หลาย ๆ คนที่เป็นคอหนังญี่ปุ่น คงจะพอรับรู้ว่าเสน่ห์ของหนังญี่ปุ่นบางเรื่องนั้นคือความมินิมอล ความมินิมอลในหนังญี่ปุ่นสำหรับผู้เขียนก็คือ ความเรียบง่าย ความเป็นธรรมชาติ ความไม่เยอะ และความคุมโทนของหนัง แต่ก็ยังคงถ่ายทอดความรู้สึกของเรื่องราวของหนังออกมาได้ดีเสมอ มันคือเสน่ห์ที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มทุกทีที่ได้ดูหนังญี่ปุ่นซักเรื่อง โทนของหนังทำให้หนังมีความอุ่นในเบื้องต้นและบวกเพิ่มอารมณ์ต่าง ๆ ของหนังเรื่องนั้น ๆ เข้าไป ทำให้หนังเรื่องนั้นน่าดูและน่าติดตามมากขึ้น ต้องยอมรับคะว่าผู้เขียนไม่ได้ดูหนังญี่ปุ่นมานานพอสมควร เพราะเหตุผลที่ยังหาเรื่องที่ดูแล้วถูกใจยังไม่ได้ แต่ในใจก็ยังคงมีความชอบโทนของหนังญี่ปุ่นอยู่เช่นเคย หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน Hatsukoi: Otosan, Chibi ga Inaku Narimashita (2019) ชื่อไทย เจ้าเหมียวจิบิหายไปไหนนะ? ภาพยนตร์ดัดแปลงจากมังงะผลงานขายดีของ อาจารย์นิชิ เคย์โกะโดยผู้กำกับ โคบายาชิ โชทาโร่นักแสดงนำ ไบโช จิเอโกะ รับบทเป็น ทาเคอิ ยูกิโกะฟูจิ ทัตซึยะ รับทเป็น ทาเคอิ มาซารุอิชิคาวะ มิคาโกะ รับบทเป็น ทาเคอิ นาโอโกะ (ลูกสาวคนที่สอง)เป็นหนังญี่ปุ่นที่บอกเล่าเรื่องราวความรักที่เริ่มสั่นคลอนเมื่อความรักเดินทางไปถึงในช่วงระยะหนึ่งซึ่งมีความเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับความรักของ มาซารุ และ ยูกิโกะ สองสามีภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาถึง 44 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานพอสมควร ทั้งสองคนมีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน ซึ่งลูก ๆ ได้โตกันหมดแล้วและต่างก็ออกไปมีครอบครัวและใช้ชีวิตด้วยตัวเองนอกบ้าน ทำให้สองสามีภรรยาต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง โดยมีแมวดำที่ชื่อ “จิบิ” อีกหนึ่งตัวซึ่งคอยอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับยูกิโกะตลอดมา ด้วยความรู้สึกของยูกิโกะที่เหนื่อยกับการทุ่มเทความรักและความเอาใจใส่ให้กับมาซารุอยู่เพียงฝ่ายเดียว โดยที่ไม่เคยรับรู้เลยว่ามาซารุก็รักยูกิโกะมากด้วยเช่นกัน ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยจะแสดงออกถึงความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ จึงทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหงาและไร้ตัวตนได้โดยไม่ยากนัก หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้ชีวิตเป็นแม่บ้าน ทำหน้าที่ปรนนิบัติสามีในทุก ๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องรองรับอารมณ์ของสามี คนทั้งสองได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยการดูตัว แต่บังเอิญที่มาซารุเป็นผู้ชายที่ยูกิโกะหลงรักอยู่ก่อนแล้วจึงทำให้ตัดสินใจแต่งงานได้ไม่ยากนัก และยูกิโกะเองมีความสุขมากที่ตัวเองได้แต่งงานกับชายที่ตัวเองหลงรัก แต่ก็กลับไม่เคยรับรู้เลยว่าตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่มาซารุแอบหลงรักด้วยเช่นกันด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบแสดงความรู้สึกของมาซารุ ทั้งความเฉยชาและความไม่เอาใจใส่ใจ และเรื่องที่ยูกิโกะเข้าใจผิดมาตลอดว่ามาซารุรักกับเพื่อนร่วมงานอีกคนของตัวเองเมื่อครั้งสมัยสาว จึงทำให้ยูกิโกะเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองนั้นรักมาซารุแต่เพียงฝ่ายเดียว ทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่าและโดดเดี่ยวแม้จะมีสามีอยู่เคียงอยู่ในทุก ๆ วันก็ตาม ชีวิตที่ทำซ้ำ ๆ เดิม ๆ ในทุกวันมันยิ่งสะสมความเบื่อหน่ายและหดหู่ให้กับยูกิโกะเพิ่มมากขึ้นจนหมดความอดทนในที่สุด ทำให้ยูกิโกะตัดสินใจขอหย่ากับมาซารุ และในช่วงนั้นเองเจ้าจิบิแมวดำตัวโปรดของยูกิโกะก็ได้หายออกจากบ้านไป พร้อมกับเรื่องที่มาซารุพบว่าตัวเองมีอาการป่วยและทำเกิดความเครียดในช่วงเวลาเดียวกันทำให้เกิดความไม่พอใจที่ยูกิโกะสนใจที่จะตามหาเจ้าจิบิมากกว่าสนใจตัวเอง ทำให้ยูกิโกะทั้งผิดหวังและเสียใจมากที่มาซารุไม่เคยเข้าใจความรู้สึกตัวเองบ้าง จึงตัดสินใจขอหย่ากับมาซารุในที่สุด พร้อมทั้งได้ระบายความรู้สึกให้มาซารุได้รับรู้ตัวเองมีความรู้สึกอย่างไรบ้างตลอดเวลาที่แต่งงานกับมาซารุมาจึงทำให้มาซารุเองได้รับรู้และเข้าใจถึงความรู้สึกของยูกิโกะ จึงก็ได้บอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อยูกิโกะที่เก็บไว้มานานด้วยเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่เข้าใจซึ่งกันและกัน และความสุขของคนทั้งคู่ก็กลับคืนมาพร้อมการกลับมาของเจ้าจิบะในรุ่งเช้าหนังเรื่องนี้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดในความไร้ตัวตนของอีกฝ่ายได้ดีมาก ๆ ค่ะ ผู้เขียนสามารถอินไปกับหนังได้โดยที่นักแสดงไม่ต้องมีบทที่ร้องไห้โฮออกมาเลย แต่ความรู้สึกที่นักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาให้คนดูอย่างเราอินและรู้สึกไปด้วยได้นั้นมันทำให้คล้อยตามไปด้วยได้จริง ๆ ร้องไห้ตามโดยไม่รู้ตัวและหยุดไม่ได้จริง ๆ (กินใจเหลือเกิน) ฝากไปติดตามชมกันได้นะคะรับรองคนชอบหนังแนวนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะขอบคุณรูปภาพจาก http://sahamongkolfilm.com/ปก http://sahamongkolfilm.com/