“ปัจจุบันนี้คนเลือกที่จะเรียนหมอที่ต่างประเทศเยอะ มาก อาจเป็นเพราะอะไรหลายอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยต่อหลาย ๆ คน และหลาย ๆ ปัจจัยอีกด้วย แล้วประเทศที่คนไทยเลือกไปเรียนเยอะ“จีน” เป็นหนึ่งในนั้น” สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวเรียนหมอที่จีน ว่ามันดีไหม ไทยจะรองรับหรือเปล่า กลับมามีงานทำไหม แล้วเรียนยากหรือง่ายอย่างไร วันนี้ผมจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยทั้งหมดกันครับ สำหรับตัวผมแล้ว ผมเรียนหมออยู่ที่มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทงเมืองซีอานประเทศจีนครับ ประเทศจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมเลือกที่จะไปเรียนหมอกัน อาจจะมีหลายปัจจัย ด้วยทั้งเข้าเรียนง่ายบ้าง ใกล้ประเทศไทยบ้าง หรืออาจจะมีเหตุผลอื่น ๆ แล้วแต่บุคคลเลย สำหรับผมแล้ว ที่ผมเลือกที่จะไปเรียนที่จีนก็เพราะว่า ผมเป็นเด็กซิ่วมาก่อน จากที่ดู ๆ มา มหาลัยในประเทศไทยส่วนมากจะไม่ค่อยรับเด็กซิ่วเข้าไปเรียนคณะดี ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบในอาชีพหมอมาก มันเป็นอาชีพที่ผมอยากทำที่สุด แล้วเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผมต้องซิ่วในปีนั้น แล้วทุกอย่างที่เคยตั้งไว้ก็พังสลายไป เพราะคิดอยู่แล้วว่า ถ้ารอให้ติด กสพท. ก็คงไม่มีโอกาส ไหนจะต้องมาแย่งกับรุ่นน้องอีก เพราะผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมายขนาดนั้น จนกระทั่งผมได้ไปรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เรียนหมออยู่ที่จีน แล้วพี่คนนั้นก็มาแนะนำ เพราะมันเข้าง่าย ( ตอนนั้น ) แต่ในอนาคตน่าจะต้องมีการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษก่อนเข้าด้วย แต่ตอนที่ผมสมัครแรก ๆ มันยังง่ายอยู่ แล้วก็สามารถเรียนหมอเหมือนที่ไทยเลย จากนั้นก็มีน้อง ๆ สนใจหลายคน แต่น้อง ๆ มาพร้อมกับคำถามเดียวกันเลย คือ กลับมาทำงานที่ไทยได้ไหม ( ผมเครียดเลย ) วันนี้ผมจะมาตอบทุกคำถามเลย จะอธิบายให้ละเอียด จะแบ่งเป็นข้อ ๆ เลยนะครับ เริ่มด้วย การสอบเข้า ในส่วนนี้ การสอบเข้ามันไม่ค่อยยากสักเท่าไหร ( ในตอนนี้ที่ผมสมัคร ) แต่ตอนนี้อาจจะยากขึ้นนิดหนึ่ง เพราะจะต้องมีการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษด้วย แต่ผมเชื่อว่า ไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนแน่นอน ตอนที่ผมตอนนั้นคือเราส่งเกรดไป เกรดจะต้องสามขึ้นไป แล้วก็เมื่อเราผ่านคัดเลือกแล้ว ทางอาจารย์มหาลัยจะนัดไปสัมภาษณ์ ในการสัมภาษณ์จะเป็นการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ ใครเก่งอังกฤษจะได้เปรียบมาก ๆ ทุกคนไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกคนทำได้ ผมเชื่อ แล้วในส่วนของมหาลัยอื่น ๆ ในจีนก็จะประมาณนี้เหมือนกันครับ เพราะว่ามันคือกฏของทางมหาลัยจีนอยู่แล้วครับ ต่อมาในส่วนของหอพัก ในส่วนนี้ ผมจะตอบไม่ได้ว่ามันจะตายตัวยังใง เพราะมหาลัยทุกมหาลัยมีหอพักที่ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับมหาลัยของผมแล้ว จะเป็นหอพักที่อยู่กันเป็นสองคนต่อห้อง แต่น้อง ๆ ที่พึ่งมาใหม่ เขาจะพาไปอยู่อีกวิทยาเขตหนึ่ง ในวิทยาเขตนั้น จะเป็นหอพัก หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง ในส่วนค่าหอพักก็ตกประมาณปีละ ห้าหมื่นกว่าบาท มันแล้วแต่ว่าปีนั้นตอนที่เราจ่ายค่าหอพัก ค่าเงินหยวนมันอยู่ที่กี่บาท ในส่วนของค่าเทอมต่อ ค่าเทอมคือต้องเข้าใจก่อนว่า ที่ผมไปเรียนจะเป็นหลักสูตรนานาชาติ เรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย ค่าเทอมอาจจะสูงนิดหนึ่ง แล้วส่วนมากต่างชาติที่ไปเรียนก็จะเรียนหลักสูตรนี้หมดเลย ค่าเทอมทางมหาลัยจะคิดเป็นปี ปีละสองแสนกว่าบาท แล้วแต่มหาวิทยาลัยเลย บางมหาลัยก็แพงกว่า บางมหาลัยก็ถูกกว่า แต่ถามว่ามันสูงไหม มันก็สูงพอสมควร แต่พอมาเทียบกับที่ไทยที่เป็นหลักสูตรนานาชาติก็คือ ของจีนจะถูกกว่าแน่นอนครับ มาต่อด้วยการเรียน ในการเรียนก็คือจะเป็นหลักสูตร 6 ปีตามหลักสูตรของไทยเลย ในส่วนของปีแรกจะเรียนเป็นวิชาจีน เพราะทางมหาลัยคิดว่า เราไปจีนเเล้ว เราจะต้องได้ภาษากลับไป เราจะต้องไม่สูญเปล่า เขาเลยเริ่มเราด้วยการสอนภาษาจีนก่อน แต่จะมีวิชาหมอมาแล้วหนึ่งตัวในเทอมหนึ่ง ในส่วนของเทอมสอง ก็จะมีวิชาหมอเพิ่มอีก พอปีถัดไป ก็จะเรียนวิชาหมอล้วนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย สภาพแวดล้อมอาหารการกิน และอาหารฮาลาลสำหรับมุสลิม ในส่วนนี้ทุกคนไม่ต้องกังวลครับ ทางมหาลัยจะมีอาหารฮาลาลรับรองอยู่แล้ว จะแยกกันเลย ไม่รวมกันแน่นอน แล้วอาหารก็อร่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่ได้ แค่มันจะมีรสชาติที่เผ็ดแค่นั้นเอง ถ้าใครไม่ติในส่วนนี้ก็ไม่เป็นไร กินได้สบาย ๆ เลยครับ ในส่วนของสภาพแวดล้อมก็คือดีมากคนจีนจะชอบคนไทย เพราะคนจีนบอกว่าคนไทยมีมารยาทที่งดงาม ( อันนี้ไม่รู้ว่าจริงไหม ) เราไม่ต้องกังวล แค่บอกว่ามาจากไทย คนจีนก็จะต้อนรับอย่างดีแล้ว แล้วก็มาถึงคำถามยอดฮิตที่ถามกันมากที่สุด ก็คือ หลักสูตรเรียนเหมือนกันไหม กลับมาสามารถทำงานที่โรงพยาบาลที่ไทยได้ไหม แล้วไทยจะรับรองหรือเปล่า คือแบบนี้ครับทุกคน ทุกคนต้องใจเย็นก่อนนะครับ ในส่วนที่ว่าไทยรับรองไหม ก่อนที่เราจะไปเรียน เราจะต้องติดต่อกับแพทยสภาก่อน เพื่อขอหนังสือรับรองว่าเรากลับมาเเล้ว เราจะมีงานทำแน่นอน แต่มีข้อแม้คือ มหาลัยที่เราเรียนจะต้องเป็นมหาลัยที่แพทยสภารับรองเท่านั้น ถ้าไม่งั้น ทางแพทยสภาจะไม่ออกหนังสือให้ครับ สำหรับตัวเราเมื่อได้หนังสือรับรองเเล้ว เราแค่ต้องกลับมาสอบใบประกอบวิชาชีพเท่านั้นเอง แต่คือต้องเข้าใจว่า เรียนหมอที่ไทยก็ต้องสอบใบประกอบวิชาชีพเหมือนกัน แต่อาจจะง่ายสำหรับคนที่เรียนหมอที่ไทยเพราะที่ไทยจะสอนเหมือนกัน แล้วเจาะลึกข้อสอบ ในส่วนที่เราเรียนต่างประเทศนี้ เราจะต้องตั้งใจอ่านหนังสือ ได้ไม่ได้ ก็อยู่ที่ตัวเราแล้วว่า เราพยายามมันมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าพยายามที่สุดแล้วทำได้แน่นอน แล้วกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลที่ไทยได้แน่นอนครับ หน้าที่เราตอนนี้คือแค่เราตั้งใจก็พอ แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว เรียนได้สบาย ๆ เลยครับ ถ้าถามถึงมหาลัยอื่น ๆ ในจีน ผมจะบอกว่า มันก็จะมีความคล้ายประมาณนี้แหละครับ เพราะว่ามันเป็นกฏของทางมหาลัยจีนอยู่แล้วว่า การสอบเข้าต้องสอบแบบนี้ ที่พักก็จะประมาณนี้ แต่อาจจะมีบางมหาลัยที่พักรวมก็มีครับ แล้วในส่วนของค่าเทอม ถ้ามหาลัยตั้งอยู่ในเมืองหลวง ราคาอาจจะแพงขึ้นนิดหนึ่งครับ มันแล้วแต่ที่ด้วยครับ แต่โดยรวมแล้วราคาก็จะอยู่ประมาณนี้แหละครับ ถ้าแพงก็อาจจะไม่ต่างกันเท่าไหร ลองศึกษากันดูนะครับว่าสนใจมหาลัยไหน อะไรยังใง เป็นไงกันบ้างครับ หายสงสัยกันยังครับ ข้อมูลทั้งหมดนี้ มันอาจจะไม่เหมือนกันทุกที่ เพราะว่าบางมหาลัยก็ไม่เหมือนกัน แต่มันก็อาจจะคล้าย ๆ กันแหละครับ สู้ ๆ กันนะครับ อยากให้ตั้งใจไว้ก่อน เชื่อว่าทุกคนทำได้ แล้วเรามาเรียนหมอด้วยกันนะครับ สุดท้ายนี้ผมขอจบบทความรีวิวเรียนหมอที่จีนเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ หากผิดพลาดยังใงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ เครดิตรูปภาพหน้าปกจากโปรแกรม Canva