ควีนเอลซ่าและเจ้าหญิงอันนากลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง Frozen ภาคแรกเข้าฉายในปี ค.ศ. 2013 และได้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำให้เหล่าผู้ชมทุกเพศทุกวัยรู้จักกับเจ้าหญิงคนใหม่จากค่ายดิสนีย์ พร้อมเพลงประจำตัวของเธอที่ฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างเพลง “let it go” นอกจากตัวเอลซ่าหรือราชินีหิมะเองแล้ว ตัวละครอื่นๆก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นน้องสาวที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อพี่สาวที่เธอรักอย่าง อันนา ที่มาพร้อมเพลงสุดน่ารัก “do you want to build a snowman?” จากฉากที่เธอคอยพร่ำเคาะห้องพี่สาวเพื่อชวนปั้นมนุษย์หิมะ และมนุษย์หิมะตัวน้อยที่มีชีวิตขึ้นจากพลังเวทมนตร์ของเอลซ่าที่เป็นขวัญใจของทุกคนอย่าง เจ้าโอลาฟCr. ภาพจาก https://movies.disney.co.th/frozen-2มาในภาคที่สองนี้ เอลซ่าและอันนาต้องกลับมาผจญภัยสู่ดินแดนลี้ลับกันอีกครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบของปริศนาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นกำเนิดพลังวิเศษของเอลซ่าและเรื่องการตายของพ่อแม่ของทั้งสอง เนื้อเรื่องในภาคนี้โฟกัสไปที่เรื่องของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การเอาชนะความกลัว และยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น พร้อมแฝงไปด้วยข้อคิดเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติตัวละครทุกตัวทั้งเอลซ่า อันนา หรือแม้กระทั่งเจ้าโอลาฟ ได้เติบโตขึ้นและมีพัฒนาการทางด้านความคิดและความรู้สึกอย่างเห็นได้ชัด เอลซ่าที่ตอนนี้เป็นราชินีของเมืองมีความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ทำให้เธอต้องเก็บความต้องการที่แท้จริง พยายามปฏิเสธเสียงเรียกที่ลึกๆแล้วเธอเองก็ต้องการจะเดินตามไปเพื่อค้นหาความจริง อันนาเองก็มีความกังวลหลายๆอย่างต่างจากจากในภาคแรกที่มีนิสัยร่าเริงเป็นเด็ก ซึ่งทำให้เธอต้องพยายามเอาชนะความกลัวที่กัดกินหัวใจเพื่อที่จะก้าวเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มตัว ส่วนเจ้ามนุษย์หิมะโอลาฟ ก็เริ่มคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงและตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆมากขึ้นแต่ก็ยังความมีความน่ารักน่าเอ็นดูและไร้เดียงสา ขัดกับมุมมองที่บางครั้งดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ซึ่งจุดนี้หลายๆครั้งก็ถูกนำมาใช้เป็นมุกตลกเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ลั่นโรงเลยทีเดียวCr. ภาพจาก https://movies.disney.co.th/frozen-2การดำเนินเรื่องนั้นทำได้อย่างดีตามมาตรฐานของดิสนีย์ ดูแล้วไม่มีเบื่อ สลับจังหวะสนุกสนานและจริงจังดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้อินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างลงตัว ส่วนเรื่องของเพลงประกอบนั้นขอบอกไว้เลยว่าดิสนีย์จัดเต็มไม่แพ้ภาคแรกที่นอกจากเพลงของตัวละครหลักทั้งสองสาวแล้ว เพลงของโอลาฟและคริสตอฟ แฟนหนุ่มของอันนา ก็เพราะและติดหูไม่แพ้กัน ในส่วนของคอสตูมใหม่ของเอลซ่าเองหลังจากได้ไปผจญภัยและค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเองแล้วนั้น ก็จะได้เห็นชุดใหม่ที่สวยงามและอลังการสมศักดิ์ศรีราชินีหิมะสุดๆCr. ภาพจาก https://movies.disney.co.th/frozen-2ถือได้ว่า “Frozen 2 : ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยม ส่งท้ายปีที่ทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ใครที่อ่านรีวิวนี้จบแล้วก็รีบตรงไปซื้อตั๋วได้เลย เพราะ Frozen 2 เริ่มฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป Cr. รูปภาพหน้าปกจาก https://movies.disney.co.th/frozen-2