รีวิวหนังสือ เพลงรักนิวตริโน . . ผลงานการเขียนของมูราคามิเมืองไทยหน้าร้อนแบบนี้จะมีหนังสือรักเล่มไหนที่น่าสนใจเท่ากับ เพลงรักนิวตริโน เพราะแค่ปกและชื่อหนังสือก็แสนเย้ายวนใจให้ลองเปิดอ่านเนื้อเรื่องเสียแล้ว เพลงรักนิวตริโน เป็นนิยายรักคลุกเคล้าประวัติศาสตร์ ผลงานการเขียนของคุณ คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น มูราคามิ เมืองไทย ด้วยมีฝีมือการเขียนที่ให้อารมณ์ความเศร้า ผิดหวัง สูญเสียได้ไม่แพ้กับ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังชายญี่ปุ่นเลยเพลงรักนิวตริโน เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่สูญเสียภรรยาสาวชาวจีนหลังจากที่ทั้งคู่ตกลงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น เมื่อตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง ภรรยาสาวของเขาก็หลับใหลและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย กลายเป็นปมในใจที่ทำให้เขาทั้งอ้างว้างและโดดเดี่ยว จนเมื่อวันหนึ่งขณะที่กำลังดูโทรทัศน์เพียงลำพังในห้องนอน ภาพภรรยาของเขาก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ทว่าเป็นภาพยนตร์จีนยุคโบราณที่ถ่ายทำมานานมากแล้ว เขาเพ่งพิจารณาให้ชัดและไม่ผิดแน่ นั่นคือภรรยาของเขา ปริศนานี้ทำให้เขาออกตามหาความจริงเกี่ยวกับภรรยาตัวเอง แต่ยิ่งตามหามากเท่าไหร่เขาก็พบกับเรื่องที่ช่างน่าเศร้ามากเท่านั้นนิยายเรื่องนี้ แม้จะมีแกนเรื่องหลักคือความรัก แต่แท้ที่จริงแล้วมีแง่มุมทางประวัติศาสตร์ซุกซ่อนอยู่ ด้วยการเล่าเรื่องราวในช่วงที่ฮ่องกงนั้นกำลังจะแยกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ช่วงเวลานั้นสภาพสังคม และความนึกคิดถึงของที่นั่นถูกถ่ายทอดเป็นเบื้องหลังของนิยายรักเล่มนี้ สำหรับเราแล้ว เราชอบเสน่ห์การเล่าเรื่อง ถ้อยคำบรรยาย และความรู้สึกของตัวละครที่สมจริง อ้างว้างแต่เด็ดเดี่ยว นัยยะแอบแฝงในแง่งามความหมายต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ดี อ่านแล้วสนุก น่าติดตามเพลงรักนิวตริโน คงไม่เหมาะกับคนที่ชอบนิยายรักหวานแหวว หรือคิดว่าเป็นนิยายที่จะสุขสมหวังได้ตลอดทั้งเรื่อง เพราะมันช่างสมจริง และคาดเดาไม่ได้ และยิ่งทำให้เราจับต้องความรักไม่ได้มากขึ้น เมื่อความจริงที่เราคาดหวัง อาจจะไม่ได้เป็นอย่างหวัง เช่นเดียวกับความรัก ที่บางครั้งเราคิดว่านี่เป็นรักที่ดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่สำหรับอีกคน อาจจะเป็นเพียงทางผ่านในชีวิตที่ผ่านมาแล้วผ่านไปก็เท่านั้น และหากให้เราแนะนำหนังสือนิยายรักมาอ่านในช่วงหน้าร้อนนี้ เพลงรักนิวตริโน ก็คงเป็นหนังสือที่เรายกให้เป็นนิยายรักดับร้อนที่ดีที่สุดของเดือนนี้เลยหนังสือ เพลงรักนิวตริโนเขียนโดย คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์ราคาปก 185 บาทภาพประกอบที่ 1 และ 3 ถ่ายโดยเจ้าของบทความภาพประกอบที่ 2 จาก Unsplash