สวัสดีค่ะ ก่อนที่เราจะไปเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้กัน ขอกล่าวถึงคุณสมบัติของหนังสือเล่มนี้ก่อนนะคะสรรพคุณ : ทำให้อารมณ์ดี บำรุงประสาท อ่านไป ยิ้มไป หัวเราะไป กับมุขเด็ดๆ เผ็ดๆ มันๆ (ส์)คำเตือน : ควรอ่านวันละ 2 ครั้ง และอย่าอยู่คนเดียว เดี๋ยว! คนจะหาว่า บ้า อืม นี่มันคือหนังสือนะคะ ไม่ใช่ยาขนานใด แต่เมื่อได้ลองเปิดอ่านแล้วละก็ เชื่อว่าคุณเองก็จะติดมันงอมแงมเหมือนเจ้าของบทความตอนนี้ละค่ะ เพราะด้วยการใช้สำนวน การเล่นคำ หรือการเปรียบเปรย สิ่งต่าง ๆ ให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันเป็เสน่ห์ของผู้เขียนโดยชื่อหนังสือลักยิ้มและแววตานี้มีที่มาที่ไปคือ เป็นลักษณะของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวผู้เขียนหลงรัก และเกือบจะได้สร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ก็มีเหตุให้เข้าใจผิด และพลาดโอกาสนี้ไป ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ตกลงปลงใจกันนั้นเป็นเพราะอะไร ก็ขอให้ไปติดตามหาอ่านได้ เดี๋ยวจะทิ้งลิ้งสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ไว้ที่ใต้บทความนะคะขาดเธอไม่เป็นไร ขาดหมอผมตายแน่ความจริงคำว่าโรคประสาทนั้น อาการต่าง ๆ ที่ผู้เขียนได้อธิบายไว้ คนปกติเราก็เคยมีอาการแบบนั้นนะ คือมีความคิดที่ฟุ้งซ่าน โลดแล่นไปไกล คิดไปเองทั้ง ๆ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น หรือควบคุมความคิดของตัวเองไม่ได้ ทำยังไงมันก็ไม่หยุดคิด (หรือว่าเจ้าของบทความอาจจะเป็นโรคประสาทอ่อน ๆอยู่ก็ได้ฮ่าๆๆ) ซึ่งมันก็มักจะหยุดลงเองเมื่อเราหันไปทำอย่างอื่น แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้นั้น มันหยุดไม่ได้จนเขาต้องไปพึ่งยาของจิตแพทย์กันเลย แล้วเมื่อมีอาการเช่นนี้ ใคร ๆ ก็ต้องต่างดิ้นรนหาทางแก้กัน เหมือนว่าจะมียาของหมอจิตแล้วยังไม่พอใจ ผู้เขียนยังไปแสวงหาหมอไสหมอสาดกันให้วุ่น แต่หมอที่ไหน ๆ ก็ต้องแพ้ยาดีของหมอจิตแพทย์นี่แหละ ส่วนเมื่อได้รักษาทางกายแล้ว ผู้เขียนก็เริ่มที่จะหันมารักษาทางใจ ซึ่งเป็นต้นตอภายใน ด้วยการหันหน้าเข้าหาพุทธศาสนาจนกระทั่งเคยบวชกันเลยทีเดียวเรานึกขำตอนหนึ่ง ที่ผู้เขียนยังไม่มีงานประจำทำ ได้แต่ไปหาจิตแพทย์เดือนละครั้ง หมอก็แนะนำว่าให้ไปหางานประจำทำ แต่พอมีงานประจำทำเพื่อนร่วมงานกลับตั้งวงเหล้ากันทุกเย็น ผู้เขียนเองก็อดใจไม่ได้จนต้องไปนั่งร่วมวงกับเขา ด้วยฤทธิ์สุราทำให้อาการทางจิตของผู้เขียนนั้นเริ่มโหวงเหวง จนยาหมอเกือบจะเอาไม่อยู่ เมื่อไปพบหมอครั้งต่อไป หมอก็ถามตรงประเด็นเลยว่า ช่วงนี้คุณดื่มสุราอยู่ใช่ไหม แล้วหมอก็ฝากมาบอกว่า คุณต้องลาออกจากงานนี้ ถ้าคุณยังไม่เลิกดื่มสุราอีกเราต้องมาตั้งต้นรักษากันใหม่ ก็เอ้า! ตอนไม่มีงานหมอก็บอกให้ไปหางานประจำทำ แต่พอมีงานแล้วหมอก็บอกให้ลาออก จะเอายัไงกันแน่เนี่ย! ก็ต้องเลือกทางที่สามารถทำงานประจำได้และก็ไม่ดื่มสุราสิค่ะ ผู้เขียนเลยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่แตะของมึนเมาอีก ปฎิเสธเพื่อนร่วมงานอย่างหนักแน่นว่า " ไม่กินเหล้าเว้ย "ไปขอสัมภาษณ์เขา แต่กลับลืมกดอัดเทปจะเป็นยังไงล่ะ เมื่องานที่ได้ทำก็คือไปสัมภาษณ์นักกวีคนหนึ่ง สัมภาษณ์จบเสร็จสรรพก็ลากลับ พอมาเปิดดูไม่ได้กดบันทึกไว้ ตายแล้ว! ความคิดได้แล่นไปต่าง ๆ นา ๆ จะโดดไล่ออกไหม ขอสัมภาษณ์ใหม่เขาจะด่าไหม แต่ก็ยังพอจะมีอานิสงส์ผลบุญจากที่เพิ่งจะสึกมาหมาด ๆ ถึงจิตใจจะฟุ้งซ่าน แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง จึงแวะร้านกาแฟนั่งเขียนคำตอบที่พอจำได้ตอนสัมภาษณ์ออกมาเป็นข้อ ๆ ตรวจสอบให้เรียบร้อยแล้วกลับไปหากวีท่านนั้นอีกครั้ง ขอร้องสุดตัวบอกความจริงตามตรงว่า "ผมลืมกดเทปสัมภาษณ์ครับ อยากให้ช่วยตรวจสอบว่าสิ่งที่ผมจำได้ ผิดพลาดขาดเกินอย่างไรขอความกรุณาด้วยครับ" บทนี้คือ ขอนับถือเลยค่ะและอีกบทหนึ่ง เพราะเพื่อนผู้เขียนนั้นอยากเป็นนักร้อง มีพวงมาลัยมากมายมาคล้องคอให้ เมื่อว่างจากการทำงานผู้เขียนจึงได้กลับต่างจังหวัดเพื่อเอาพวงมาลัยไปห้อยไว้ที่โค้งตาหวาน เอ๊ะ! โค้งที่นักบิดต้องมาจบชีวิตลงที่นั่น เราก็นึกว่าเพื่อนเขาคนนั้นจะได้ดิบได้ดีออกอัลบั้มอะไรทำนองนั้น แต่นี่กลับมา รับพวงมาลัยที่โค้งหักศอกนี่เองเราชอบมิตรภาพจากเพื่อน ที่ผู้เขียนเองได้รับ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน หรือเรื่องไหน ๆ แต่มีเรื่องที่เด็ดที่สุดก็คือเรื่องสาวนี่ล่ะค่ะ ไอ้เรื่องชงสาวให้เพื่อนเนี่ยเห็นว่าจะถนัดกันนะ ไม่ว่าจะยกยอปอปั้นหรือสร้างสถานการณ์ให้มันเหมาะเจาะ โดยเฉพาะบทหนึ่งที่เพื่อนร่วมงานได้ชงให้ผู้เขียนไปส่งน้องฝึกงานที่บ้าน โดยบอกว่า บ้านพี่เขาอยู่ทางเดียวกันจัดการจราจรสายใหม่ ให้สะพานควายกับพระโขนงอยู่ทางเดียวกันโดยสรุปแล้วหนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วถึงกับต้องกุมขมับกขำไม่หยุดเลยค่ะ เพราะชีวิตของผู้เขียนที่พลิกไปพลิกมา จากคนที่เรียนจบมาใหม่ ๆ แล้วไม่มีงานทำ มีเวลาว่างเกินไปให้คิดนู่นคิดนี่ สุดท้ายมันก็หยุดคิดไม่ได้ แล้วชีวิตของเขาจะเป็นยังไงต่อไป แต่ชีวิตที่เขาได้ใช้ผ่านมานี้ ได้รวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังไงก็ฝากไปติดตามกันดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า ชีวิตของใครหลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้เรียบหรู แต่เขาก็สามารถที่จะแก้ปัญหาเท่าที่มันจะทำได้ และอยู่กับปัญหาที่รอวันคลี่คลายต่อไปเขียน : ธราธิปสำนักพิมพ์ : เรือนปัญญาปี : 2546ราคา : 125 บาทหมวดหมู่ : นวนิยายไทยจำนวนหน้า : 144 หน้า ขอบคุณภาพทั้งหมดโดย เจ้าของบทความสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ ( คลิกเลย ) ----> catbookshopภาพทั้งหมดโดย เจ้าของบทความ