษะ ซึ่งบางทีการทำงานได้เงินอย่างเดียวก็ไม่ได้เปิดโอกาสหรือให้แนวคิดในการต่อยอดธุรกิจที่จะทำให้รวยขึ้นได้ คนรวยจึง ‘เลือก’ ทำงานเพื่อ ‘สร้างโอกาสหรือทักษะ’ ไม่ใช่เพื่อเงิน ชำระหนี้ให้ตัวเองเป็นอันดับแรกพอเงินเดือนออก สิ่งแรกที่คนมักมักจะทำคืออะไร?“จ่ายหนี้คนอื่น”ก็แหงล่ะสิ ถ้าไม่จ่ายเขาก็จะได้มาด่า ส่งจดหมายมาทวงให้อับอายเอาน่ะสิแต่คุณรู้ไหม ว่าคนรวยทำตรงกันข้ามเลย คือ เมื่อได้เงินมา เขาเลือกที่จ่ายให้ตัวเองก่อน เช่น จ่ายเรื่องค่าเรียนพิเศษของตัวเองก่อน เอาไปซื้อของที่อยากได้ก่อน เอาไปลงทุนก่อน เอาไปออมทอง ซื้อฉลากออมสิน หรือเอาไปใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับตัวเองทางใดทางนึงก่อนการกระทำนี้มีเหตุผล คือเมื่อเราเอาไปจ่ายให้ตัวเองก่อน เราก็ไม่มีเงินจ่ายหนี้คนอื่น ตอนนั้นก็จะเป็นเวลาที่เราจะบีบบังคับตัวเองทางอ้อมให้สรรหาวิธีหาเพิ่มหรือคิดวิธีการงอกเงยของเงินเมื่อถึงคราวนั้น (เมื่อคุณคิดออกและจัดการมันได้) คุณก็กลายเป็นคนรวยไปแล้วทรัพย์สินซื้อความฟุ่มเฟือยต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้านี้ คนรวยจะจ่ายหนี้ให้ตัวเองก่อน ซึ่งสังเกตุได้ว่าคนรวยจะใช้เงินอย่างมีเหตุผล และมักจะนำเงินไปเพิ่มในช่องทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินทรัพย์สินที่ว่า ก็หมายถึงสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่เป็นของเรา แถมยังสร้างรายได้ให้กับเราได้ ซึ่งความเสี่ยงมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของทรัพย์สินในขณะที่คนที่ยังไม่รวยมักจะเอาเงินไปลงทุนกับหนี้สิน เช่น รถ เสื้อผ้า ของเล่นชิ้นใหม่ อัพเกรดเฟอร์นิเจอร์ อาหารมื้อหรู ฯลฯไม่น่าแปลกใจเลยทำไมคนรวยถึงรวยเอา ๆ ในขณะที่คนยังไม่รวยก็ยังมองว่าคนรวยขี้งกต่อไป ความโดดเด่นหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์มานานแล้ว (ปี 2548) แต่เนื้อหาก็ยังเป็นปัจจุบันทันสมัยอยู่เนื้อหาเรื่องการเงินที่ถ่ายทอดผ่านเรื่งเล่าคำสอนของพ่อ จึงไม่ได้ทำให้ดูเป็นหนังสือการเงินหรือวิชาการ เป็นหนังสือเหมาะกับทุกคนที่สำคัญกระดาษหนาดีมากอ่านแล้วชอบ อย่าลืมอุดหนุนหนังสือ!“พ่อรวยสอนลูก”สำนักพิมพ์ ซีเอ็ด ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก”ภาพที่ 1 จาก www.freepik.comภาพที่ 3 จาก www.freepik.comภาพที่ 4 จาก www.freepik.comภาพที่ 5 จาก www.freepik.com