รีวิวหลังเกมบอลไทย ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก (2026) ทัพช้างศึกพ่ายทีมชาติจีนคาบ้าน 1-2หลังห่างหายจากการเข้าไปเชียร์บอลไทย ในศึกฟุตบอลทีมชาติไปนานหลายแมตช์ วันนี้เราได้มีโอกาสเข้าไปเชียร์ทีมชาติไทยในสนามอีกครั้ง กับศึกคัดบอลโลก (2026) รอบที่ 2 ที่ทีมชาติไทยเปิดบ้านรับการมาเยือนของทัพมังกร ทีมชาติจีน พร้อมกับการคัมแบ็กกลับมาใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นรังเหย้า ในรอบ 5 ปี ของทัพช้างศึกอีกด้วย บรรยากาศก่อนเกม บอกเลยว่าตื่นเต้น คึกคักมาก ส่วนตัวแอบหวั่นใจลึกๆ ว่าแฟนบอลอาจจะไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากฟอร์มทีมชาติที่ผ่านมาค่อนข้างย่ำแย่ ยังหาทรงเก่งไม่เจอ แต่ผิดคาด แฟนบอลยังคงหลั่งไหลตบเท้ากันเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เห็นได้จากคิวต่อแถวเพื่อเล่นเกมร่วมสนุกตามบูธผู้สนับสนุนหน้าสนามที่คิวยาวเป็นหางว่าว ยังไม่รวมบูธขายเสื้อฟุตบอลลิขสิทธิ์ทีมชาติ อย่างวอริกซ์ (Warrix) ที่ขายกันแทบไม่ทัน นี่ก็เข้าไปงงๆ พร้อมกับหยิบเสื้อเชียร์ตัวสีขาวคอลเล็กชั่นใหม่มาหนึ่งตัว มาถึงตรงนี้ต้องขอชมเจ้าหน้าที่ทีมขาย ทีมเชียร์อัพ ที่พร้อมบริการสุดๆ และครั้งนี้คิดว่าทางทีมงานจัดระเบียบการขายได้ค่อนข้างดี ถึงแม้ลูกค้าจะเยอะ แต่ก็สามารถพาเราไปยังจุดเสียเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปล่อยตัวเข้าสู่สนาม1 ใน 35,000 กว่าคนในสนามคนรอเข้าสนามเยอะมาก สำหรับเกมใหญ่ๆ แบบนี้คิดว่าทางทีมงานก็ยังคงจัดการได้ไม่ดีเท่าที่ควร แถมครั้งนี้มีการแบ่งแถวเข้าตรวจแยกชาย-หญิง ซึ่งเรามาเห็นป้ายก็ตอนที่อยู่กลางแถวแล้ว และหลงมาแถวผู้ชาย เรียกว่ากลับตัวไม่ทันแล้วจ้าา ส่วนตัวคิดว่าหากต้องการจะแบ่งแถวตรวจ ควรแยกฝั่งชาย-หญิง แบบคนละครึ่งให้ชัดเจนไปเลย แล้วก็ทำป้ายตัวโตๆ หน้าทางเข้า น่าจะดีกว่าเข้ามาพร้อมกับบัตรที่ระลึกการแข่งขัน เป็นการ์ดนักเตะ คิดว่าน่าจะเป็นบัตรสุ่ม ทางเราสุ่มได้เจ้าตังค์ สารัช อยู่เย็น ในสนาม รีวิวจากโซน W ชั้น 2 หน้าบัตรทำเลขที่นั่งไว้ดิบดี ขึ้นไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่านั่งตรงไหนก็ได้ที่ว่าง (แล้วจะทำเลขที่นั่งไว้ทำไม) ถ้าการบริหารจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย คิกออฟ : นำเร็ว ตีเสมอเร็ว และโดนแซงท้ายเกม ได้เฮก่อนจากลูกวอลเลย์สุดสวยของสารัช อยู่เย็น ที่เจ้าเช็ค ศุภโชค แอสซิสต์มาให้ ช้างศึกขึ้นนำ 1-0 ดีใจได้ไม่นาน ก็ถูกดับฝันเหมือนเดจาวู ทีมชาติจีนตามตีเสมออย่างรวดเร็ว 1-1 หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างเคาะบอลม้วนไปมาจนจบครึ่งแรก กลับมาต่อครึ่งหลัง จริงๆ ไทยมีโอกาสจบสกอร์สวยๆ หลายจังหวะ แต่หลุดกรอบ ติดเซฟไปหมด ขอชื่นชมนักเตะทีมชาติจีนที่แพ็กเกมรับได้ค่อนข้างเหนียวแน่น บวกกับนักเตะทีมชาติไทยที่ยังควานหาความเฉียบคมไม่เจอ และเหมือนหนังม้วนเดิมฉายซ้ำ เมื่อเกมเริ่มไปได้เกือบครึ่งชั่วโมงในครึ่งหลัง ทีมชาติจีนก็ได้ประตูแซงขึ้นนำไปก่อน 2-1 หลังจากนั้น ก็ผลัดกันทำจังหวะหวาดเสียว แต่ไม่มีฝ่ายใดได้ประตูเพิ่ม จบเกมไปด้วยความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้าน จบภารกิจในสนามด้วยการเดินขอบคุณกองเชียร์ มองหลังเกม (ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง)มองว่านัดนี้อาจจะด้วยความไม่สมบูรณ์ของนักเตะ อาการบาดเจ็บ พร้อมกับความไม่ฟูลทีม (ที่ทีมชาติชุดใหญ่ไม่เคยจะฟูลทีมสักครั้ง) บวกกับการทำการบ้านมาอย่างดีของทีมชาติจีนการเล่นในบ้านแต่เหมือนเป็นทีมเยือน หลายจังหวะที่ไทยโดนทำฟาวล์จากทีมชาติจีน แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้ไทยได้เปรียบ ทำให้นักเตะไทยเสี่ยงจากการเข้าปะทะและจังหวะเข้าทำหนักๆ จากนักเตะจีน ซึ่งก็ส่งผลให้ชนาธิปได้รับอาการบาดเจ็บกลับไปมาโน่ โพลกิ้ง กับการแก้เกม มาถึงตอนนี้เริ่มเกิดข้อสงสัยกับการทำหน้าที่โค้ชของมาโน่ (ตัดเรื่องการเลือกตัวเข้าทีมชาติ เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว) แต่ตลอด 90 นาทีในสนาม มองไม่เห็นการแก้เกมเพื่อเปลี่ยนเกมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะโดนตีเสมอหรือขึ้นนำ ทั้งยังวางตัวผู้เล่นผิดฝาผิดฝั่ง และยิ่งเห็นได้ชัดจากรูปเกมในสนาม ที่นักเตะเหมือนต่างคนต่างเล่น ไม่มีทรงใดๆ เลย พึ่งพิงแต่พรสวรรค์และทักษะเฉพาะตัวของแต่ละคนเท่านั้น จบเกมด้วยที่ 3 ของกลุ่ม แม้หนทางจะริบหรี่ แต่ก็ต้องตามเชียร์กันต่อไปตามไปให้กำลังใจนัดต่อไป ทีมชาติไทยต้องออกไปเยือนทีมชาติสิงคโปร์ ในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 #บอลไทย #ฟุตบอลทีมชาติไทย #ช้างศึก #เชียร์ไทยใจเดียวกัน #บอลโลก #ฟุตบอลโลก #คัดบอลโลก #FIFAWorldCup #FIFAWorldCup2026 ภาพประกอบ : ภาพปก, ภาพที่ 1-2, 4-9 โดยผู้เขียน Crazyalone / ภาพที่ 3 : เพจเฟซบุ๊ก ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !