Anime ReviewFrieren คำอธิษฐานในวันที่จากลา (Sousou no Frieren) (2023)เล่าเรื่องด้วยความต่าง เน้นความงดงามของความทรงจำทำให้ดูแล้วรู้สึกดี อาจไม่เร่งเร้าบีบคั้นแต่เป็นงานดีที่ต้องหลงรักสำหรับท่านที่ตามอ่านมานานตั้งแต่เขียนลงเพจดูไปบ่นไปอย่างเดียวคงพอทราบว่าผู้เขียนมีลูกชายคนเล็กที่เกิดมาพร้อมกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ แต่มาสองสามปีที่ผ่านมาเขากลับเปลี่ยนแนวไปทางการอ่านมังงะและแน่นอนเริ่มดูอนิเมะอย่างจริงจัง แล้วสิ่งที่ตามมาคือที่บ้านผู้เขียนจะต้องมีการทำกิจกรรมร่วมกันที่เมื่อก่อนจะดูหนังเป็นส่วนใหญ่แต่หลังๆมาเมื่อลูกคนเล็กกลับบ้านจากโรงเรียนประจำกิจกรรมที่ผู้เขียนเหมือนจะถูกบังคับทำร่วมกันก็คือการดูอนิเมะ แน่นอนว่าการดูอนิเมะไม่ใช่แนวผู้เขียนอย่างแรงทำให้ต่อให้ดูแล้วสนุกแค่ไหนก็ไม่ได้เขียนถึงในทุกช่องทางแม้ว่าจะดูหลายเรื่องแล้วก็ตาม ทว่าเมื่อคราวนี้ที่ลูกปิดเทอมใหญ่ที่ผู้เขียนจะต้องดูอนิเมะทุกค่ำหลังจากมื้ออาหารเย็นก็ได้พบกับอนิเมะที่ยอมรับว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้เพราะทุกเรื่องที่ผู้เขียนดูจะเป็นแนวต่อสู้ตามประสาลูกผู้ชายที่เน้นความมันส์สะใจให้เอาสนุกเข้าว่า กระนั้นสารภาพว่าผู้เขียนไม่เคยเจออนิเมะหรือจะย้อนกลับไปสมัยอ่านมังงะเมื่อครั้งวัยรุ่นที่จะเป็นแนว Feel Good แต่ได้มาเจอเรื่องนี้จึงเป็นที่มาของบทความเกี่ยวกับอนิเมะที่ท่านไม่ค่อยได้เห็นวันนี้หลังจากปราบราชาปีศาจเหล่าสมาชิกที่ร่วมกันเดินทางอันปะกอบไปด้วยเมจฟรีเรนที่เป็นเอลฟ์ฮีโร่ฮิมเมลนักบวชไฮเตอร์และคนแคระไอเซนก็ต่างแยกย้ายกันไป หลายปีต่อมาในช่วงชีวิตที่ยาวนานของเอลฟ์ฟรีเรนได้กลับมาเยี่ยมเยียนมิตรสหายเก่าจึงได้จากลาฮิมเมลก่อนเมื่อช่วงชีวิตมนุษย์สั้นกว่าเอลฟ์มากมายนัก จากนั้นก็ได้มาหาไฮเตอร์และที่นี่เองที่ฟรีเรนได้พบกับเฟรุนเด็กกำพร้าที่ไฮเตอร์อุปการะและฝากฝังให้เป็นลูกศิษย์ของฟรีเรน และหลังจากไฮเตอร์จากไปฟรีเรนและเฟรุนก็ได้เดินทางร่วมกันเพื่อย้อนรอยการเดินทางของปาร์ตี้ผู้กล้าในอดีตเมื่อครั้งเดินทางไปเพื่อปราบราชาปีศาจ ระหว่างนั้นฟรีเรนและเฟรุนก็ได้พบกับสตาร์คที่เป็นลูกศิษย์ของไอเซนแต่เขากลับไม่มีความกล้าจนเมื่อฟรีเรนได้ปลุกพลังบางอย่างในตัวสตาร์คขึ้นมาเขาก็กลายเป็นนักรบแนวหน้าฝีมือดี ถึงตรงนี้กลุ่มการเดินทางครั้งใหม่ของฟรีเรนครั้งนี้ก็มีกันสามคนและทั้งสามก็เดินทางผ่านสถานที่มากมายที่ปาร์ตี้ผู้กล้าเคยไปเยือน ทำให้ระหว่างทางนอกจากการต่อสู้แล้วภาพความทรงจำในอดีตก็ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงของฟรีเรนเล่าเรื่องด้วยความต่างจากอนิเมะทั่วไปทำให้ไม่รู้สึกอารมณ์ถูกระตุกด้วยการเล่าแบบคู่ขนาน สิ่งที่สามารถทำให้อนิเมะเรื่องนี้สามารถเข้าไปนั่งในใจคนดูที่ไม่ถนัดการดูอนิเมะอย่างผู้เขียนคือการเล่าเรื่องที่ต่างไปจากอนิเมะที่เคยดู นั่นคือเรื่องบทไม่ต้องพูดถึงยังคงมีจิตวิญญาณของมังงะและอนิเมะอยู่เต็มเปี่ยมที่มีจุดหมายชัดที่เรื่องนี้เน้นที่การจับใจ แต่การเล่าเรื่องที่แปลกไปคือมีการเดินเรื่องคล้ายกับซีรีส์ฝรั่งแบบคนแสดงโดยเล่าแบบคู่ขนานด้วยธีมของเรื่องที่เป็นแฟนตาซีเวทมนต์ผจญภัย หรือเอาง่ายๆคือเมื่อดูไปจะอดคิดถึงการเดินทางไปทำลายแหวนใน The Lord Of The Ring ของกลุ่มพันธมิตรแห่งแหวนไม่ได้และเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจมา หากแต่การเล่าเรื่องถูกเล่าแบบคู่ขนานเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันที่ทำให้รำลึกถึงอดีตในเรื่องของมิตรภาพและความรักระหว่างการเดินทางของเอลฟ์ผู้น่ารักอย่างฟรีเรนที่เหมือนจะเย็นชาแต่ว่าข้างในอุ่นระอุ แล้วการเล่าแบบนี้ทำให้อารมณ์ไม่ถูกขัดจังหวะมากเมื่อต้องย้อนกลับไปเล่าผลที่ได้คือเรื่องเดินไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ข้างในคนดูจะรู้สึกบางอย่างระหว่างดูยาวๆเรื่องจึงลื่นไหลดูเพลินไม่ต่างจากการดูซีรีส์ Feel Good ดีๆสักเรื่องแต่ยังเป็นแนวแฟนตาซีที่ดูสนุก โดยปกติอนิเมะก็ถูกสร้างจากมังงะการเล่าเรื่องจึงเป็นแบบมังงะซึ่งก็ถูกต้องแต่บางครั้งอารมณ์ก็ถูกขัดจังหวะเมื่อถึงเวลาสำคัญเข้าด้ายเข้าเข็มก็กลับไปเล่าย้อนอดีตซึ่งเรื่องนี้ก็ยังเป็นแต่มีน้อย แล้วอย่างที่บอกคือการแฟล็ชแบ็คที่มีเป็นการเลาเรื่องอดีตที่ส่งผลกับปัจจุบันที่ควบคู่กันไปคือเมื่อคณะของฟรีเรนเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆจะสะกิดใจฟรีเรนให้รำลึกอดีตนั่นคือการย้อนกลับไปเล่าเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นและมีระหว่างทางพร้อมกัน แต่เรื่องนี้มีเรื่องของอารมณ์ที่เต็มเปี่ยมเมื่อเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ลงลึกจากปัจจุบันแล้วย้อนกลับไปหาอดีตที่มีทั้งมิตรภาพการมองโลกในมุมต่างไประหว่างตัวละครรวมถึงความรักแบบจางๆที่สามารถทำให้ฉุกคิดได้ไปพร้อมกัน ผ่านงานด้านภาพที่สวยทิวทัศน์สบายตาพร้อมบทสนทนาที่โดนใจสะกิดใจมากมายตลอดเวลาโดยไม่รู้สึกว่ายัดเยียด ทั้งยังมีการต่อสู้ด้วยเวทมนต์ทำให้มีความสนุกตามครรลองแต่ด้านความรู้สึกที่เหมือนได้ร่วมเดินทางได้ร่วมรำลึกไปด้วยทำให้ดูแล้วดีต่อใจเพราะความทรงจำเป็นเรื่องที่งดงามการเดินทางเพื่อสะกิดความทรงจำก็คือการสร้างความทรงจำที่งดงามต่อไป อาจเพราะชีวิตไม่ต่างจากการเดินทางแต่ระยะทางของเอลฟ์อย่างฟรีเรนยาวนานกว่าคนอื่น นั่นหมายความว่าฟรีเรนจะต้องผ่านการจากลาหลายครั้งกว่าคนอื่นที่ผู้เขียนยอมรับว่าจุดนี้คือสิ่งที่ต่างไปจากอนิเมะหรือมังงะที่เคยดูเคยอ่านมา นั่นคือไม่ใช่เรื่องของการลุกขึ้นสู้หรือการไม่ยอมแพ้แม้กระทั่งการทำตามความฝันแต่เป็นเรื่องของหัวใจที่คิดถึงคนอื่นล้วนๆ นั่นคือหัวใจของเรื่องต่างไปเน้นเรื่องความสัมพันธ์เรื่องของการรำลึกถึงสิ่งดีๆที่ได้พบเจอร่วมกันและได้ปฏิบัติต่อกันเหมือนวันหนึ่งมีมิตรสหายจากไปแล้วมารำลึกถึงวีรกรรมวีรเวรที่เคยทำร่วมกันมา เรื่องจึงออกมาสวยปนเศร้าเพราะเป็นเรื่องของการจากลาที่ถึงตอนนี้ฟรีเรนได้รำลึกถึงสมาชิกชุดก่อนที่ทยอยล้มหายตายจาก และถ้าคิดแทนฟรีเรนก็จะต้องมีวันที่ต้องจากลาเฟรุนและสตาร์คแล้วก็ต้องอยู่ลำพังเพื่อพบกับสมาชิกใหม่เพื่อรอวันจากลาอีกเช่นกัน ดังนั้นทุกความทรงจำก็คือสิ่งที่งดงามของฟรีเรนและคนดูก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้เมื่ออาจมีบ้างบางครั้งที่รำลึกถึงความทรงจำที่สวยงามของคนดูเองตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์ที่ต้องรักเพราะเล่าด้วยความงดงามของการรำลึกถึงหลังการจากลา สิ่งที่ต้องชื่นชมคือลายเส้นและการออกแบบตัวละครทางกายภาพที่น่ารักทำให้คนดูจะต้องรัก ในส่วนของฟรีเรนที่ได้ผ่านการจากลามาหลายครั้งและเผ่าพันธุ์เอลฟ์จะเหมือนชืดชาไร้ความรู้สึกทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องชื่นชมคือการใส่อารมณ์ลงไปลึกๆข้างในฟรีเรนทั้งที่เป็นลายเส้นไม่ใช่การแสดงอารมณ์จากคนแสดง ความเยี่ยมก็คือการที่คนดูจะรับรู้ได้ว่าต่อให้ฟรีเรนทำหน้าเรียบเฉยแต่เธอไม่เคยไม่คิดถึงคนอื่นกลับกันคือในห้วงคำนึงของฟรีเรนมีคนอื่นเสมอมา นั่นเพราะการวาดที่ยอดเยี่ยมและมีการเล่าเรื่องที่ดีส่งเสริมทำให้ตัวละครฟรีเรนดูมีเสน่ห์และไม่มีทางที่คนดูจะไม่รักตัวละครนี้และพร้อมจะเดินทางผจญภัยไปกับเธอ ส่วนตัวละครอื่นคืออาจเป็นตัวละครที่ไม่มีมิติเชิงลึกมากคือมีแต่เป็นเรื่องทั่วไปเช่นเฟรุนและสตาร์คที่มีเหตุผลของตัวเอง ส่วนที่ต้องชื่นชมอีกอย่างคือการให้ฟรีเรนเป็นศูนย์กลางให้คนดูรักตัวละครรอบข้างทั้งฮิมเมล,ไฮเตอร์และไอเซนหรืออธิบายง่ายๆว่าเมื่อฟรีเรนรักคนดูก็รัก ทำให้การดูเรื่องนี้กลายเป็นการสำรวจคนรอบกายและรับรู้ว่าชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปต่อให้ภารกิจลุล่วงแล้วก็ตามดูแล้วรู้สึกดีดูแล้วหยุดไม่ได้และดูแล้วตกหลุมรักจนต้องรอซีซันต่อไป แม้ว่าผู้เขียนจะดูอนิเมะมาพอประมาณจากการโดนลูกบังคับดูแต่มีเพียงเรื่องเดียวที่เขียนถึงนั่นคือดาบพิฆาตอสูรแต่นั่นเพราะลูกอยากให้เขียนและมีมุมมองของเขาอยู่ในนั้นพอสมควร แต่กับเรื่องนี้เหตุผลที่เขียนต่างออกไปเพราะผู้เขียนอยากเขียนถึงและบทความนี้คือมุมมองของคนที่ไม่ถนัดทางอนิเมะอย่างผู้เขียนอยู่เต็มภาคภูมิ นั่นเพราะผู้เขียนยอมรับว่ารักอนิเมะเรื่องนี้เข้าเต็มที่เพราะไม่เคยมีอนิเมะเรื่องไหนที่เคยดู (ไม่นับที่เป็น Movie) ที่ดูแล้วรู้สึกดีแบบนี้ นั่นคือถ้าดูเอาความสนุกในแนวแฟนตาซีเวทมนต์ผจญภัยเรื่องนี้ก็มีให้สนุกได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อแต่ความเหนือคือหัวใจของเรื่องที่ไม่ขอใช้คำว่าแก่นคือความงดงามในการรำลึกถึงความทรงจำที่ดีที่มีร่วมกัน และการรำลึกนั้นเกิดขึ้นหลังการจากลานั่นคือความคิดถึงสหายรักที่จากไปได้รำลึกถึงความงดงามที่มิตรภาพและความรักได้มอบให้ตลอดช่วงเวลาที่มีร่วมกันผ่านภาพสวยเพลงเพราะพลิ้วแผ่วจนกลายเป็นซีรีส์ Feel Good ชั้นดีได้ถ้าไม่ใช่ว่านี่คืออนิเมะ แต่แม้จะเป็นอนิเมะที่ไม่ค่อยถนัดก็สามารถทำให้ผู้เขียนตกหลุมรักเรื่องนี้เข้าให้และตั้งตารอซีซันต่อไปดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 จาก X 『葬送のフリーレン』アニメ公式 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !