เที่ยวนอกลู่ "นั่งชิวรถไฟไปทะเล" ชายหาด สวนสนประดิพัทธ์วันนี้ขอมารีวิวที่เที่ยวสำหรับคนที่ชอบทะเลแต่ไม่ค่อยมีเวลา ชีวิตคนทำงานในเมืองหลายคนได้หยุดสัปดาห์ละหนึ่งวันจะไปเที่ยวไกลๆก็ต้องรอวันหยุดยาวเทศกาล ไปช่วงนั้นก็ต้องแย่งที่พักที่กินหรือที่เที่ยวด้วย จึงอยากแนะนำเพื่อนๆ ที่เที่ยวนอกลู่ one day trip สำหรับคนที่ชอบทำบุญและเที่ยวทะเลน่าจะถูกใจแถมใช้งบน้อยด้วยเริ่มต้นด้วยการซื้อตั๋วรถไฟ ไป-กลับกับ ขบวนรถพิเศษนำเที่ยว กรุงเทพ - สวนสนประดิพัทธ์ - กรุงเทพ (เฉพาะวันหยุด) จริงๆแล้วมีให้เลือกเที่ยวได้หลายที่มาก การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้บริการขบวนรถท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น น้ำตกไทรโยคน้อย, บ้านพลูตาหลวง, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และอีกหลายๆที่ เราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการท่องเที่ยวต่างๆได้ที่ เว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ www.railway.co.thรถไฟจะออกเดินทางตอน 06.30 น. จากสถานีกรุงเทพ ถึงสถานีนครปฐม ประมาณ 07.40 น. จุดนี้สามารถลงไปหาของกินซื้อของฝากได้ รวมถึงไปทำบุญสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ได้ เก็บภาพบรรยากาศก็สนุกนะหยุดถ่ายรูปและหาข้าวเหนียวหมูปิ้งกินเป็นมื้อเช้า สายงบน้อย เนื่องจากเป็นวันหยุดตอนเช้าคนมาทำบุญกันเยอะมาก ส่วนเราหลังจากได้ทำบุญแล้ว หลวงพ่อมอบพระให้มาเป็นที่ระลึก 1 องค์ เราก็ต้องรีบกลับเพราะอยู่ในวัดนานมิได้ มันร้อน <555> (จริงๆต้องรีบไปขึ้นรถกลัวตกรถไฟ) รถไฟออกจากสถานีนครปฐมเวลา 08.20 น. ถึงสถานีหัวหินเวลาประมาณ 11.15 น. ถ้าใครอยากเที่ยวทะเลหัวหินสามารถลงที่สถานีนี้ได้เลย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งเวลาสำหรับมารอขึ้นรถกลับ แต่เป้าหมายของทริปนี้ยังเหลืออีกสองสถานี ใช้เวลาอีก15นาที เราก็มาถึงชานชาลาจอดรถรถไฟที่สวนสนประดิพัทธ์ เดินนิดเดียวไม่กี่ร้อยเมตรเราก็ถึงชายหาดเลย บริเวณชายหาดนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายเสื้อผ้า ของฝาก สิ่งแรกที่ทำคือชมวิวและถ่ายภาพ สิ่งที่ชอบคือวิวทะเลสวยและกว้างมาก ผู้คนนักท่องเที่ยวไม่เยอะมากดูสงบกว่าชายหาดหัวหินมาก คนที่ชอบบรรยากาศชิวๆ จะต้องชอบแน่นอน หลังจากเพลิดเพลินกับบรรยากาศสักพัก ก็หาข้าวทาน และเดินทางไปต่อที่อุทยานราชภักดิ์ เราสามารถเดินไปได้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ไม่ไกลมากจากชายหาด หรือจะนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ราคานักท่องเที่ยว 50 บาท แต่เราต้องการใช้งบให้น้อยจึงเดินเท้าไป เดินไป 10 นาที เราก็ไม่แน่ใจเรื่องเส้นทางแม้จะมี GPS อยู่ในมือและท้อกับความร้อนจึงยอมขึ้นรถไป สรุปนั่งรถ 2 นาทีถึงอุทยานราชภักดิ์ไปเห็นด้วยตาดูยิ่งใหญ่มาก และก็กว้างมากแต่วันที่มาอากาศค่อนข้างร้อน แต่ก็ปกติร้อนทุกวันอยู่แล้วที่บ้านเรา เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 08.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ภายในบริเวณมีร้านอาหาร ร้านซื้อของฝากให้บริการ เมื่อถ่ายรูปกันจนพอใจเราก็เดินกลับไปยังชายหาด บางทีก็สงสัยว่าทำไมขากลับมักเร็วกว่าขาไปเสมอ หรือแค่รู้สึกไปเองเป็นเหมือนกันมั้ยครับ เมื่อกลับมาถึงชายหาดก็ลงเล่นน้ำทะเลเลย เพราะเดินจนเหงื่อออกเยอะมาก น้ำทะเลไม่สกปรกเลยค่อนข้างใส และคนก็มีเยอะขึ้นกว่าตอนแรกแล้วดูคึกคักมากขึ้นแต่แค่บางโซนนะครับ จริงๆไม่มีคำจะพูดเยอะครับแต่บอกเลยว่าดี บรรยากาศดี อากาศดี ราคาก็ดี พอถึงเวลา 15.40 น. ก็เตรียมตัวอาบน้ำเพราะเราต้องไปรอขึ้นรถไฟขากลับ ในใจก็อยากตกรถไฟนะและค้างคืนเลยอยากอยู่ต่ออีกวัน <555> ก่อนกลับเราก็แวะดูร้านค้าของฝาก บริเวณนั้นจะมีร้านค้าสวัสดิการทหารขายของอยู่ เวลา 16.15 น. เราก็กลับไปรอรถไฟที่ชานชาลา เพื่อกลับกรุงเทพ เราเดินทางกลับถึงสถานีกรุงเทพประมาณ 21.30 น. ถามว่าเหนื่อยมั้ยตอบเลยว่าไม่แค่เพลียแดด แต่สนุกและชอบมาก สุดท้ายพอถึงห้องหยิบพระในกระเป๋ากล้องที่ได้จากพระปฐมเจดีย์มาดูปรากฏว่าพระแตก ว่าแล้วเรามันดีเกินไปท่านจึงอยู่กับเราได้ไม่นานสรุปค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่ารถไฟ 120 บาท, ค่ารถมอเตอร์ไซค์ 25 บาท, ค่ากินทั้งทริปสองมื้อ 300+ ,ค่าของฝาก 0 บาท ทั้งทริปใช้เงินประมาณ 500+ แต่ถ้ารวมกาแฟตอนเช้า ก็ 700 สุดท้าย อยากให้ความสวยงามของธรรมชาติอยู่กับเรานานๆ ถ้าพกขยะอะไรไปก็เก็บกลับมาทิ้งเป็นที่เป็นทางด้วยนะ ที่ชายหาดสะอาดมากเพราะส่วนหนึ่งอยู่ในการดูแลของพี่ๆ ทหารด้วยเครดิตเนื้อหาทั้งหมดโดย(XiaoPai)ภาพทั้งหมดโดย(XiaoPai)กราฟฟิกภาพทั้งหมด"PhotoScape X โดย (XiaoPai)" อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !