หลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อคมาตรการเคอร์ฟิวแล้ว หลาย ๆ คนคงเริ่มที่อยากจะสังสรรค์กับเพื่อน แต่ภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ที่ซบเซาบวกกับภาวะการระบาดของโรคที่จะปล่อยการ์ดให้ตกก็ไม่ได้ ผมจึงขอนำเสนอตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มเสียงเพลงในงานสังสรรค์ด้วยงบประมาณที่แสนถูกแต่ให้ความรื่นเริงได้ไม่น้อย อีกทั้งใช้งานได้ไม่ยาก ซึ่งผู้เขียนได้ใช้งานเครื่องขยายเสียงประเภทนี้มาหลายรุ่น ผู้เขียนจึงได้เลือกรุ่นที่เห็นว่าคุ้มค่าที่สุดในงบประมาณ 350 บาท จะเป็นเช่นไรบ้างนั้นไปดูกันได้เลยครับ พระเอกของเราในงานนี้ก็คือเจ้าเครื่องขยายเสียงขนาดจิ๋ว (ต่อจากนี้ผู้เขียนจะเรียกสั้น ๆ ว่าแอมป์จิ๋ว) ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่าแอมป์จิ๋วที่ผู้เขียนใช้เรียกในบทความชิ้นนี้ก็คือเครื่องขยายเสียง (Amplifier) รูปแบบหนึ่งที่มีขนาดเล็ก ที่จะต้องมีส่วนเพิ่มคือหม้อแปลงไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) หรือแบตเตอรี่ รุ่นที่นำมารีวิวในวันนี้ใช้แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงตั้งแต่ 14-34 โวลต์ (V) ส่วนราคาก็แตกต่างกันไปตามแหล่งที่จำหน่ายส่วนประกอบด้านหน้าที่สำคัญได้แก่1. ช่องชื่อมต่อสัญญาณเข้า (Input) แบบ RCA2. โวลลุ่ม (Volume) เปิด-ปิดเครื่อง และปรับความดังเบาของเสียงส่วนประกอบด้านหลังที่สำคัญได้แก่3. ช่องต่อลำโพงข้างซ้าย4. ช่องต่อไฟDC เลี้ยงวงจร5. ช่องต่อลำโพงข้างขวาในการต่อใช้งานเราก็ต่อสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือเข้ากับสายสัญญาณแบบ AUX (3.5 mm.) to RCA จากโทรศัพท์มือถือเข้าที่แอมป์จากนั้นต่อลำโพงเข้ากับช่องต่อสายลำโพง และสุดท้ายต่อไฟเลี้ยงวงจรจากแหล่งจ่ายไฟ ในการเปิดใช้งานให้หมุนโวลลุ่มขึ้นให้มีเสียงแก๊ก จากนั้นไฟLED สีน้ำเงินก็จะติด เมื่อเรากดเล่นเพลงจากโทรศัพท์ก็หมุนโวลลุ่มเพิ่มความดัง-เบาได้ตามต้องการ จุดเด่นของแอมป์จิ๋วรุ่นนี้คือมีโวลลุ่มปรับความดังเบาของเสียงได้ในตัว และมีช่องเชื่อมต่อสัญญาณเข้าที่ง่ายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังให้กำลังขับที่ค่อนข้างแรง (ขึ้นอยู่กับแหล่งจ่ายไฟที่ท่านเลือกใช้) จากประสบการณ์ของผู้เขียนแอมป์จิ๋วตัวนี้เพียงตัวเดียวก็ให้เสียงที่ดังลั่นได้ทั้งห้องสบาย ๆ (ผู้เขียนใช้แรงดันไฟกระแสตรงที่ 32 โวลต์) สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ https://www.lazada.co.th/products/10pcs-5pcs-1pcs-tda7498-xh-m510-high-power-digital-power-amplifier-board-2100w-automotive-power-amplifier-dc-14-34v-i122114017-s1326068554.html?spm=a2o4m.searchlist.list.74.3a7d7db2ZevMLO&search=1 แหล่งที่มาของภาพ : ประสิทธิ์ เซาะมัน (ผู้เขียน)