สวัสดีค่ะทุกคน นักเขียน น.นัน มารายงานตัวงับ หลังจากที่ไม่ได้เขียนบทความมาหลายเดือนได้ ในที่สุดเราก็กลับมาแล้วนะทุกคน เย้!!!🎉 ส่วนเหตุผลที่หายไปนานแสนนานเลยก็คือ คิดเรื่องเขียนไม่ได้+ขี้เกียจ+เรียนหนักและสู้ชีวิตในมหาวิทยาลัยด้วย 😆 ถ้ามีโอกาสนะเดี๋ยวจะมาเขียนถึงชีวิตในมหาลัยของเด็กปี 1 ว่าจะสะเทือนใจและสนุกสนานมากแค่ไหนให้อ่านกันนะ 😊เอาล่ะ บทความนี้เรามาแปลกกว่าบทความอื่นๆเลยนะ รู้ไหม 555+ ก็สืบเนื่องจากว่าเราเป็นคนที่นอกจากจะเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแล้ว จริงๆเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือด้วยนะ โดยเฉพาะพวกหนังสือประวัติศาสตร์ , วรรณกรรมเยาวชนและหนังสือท่องเที่ยว ในบทความนี้เราจะมารีวิวหนังสือเล่มนึง ซึ่งเป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนแปลจากประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนึงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เธอนั้นต้องต่อสู้กับโรคร้ายแต่ในขณะเดียวกับการแฝงไปด้วยความหวังและปาฏิหาริย์ในชีวิตของเธอเอง อีกทั้งยังแสดงถึงความต้องการสันติภาพที่ควรมีบนโลกใบนี้กับชี้ให้เห็นถึงสงครามที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยมาถึงในจุดนี้แล้ว เราเชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยคงจะเดาออกแล้วล่ะว่าเราจะมาเขียนถึงหนังสืออะไร.....โอเค!! เราจะมารีวิวหนังสือ ซาดาโกะกับนกกระเรียน 1000 ตัว นั่นเองค่ะทุกคนงั้นเรามีเริ่มอ่านบทความกันเลยนะ ทุกคน Let's go !!! หนังสือซาดาโกะ วรรณกรรมเพื่อสันติภาพที่โด่งดังไปทั่วโลก 🕊️ "โอ ฝูงนกกระเรียนสวรรค์ โอบกอดลูกของฉันด้วยปีกของเธอ" หนังสือซาดาโกะเป็นหนังสือหมวดวรรณกรรมเยาวชนอีกเล่มนึงเลยที่ได้มีมีการตีพิมพ์ แปลภาษาและเผยแพร่ไปยังประเทศต่างๆรวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งมีหลายสำนักพิมพ์มากๆได้ตีพิมพ์ในตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีที่มาจากหนังสือเล่มนึงที่ชื่อว่า "โคเคชิ" ซึ่งเป็นชื่อมาจากตุ๊กตาไม้ที่ครั้นเป็นของเยี่ยมให้แก่ซาดาโกะในช่วงที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมทั้งจดหมายและบันทึกของซาดาโกะโดยเพื่อนร่วมห้องของเธอมารวบรวมและตีพิมพ์ออกเผยแพร่ไปทั่วแผ่นดินอาทิตย์อุทัยจนทำให้ทุกคนนั้นได้รู้จักกับ "ซาดาโกะ ซาซากิ" ภายหลังนั้น เอเลนอร์ คอร์ ได้เขียนเรื่องราวต่างๆจากหนังสือโคเคชิ โดยใช้ชื่อว่า "ซาดาโกะกับนกกระเรียน1000 ตัว" และทำให้ผู้คนทั่วโลกนั้นได้รู้จักเรื่องราวของเธอและความหวังที่จะให้มีสันติภาพ ไม่มีสงครามใดๆอีกซาดาโกะ ซาซากิ คือใครกันนะ 👧🏻ซาดาโกะ ซาซากิ เธอเป็นเด็กหญิงชาวญึ่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองฮิโรชิมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีตัวตนในช่วงปี ค.ศ.1943 - 1955 (พ.ศ.2486 - 2498) ในขณะที่ซาดาโกะอายุเพียง 2 ขวบนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ที่สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ชื่อว่า " Little Boy " ลงมาที่เมืองฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ. 2488) ส่งผลให้เมืองนี้พังทลายในช่วงพริบตาเดียว มีผู้คนล้มเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากความร้อนและกัมตภาพรังสีที่ร้ายแรง แต่ทว่าซาดาโกะกลับรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้มาได้ อีกทั้งตัวเธอเองมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและยังเป็นนักวิ่งประจำโรงเรียน ในเวลาต่อมาในขณะที่ซาดาโกะนั้นกำลังซ้อมวิ่งจู่ๆเธอก็รู้สึกเวียนหัวและเป็นลมล้มพับ เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลและได้รับวินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคลูคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ในสมัยนั้นจะเรียกกันว่า "โรคปรมาณู") ซึ่งต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นเพื่อนของเธอที่ชื่อว่า "ชิสุโกะ" ได้มาเยี่ยมหาและได้บอกถึงตำนานเกี่ยวกับนกกระเรียน1000ตัว ที่เชื่อว่าถ้าพับนกกระเรียนครบ 1000 ตัว จะสามารถอธิษฐานขอพรในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อซาดาโกะได้ยินดังนั้นจึงให้เพื่อนสอนพับนกกระเรียนและตัวเองได้พับนกกระเรียนเพื่อหวังให้ตัวเองนั้นได้หายป่วย แต่สุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1955 (พ.ศ.2498) เธอได้จากโลกใบนี้ด้วยอายุเพียง 12 ขวบ ปล.ปัจจุบันนี้ได้มีอนุสรณ์สถานซาดาโกะที่สวนสันติภาพ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ในทุกๆปี ผู้มาเยี่ยมเยี่ยนจะนำนกกระเรียนกระดาษมาไว้ในใต้อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงซาดาโกะและเด็กๆทุกคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามมารีวิวหนังสือซาดาโกะกันเถอะ✨หนังสือซาดาโกะที่เราจะมีรีวิวกันเนี่ยเป็นเล่มมาจากสำนักพิมพ์แพรวเยาวชนนะคะ💗😊💌 แต่ทุกคนสามารถหาอ่านและหาซื้อได้ตามร้านหนังสือหรือในเว็บต่างๆได้เลยเน้อ โดยหนังสือเล่มนี้เราซื้อมาจากร้านหนังสือนายอินทร์ในเว็บสีส้ม (ไปเดากันเองนะว่ามาจากเว็บไหน555+) ในราคา 125 บาท ซึ่งจัดส่งในวันปีใหม่พอดีเลย (ถือว่าเป็นของขวัญไปด้วยแล้วกัน🌟🎁) ซึ่งหน้าปกหนังสือนะจะเป็นรูปนกกระเรียนกระดาษหลากสีนับพันกำลังบินโลดแล่นไปยังที่ใดซักที่บนท้องฟ้า อ๋อ!!! แล้วก็หนังสือเล่มนี้มีของแถมด้วยนะก็คือที่คั่นหนังสือนั่นเองค่ะแล้วเมื่อเราเปิดหนังสือ ไปหน้าแรกก็จะพบกับโควทข้อความจากหนังสือเล่มนี้ที่กล่าวไว้ว่าซาดาโกะโผกอดแม่และฟังแม่อ่านบทกวี เมื่อมาซาฮิโระเข้ามาในห้อง ซาดาโกะก็สงบลงและมีความสุขขึ้นบ้างแล้ว เนื้อหาในหนังสือนะคะจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของซาดาโกะตั้งแต่ในวันที่ซาดาโกะนั้นเป็นแค่เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่ได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นเดียวกับเด็กๆทั่วไปจนกระทั่งตัวเองป่วยเป็นโรคลูคีเมียจนต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตลอดจนถึงความหวังที่อยากจะหายป่วยจากโรคร้ายโดยการพึ่งการพับนกกระเรียนครบ 1000 ตัว จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของเธอ อีกทั้งยังมีโควทข้อความต่างๆที่น่าสนใจจากหนังสือ,ข้อความต่างๆที่กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้,ประวัติและจดหมายจากผู้อ่านเรื่องนี้ที่เขียนถึงผู้เขียนก็คือ คุณเอเลเนอร์ คอร์ และยังมีการสอนวิธีการพับนกกระเรียนกระดาษ อ๋อแถมมีภาพการ์ตูนประกอบในแต่ละบทด้วยนะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการรีวิวหนังสือซาดาโกะกับนกกระเรียน 1000 ตัว ทุกคนอยากไปหาอ่านหนังสือเล่มนี้กันเลยใช่ไหม ซึ่งตอนที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงสิ่งแรกที่เราเป็นเลยก็คือรู้สึกสะเทือนใจและรู้สึกดิ่งในเวลาเดียวกัน😭กับสิ่งที่เด็กคนนึงต้องเผชิญที่มาจากผลของสงครามทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่เลย แต่ในขณะเดียวกันเขาได้สอนถึงการมีความหวังและปาฏิหาริย์ในชีวิตของเราไม่ว่าจะมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตาม และเราจะขอส่งท้ายบทความนี้โดยข้อความจากหนังสือเล่มนี้กันนะ ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความนี้ อย่าลืมติดตามผลงานบทความด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ✨💗นี่คือคำวิงวอนของพวกเรา นี่คือคำอธิษฐานของพวกเรา ขอให้โลกมีสันติภาพ บทความโดย : น.นันอ้างอิงเนื้อหาในการเขียนบทความจาก : หนังสือซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว (Sadako and the Thousand Paper Cranes) สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ผู้เขียน : เอเลนอร์ คอร์ และ ผู้แปล : ศรรวริศา เมฆไพบูลย์ ภาพประกอบหน้าปก : 1/2/3 จาก น.นัน (ถ่ายเอง) ตัดต่อภาพปก : Canvaภาพประกอบบทความ : 1 จาก lil artsy 2 จาก น.นัน (ถ่ายเอง) 3 จาก Wikipedia 4 จาก น.นัน (ถ่ายเอง) 5 จาก น.นัน (ถ่ายเอง) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !