คนที่เราเห็นว่าโชคดี เขาโชคดีตามที่เราเห็นจริงหรือเป็นคำถามที่เราแทบไม่ค่อยได้ย้อนถามตัวเองเลยใช่มั้ยคะเวลาที่เรารู้สึกอิจฉาใครซักคน เราคิดว่าทุกคนคงเคยเจอคนที่เก่งกว่า รวยกว่า ดูดีกว่า และก็คงมีบ้างที่จะรู้สึกว่าคนเหล่านั้นช่างน่าอิจฉาและโชคดีเหลือเกินที่มีชีวิตเพอร์เฟกต์แบบนั้นได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั่นอาจเป็นเพียงแค่หนึ่งส่วนร้อยของชีวิตเขาที่เรามีโอกาสได้เห็นเท่านั้น ทำให้บางครั้งเราก็ลืมไปว่าทุกคนล้วนมีความทุกข์เป็นของตัวเองไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ความสุขก็เช่นกันค่ะ ทั้งสองอย่างนี้เป็นของคู่กันเสมอ การที่เราเห็นเขาจากมุมหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าทุก ๆ มุมในชีวิตเขาจะแบบนั้น ดังเช่นเรื่องราวของ ชายมีปีก จากหนังสือภาพ MR.WING เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี ที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้ค่ะหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในผลงานของ Jimmy Liao นักวาดภาพประกอบชาวไต้หวันผู้สร้างสรรค์หนังสือภาพสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งโด่งดังมาแล้วหลายต่อหลายเล่มไม่ว่าจะปริศนาในป่าฝัน กาลครั้งหนึ่งไม่นานมาแล้ว โลกลับยามหลับตา ฯลฯ ผลงานของเขาเป็นที่นิยมทั้งในและต่างประเทศจนถูกนำไปแปลไว้หลายภาษา นอกจากนี้บางผลงานยังได้รับการดัดแปลงทำเป็นละครเพลงรวมถึงภาพยนต์ด้วยค่ะ สำหรับหนังสือภาพของ Jimmy Liao เราเคยเขียนบทความรีวิวหนังสือของเขามาแล้วเล่มนึงคือเรื่อง A Fish That Smiled At Me ปลายิ้มได้กับชายคนหนึ่ง เป็นเรื่องราวที่แทรกแง่มุมเกี่ยวกับความรักความผูกพันไว้ได้อย่างน่าสนใจผ่านชายคนหนึ่งที่มีเพื่อนสนิทเป็นปลาหน้ายิ้ม ที่สำคัญตัวละครชายหนุ่มจากหนังสือเล่มนั้นยังกลายมาเป็นตัวละครสมทบหรือเป็นคนขับรถของชายมีปีกในหนังสือภาพเล่มนี้อีกด้วยค่ะ เราเลยอยากให้ทุกคนลองไปอ่านรีวิวเรื่องก่อนหน้านี้ดูซักนิดนะคะ รับรองว่าเป็นหนังสือภาพอีกเล่มที่มีเนื้อหาชวนติดตามไม่แพ้กันสามารถคลิกที่นี่เพื่อไปยังหน้าบทความได้เลยค่า : รีวิวหนังสือภาพ : A Fish That Smiled At Me ปลายิ้มได้กับชายคนหนึ่งMR.WING เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี เป็นหนังสือภาพที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งซึ่งเกิดมาเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างค่ะ เขาฉลาดกว่าใคร หน้าตาหล่อเหลา มีภรรยาที่สวยนิสัยดี มีลูกที่น่ารักและเชื่อฟัง ไม่ว่าจะทำอะไรเขามักเป็นที่หนึ่งเสมอ ไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง ทำให้ผู้คนต่างพากันอิจฉาในความโชคดีของเขา แล้วก็ต้องอิจฉาอย่างถึงที่สุดเมื่อวันหนึ่งชายคนนี้เกิดมีปีกเล็ก ๆ งอกขึ้นมาที่หลังของเขา ทุกคนต่างฮือฮาและประหลาดใจมาก ไม่ว่าเขาจะไปทางไหนก็มีนักข่าวคอยตามติด ผู้คนพากันรุมล้อมขอลายเซ็นและถ่ายรูปโดยที่เขาไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อเวลาผ่านไป ปีกของเขาก็ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ คนในบ้านเริ่มแพ้ขนนกจากปีกทำให้เขาต้องขึ้นไปอยู่ที่ห้องเก็บของตามลำพัง ปีกกระพือทั้งวันทั้งคืนทำให้เขาเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ในขณะที่ปีกของเขาใหญ่ขึ้น ๆ แต่เขากลับดูทุกข์ทรมานและทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆจู่ ๆ วันหนึ่งโดยไม่มีใครไม่คาดคิด ปีกของเขาก็พาเขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ผู้คนต่างตื่นเต้นที่เห็นเขาบินได้โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นโรคกลัวความสูงและเป็นโรคหัวใจ การบินครั้งแรกนั้นในที่สุดก็จบลงด้วยการที่เขาร่วงลงพื้นและบาดเจ็บจนต้องนอนพักที่โรงพยาบาลไปหลายวัน แล้วสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นเมื่อปีกไม่เชื่อฟังเขาอีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะกำลังกินข้าว อาบน้ำ ประชุมงาน เมื่อมันนึกจะบินมันก็บินพาเขาไปทั่ว มันพาเขาไปติดที่เสาไฟฟ้าแรงสูง บินไปหยุดบนเครื่องบิน พาเขาเข้าไปติดกลางพายุ เขากลายเป็นคนเหม่อลอย ไม่ว่าจะสู้กับปีกโดยมัดตัวเองไว้กับเก้าอี้หรือถอนขนปีกก็ล้วนไม่ได้ผล สุดท้ายทุกคนตัดสินใจสร้างกรงขึ้นมาเพื่อไม่ให้ปีกพาเขาบินว่อนอีกต่อไป ปีกดูเศร้าส่วนเขาร้องไห้ทุกคืนอยู่ในกรง เวลาค่อย ๆ ผ่านไป เขาเริ่มเป็นเพื่อนกับฝูงนก ส่งเสียงและพูดคุยกับพวกนก ดังนั้นเพื่อให้เขากลับมาเป็นปกติ ผู้คนตัดสินใจว่าควรตัดปีกของเขาทิ้ง เขาถูกฉีดยาสลบ ถูกล็อกปีกติดกับเตียง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อปีกกระพืออย่างรุนแรง มันแสดงออกว่าไม่ยินยอมและสะบัดออกจากตัวล็อกพาร่างของชายหนุ่มหนีไปท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เรื่องราวของชายผู้โชคดีจะเป็นยังไงต่อไปและจะจบลงแบบไหน สามารถติดตามต่อได้ในเล่มเลยค่ะรีวิวสำหรับหนังสือภาพเล่มนี้ถูกแปลโดยคุณชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล ค่ะ รอบนี้ Jimmy Liao ถ่ายทอดเนื้อหาออกมาทั้งในรูปแบบภาพประกอบและตัวอักษร โดยเขาได้ใส่คำอธิบายเรื่องราวใต้ภาพประกอบทุกภาพคล้ายนิทาน ซึ่งผู้แปลสามารถแปลออกมาได้อย่างเข้าใจง่ายและเลือกใช้คำสื่ออารมณ์ได้ดี สามารถคิดตามได้โดยตรง คำอธิบายสอดคล้องกับภาพประกอบ ทำให้เราอ่านง่ายและเข้าถึงแก่นเรื่องที่ Jimmy Liao ต้องการจะสื่อได้มากขึ้นโดยไม่ต้องวิเคราะห์จากภาพเพียงอย่างเดียว ส่วนภาพประกอบก็ยังคงแสดงถึงเอกลักษณ์ของ Jimmy Liao ได้เป็นอย่างดี ลายเส้นของเขาดูเรียบง่ายแต่รายละเอียดค่อนข้างเยอะ โดยเล่มนี้เขาเลือกใช้สีที่ค่อนข้างฉูดฉาด หลายเฉดสี ทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อแม้ตัวเล่มจะค่อนข้างหนาและมีเนื้อหามากกว่าเล่มอื่น ๆ มีการเก็บรายละเอียดในภาพทำให้ดูสมจริง แม้กระทั่งส่วนเล็ก ๆ เขาก็วาดออกมาอย่างใส่ใจ ถึงเราจะไม่ได้อ่านส่วนที่เป็นตัวอักษรก็ยังสามารถเข้าใจเรื่องราวผ่านภาพได้เป็นอย่างดีค่ะ ในส่วนของเนื้อเรื่องรอบนี้เขาค่อนข้างจุดประเด็นไว้อย่างชัดเจนค่ะ เราสามารถนึกตามออกถึงสิ่งที่เขาอยากชี้ให้เห็นซึ่งยังคงเป็นแง่คิดและมุมมองชีวิตดี ๆ ที่แฝงมากับภาพประกอบและเรื่องเล่าที่ชวนติดตาม สำหรับเราตีความมุมมองในเรื่องออกมาในแง่ของความสุขและความคาดหวังค่ะ อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นของบทความว่าในชีวิตคนเราคงเคยมีบ้างที่เคยอิจฉาใครซักคนที่ดูเพอร์เฟกต์และโชคดีในสายตาเรา การมองผ่านมุมมองเดียวอาจทำให้เราตัดสินใครบางคนไปโดยไม่รู้ตัว เราอาจนำคน ๆ นั้นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง อาจมองว่าเราโชคไม่ดีอย่างเขา ด้อยกว่า โชคร้ายกว่า เหมือนที่ผู้คนในเรื่องต่างพากันอิจฉาชายผู้โชคดีและมองว่าเขามีชีวิตที่ยอดเยี่ยมอย่างที่ใครต่อใครยากจะไขว่คว้า แต่ในทางกลับกันจากมุมผู้อ่านอย่างเราที่ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมดของเขา เขากลับดูอมทุกข์มากกว่าที่จะมีความสุขใช่มั้ยคะ ชีวิตจริงของคนเราก็ไม่ต่างกันค่ะ เรามักมองเห็นความสุขของคนอื่นใหญ่กว่าความสุขของตัวเองอยู่บ่อย ๆ และเมื่อเปรียบเทียบก็ยิ่งทำให้เห็นความทุกข์ของตัวเองใหญ่มากกว่าเก่า ทั้งที่ความจริงไม่ว่าใครก็ตามบนโลกใบนี้ก็มีสุขและทุกข์ควบคู่กันไปทั้งนั้นเราทุกข์จากการไม่มีอย่างเขาหรือทุกข์จากความรู้สึกที่กลัวว่าคนรอบข้างจะมองว่าเราไม่มีอย่างเขากันแน่ ทั้งสองอย่างนี้เหมือนจะใกล้เคียงแต่ความจริงก็ต่างกันมากใช่มั้ยคะ อย่างแรกอาจจะทำให้เราเกิดความรู้สึกอิจฉาแต่อย่างหลังอาจกลายเป็นความกดดันที่ทำให้เราพยายามที่จะมีให้ได้อย่างนั้น พอทำไม่ได้นอกจากจะต้องผิดหวังกับตัวเองแล้วยังต้องแบกรับความผิดหวังจากคนในสังคมอีก เหมือนอย่างที่ชายมีปีกถูกสังคมคาดหวัง แต่ที่สุดแล้วเขากลับไม่มีความสุขเลยแม้จะมีทุกอย่างที่ทุกคนอยากมีก็ตามแม้กระทั่งตัวเราเอง หลาย ๆ คนก็คงเคยถูกคาดหวังและเคยเผลอคาดหวังในตัวใครบางคนไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ดังนั้นที่จริงแล้วความสุขของเรานั้นอาจง่ายกว่าที่ทุกคนคิดเพียงแต่ขึ้นอยู่กับมุมมองเท่านั้นเองค่ะ เมื่อเราไม่คาดหวังในสิ่งที่เกินตัวหรือคาดหวังในตัวใครมากนัก เราก็ไม่ต้องทุกข์กับความผิดหวังมากจนเกินไป และเมื่อเข้าใจว่าสุขกับทุกข์เป็นของคู่กันเราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เพราะความสุขไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเฉพาะกับคนโชคดีหรือเพอร์เฟกต์ เพียงแค่เป็นคนที่สามารถดึงเอาด้านที่มีความสุขในชีวิตออกมาได้ ก็ถือเป็นคนที่มีสุขอย่างแท้จริงแล้วล่ะค่ะ เช่นเดียวกันกับชายมีปีก ที่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถเลือกเส้นทางที่จะอยู่ร่วมกับปีกของเขาได้อย่างมีความสุขในที่สุดสำหรับใครที่สนใจฉบับรูปเล่ม สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือหรือสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ร้านหนังสือออนไลน์ได้เลยนะคะ ราคา 285 บาทเท่านั้น จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Nanmeebooks ถ้าสั่งซื้อผ่านคิโนะคุนิยะตอนนีัมีส่วนลดอีก 10% ด้วยค่ะ สามารถคลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดได้เลย : Books Kinokuniya - MR. WING เรื่องเล่าของชายผู้โชคดีไม่แน่ว่าหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณอาจพบว่าตัวเองเป็นอีกคนที่มีความสุขและน่าอิจฉาในสายตาใครอีกหลายคนก็ได้นะคะแล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะสามารถติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่เลยค่า : Kiki เครดิต : ภาพประกอบที่ 1 โดยนักเขียน / ขอบคุณภาพประกอบที่ 2 จาก Pexels / ภาพประกอบที่ 3 โดยนักเขียน / ภาพประกอบที่ 4 โดยนักเขียน