สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกคน เชื่อว่าในช่วงสถานการณ์ที่โรค COVID - 19 กำลังแพร่ระบาดแบบนี้ หลาย ๆ คนจะงดกิจกรรมนอกบ้าน และใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น และหนึ่งในกิจกรรมแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่บ้านก็คือ การเติมอาหารสมองด้วยหนังสือดี ๆ ค่ะ ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวหนังสือที่ชื่อ “เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี เรียนรู้อดีต เพื่อเข้าใจอนาคต” โดยผู้เขียนที่ใช้นามปากกาว่า ลงทุนแมนค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นการสรุปเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของโลกในช่วง 1 สหัสวรรษที่ผ่านมาตามช่วงเวลา โดยเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1100 จนถึงปี 2019 เลยค่ะ โดยในช่วงแรกของหนังสือเล่มนี้จะแบ่ง Timeline ออกเป็นช่วงกว้าง ๆ จนมาถึงปี ค.ศ. 1900 เป็นต้นไปที่แบ่งระยะเวลาออกเป็นทุก ๆ 10 ปี และผู้เขียนจะกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น การระบาดของกาฬโรค หรือ Black Death ในช่วง ค.ศ. 1347 ซึ่งคร่าชีวิตประชากรชาวยุโรปไปกว่า 1 ใน 3 การเล่าเรื่องราวของยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคม ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง 4 ประเทศหลัก ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกส การค้นพบทวีปอเมริกาไปจนถึงการประกาศอิสรภาพเป็นสหรัฐอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้ การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นรากฐานสำคัญของความเจริญรุ่งเรืองในแต่ละยุค การสรุปย่อชนวนและเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ตลอดจนสงครามเย็น มาจนถึงยุคปัจจุบัน ณ จุดนี้ ผู้เขียนอยากจะบอกว่านับถือคุณ “ลงทุนแมน” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มาก ๆ เลยค่ะ เพราะหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยความรู้ เกร็ดประวัติศาสตร์มากมายที่ถูกย่อเอาเฉพาะใจความสำคัญของเหตุการณ์ในอดีตแต่ละยุคสมัย และคั้นออกมาจนได้หนังสือที่มีความหนาเพียง 222 หน้าเท่านั้นเองค่ะ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องของผู้เขียนที่มีเอกลักษณ์ทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้แตกต่างไปจากการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมาบอกเล่านิทานที่แฝงความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นและกลั่นสรุปมาเฉพาะเนื้อ ๆ แล้ว โดยผู้เขียนสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้รวดเดียวจบแบบไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ แต่กลับรู้สึกอยากอ่านต่อเรื่อย ๆ อยากรู้เหตุการณ์ต่อไป การอ่านหนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนการนั่ง Time Machine ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในอดีต นอกจากนี้ยังได้เห็นสัจธรรมความไม่แน่นอนหลาย ๆ อย่างที่ประวัติศาสตร์ได้ให้แง่คิดไว้กับเราด้วยค่ะ โดยผู้เขียนได้เห็นบางประเทศที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกร เคยเป็นผู้ล่าอาณานิคมเมื่อ 200 - 300 ร้อยปีที่แล้ว แต่วันนี้กลับเป็นเพียงประเทศหนึ่งที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือบางประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศอื่นแต่วันนี้ได้กลับกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก ยิ่งสอนให้ผู้เขียนเข้าใจว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ ค่ะ มีขึ้นมีลง ไม่มีอะไรจีรังและไม่มีความเจริญใดที่อยู่คงทนได้ถาวรค่ะ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ มนุษย์มีศักยภาพที่จะพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และพลิกโฉมโลกใบนี้ให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากเป็นไปได้ผู้เขียนก็อยากจะมีชีวิตอยู่ให้นานพอที่จะได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกนี้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดค่ะ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน)(ภาพปกบทความโดยผู้เขียน)