ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศ วันนี้เราจะมารีวิวเที่ยวประเทศ มาเลเซีย ฉบับ 3 วัน 2 คืน เน้น ๆ จุก ๆ ไปเลย ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เราไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลยจร้า และนี่ก็เพิ่งเคยไปครั้งแรกด้วย ดีที่เราได้เดินทางไปกับทาง Malaysia Airlines และการท่องเที่ยวมาเลเซียเลยทำให้มีไกด์แนะนำคอยดูแลตลอดทริปค่ะมาเลเซีย เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันอยู่อย่างลงตัว แล้วปัจจุบันค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับนักท่องเที่ยว เดินทางง่าย เอกสารไม่เยอะ ปัจจุบันพกแค่พาสปอร์ตก็สามารถมาได้แล้ว ใครที่มองหาทริปต่างประเทศใช้เวลาสั้น ๆ และค่าใช้จ่ายไม่แพง พอ ๆ กับเที่ยวไทย เราว่าที่นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลา หรือสายท่องเที่ยวที่งบน้อย อย่างเรา ฮ่า ๆปะลุย! เก็บกระเป๋าถือพาสปอร์ตไปโลดเราเดินทางด้วยสายการบิน Malaysia Airlines บินตรงจากสุวรรณภูมิ- สนามบินนานาชาติ กัวลาลัมเปอร์ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชัวโมง (มาเลเซียเวลาจะเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมง)พอมาถึงสุวรรณภูมิก็รีบเช็คอินเลยจร้า ทำให้ยังมีเวลาเหลืออีกหน่อย ระหว่างรอขึ้นเครื่องเลยไปใช้บริการที่ Miracle Lounge นั่งพักจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อาหาร ขนมอร่อย ๆ ใครที่มาก่อนเวลา แนะนำมาใช้บริการที่นี้ได้เลยน้า! ถึงเวลาบินแล้ว...ไปจร้าเครื่องของ Malaysia Airlines ถือว่าที่นั่งสบายอยู่น้า ขาไม่ติด แถมยังมีอาหาร เครื่องดื่มครบจร้า ขอบอกถั่วอร่อยเน้อ ใครที่ใช้บริการอย่าลืมทานน้าการเข้ามาเลเซียก็ไม่ยาก พอถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองก็ยื่นพาสปอร์ตได้เลย แต่อาจจะเจอคำถามบ้าง พักที่ไหน กลับวันไหน ทั่ว ๆ ไป มีข้อมูลครบก็ผ่านปกติค่ะพอออกจากสนามบินก็ไปเที่ยวกันเลยจร้า ทริปวันแรกพระราชวังอิสตันน่า ไนการ่า (Istana Negara) เป็นที่ประทับของสมเด็จพระรามาธิบดีของมาเลเซีย มีความใหญ่โต สวยงาม เราจะถ่ายรูปอยู่ด้านหน้าพระราชวัง มีความอลังการอยู่เด้อตึกปิโตรนาส (Petronas Towers) หรือเรียกว่าตึกแฝด เป็นสถานที่แลนด์มาร์คที่ใครมากัวลาลัมเปอร์ (KL) ต้องมาเช็คอิน ถ่ายรูปกันที่นี้ ถ้าไม่มาถือว่าไม่ถึง ฮ่า ๆ บรรยากาศโดยรอบคนก็จะเยอะ ๆ หน่อย ตึกสวยสมชื่อค่ะ ภายในตึกก็เป็นห้างสรรพสินค้า เข้าไปชอปกันได้เลยแหล่งชอปปิ้ง Pavilion Kuala Lumpur ถนนคนเดินย่านบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) ตอนแรกนึกว่าเมืองจะเงียบ ๆ สงบ ๆ แต่ป่าวเลย เค้ามีถนนคนเดิน มีการแสดงดนตรีริมทางเดิน ก็จะอารมณ์คล้าย ๆ กับสยามบ้านเรา คนเยอะมาก ๆ มีทั้งชาวมาเลเซียเองและนักท่องเที่ยวด้วย ส่วนข้าง ๆ ทางเดินก็มีของขายตลอดแนว สตรีทฟู้ด ร้านทุเรียน ร้านอาหารเต็มทั้ง 2 ข้างทางเลย วิถีชีวิตก็จะคล้าย ๆ กับที่บ้านเราเลยค่ะ ใครสนใจย่านนี้ อ่านเพิ่มเติมที่เพจ I will travel around the world ต่อได้นะคะ ทริปวันที่สองเมอร์เดก้า สแควร์ (Merdeka Square) เป็นจัตุรัสที่รำลึกในวันที่ฉลองเอกราชของประเทศมาเลเซียจากเครือจักรภพ จุดเด่นของที่นี้คือตึกสวย สไตล์อังกฤษ มีมุมถ่ายรูปเยอะ ใครที่ชอบสตรีท ๆ ชอบถ่ายรูปแนะนำเลยค่ะ ถนนสวยดูสะอาดตาเลยเดินไปอีกนิด ข้างหลังตึก เมอร์เดก้า สแควร์ ก็จะเจอ River of Life เป็นจุดที่แม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกัน ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าเดินเล่นชิว ๆ มีตึกน้อยใหญ่ลวดลาย สวยงามแปลกตา บรรยากาศดี สะอาด มีมุมนั่งสบาย ๆ เป็นสถานที่ผ่อนได้ดีเลย สำหรับสายถ่ายรูปน่าจะชอบอีกเช่นกันวัดถ้ำบาตู (Batu Caves) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู ข้างหน้าจะเป็นบันไดสีรุ้งขึ้นไปที่ถ้ำ ทางไกด์บอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าขออะไรไว้เตรียมกลับมาไหว้แก้ได้เลย แล้วก็แนะนำให้ไปไหว้พระพิฆเนศด้านข้างก่อนแล้วค่อย ไปสักการะพระขันธกุมาร ขอบอก..บันไดสูง 272 ขั้น ตอนเดินขึ้นเนี้ยขาสั่นเลยทีเดียว ฮ่า ๆ Genting Highlands เมืองแห่งสายหมอก ใครที่ชอบบรรยากาศเย็น ๆ หมอกลอยผ่านตัว แนะนำที่นี้เลย เป็นสถานที่ตากอากาศ ที่มีแหล่งความบันเทิงให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คาสิโน ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ที่พัก จบที่บนเขาเลยเราต้องขึ้นกระเช้า Awana SkyWay เพื่อเดินทางไปที่ Genting Highlands ท่ามกลางหมอกหนา ๆ บรรยากาศดีมากเลย อากาศเย็น รู้สึกต่างจากข้างล่างเลย พอถึงแล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Genting SkyWorlds Theme Park ซึ่งไม่ห่างจากที่พักมากนัก ระหว่างเดินผ่านห้างสรรพสินค้า เครื่องเล่นในร่มตื่นตาสุด!Genting SkyWorlds Theme Park เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ มีเครื่องเล่นหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเบา ๆ จนถึงเสียวสุด ๆ ข้างในจะเป็นธีมการ์ตูน ทเวนตี้ เซ็นทูรี ฟ็อกซ์ ที่มี Rio, Ice age, Epic แนว ๆ นี้ นอกจากนี้ยังมี ร้านค้าการ์ตูนน่ารัก ๆ มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ใครที่ชอบเครื่องเล่นน่าจะอยู่ได้ทั้งวัน!ไว้เราจะมารีวิว Genting SkyWorlds Theme Park แบบเน้น ๆ จุก ๆ อีกทีน้าทริปวันที่สามวันนี้เรานั่งกระเช้า ลงมาเพื่อไปวัดชิน สวี ระหว่างทางลง อากาศดี มีหมอกหนา ๆ ลอยอยู่ ฟ้าโปร่ง มีแดดแต่ไม่ร้อน วัดชิน สวี (Chin Swee Caves Temple) เป็นวัดจีนที่อยู่บนเขาสูง ไปสักการะ พระอาจารย์ ชิน สวี ไหว้พระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ เจ้าแม่กวนอิม บริเวณวัดอากาศดีมาก ๆ ปกคลุมด้วยหมอกหนา ๆ ลมเย็น ๆ ให้ฟิลเหมือนอยู่บนสวรรค์เลย ที่นี่เป็นอีกพิกัดที่ต้องมาเด้อมัสยิดปุตรา (Putra Mosque) หรือ มัสยิดสีชมพู สร้างจากหินอ่อนสีกุหลาบ อยู่ริมทะเลสาบปุตรา เป็นมัสยิดที่สวยงาม ใหญ่โต มีสถาปัตยกรรมของมุสลิมที่สวยงาม ขนาดเห็นไกล ๆ ยังสวยเลย วันที่เราไปตรงวันศุกร์พอดี ซึ่งจะปิดเนื่องจากมีการทำพิธีละหมาดเลยไม่ได้เข้าข้างในมัสยิด แต่ก็ว๊าวแล้ว!ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย แวะถ่ายรูปซะหน่อย บ๊ายบาย... มาเลเซีย ไว้ทริปหน้าเจอกันใหม่นะคะการไปมาเลเซียครั้งนี้ถือว่าเปิดความคิดเลยก็ว่าได้ จากที่คิดว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างเคร่งครัด อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว แต่ป่าวเลย ... ปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้น การเดินทางก็ง่ายขึ้น ค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก ถือว่าเป็นประเทศที่น่าเที่ยว ต้องมาสักครั้งเลยละค่ะหากมีข้อผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ รูปภาพทั้งหมดโดย ผีเสื้อของเฮียhttps://intrend.trueid.net/post/357020https://intrend.trueid.net/post/334856 https://intrend.trueid.net/post/334811