สวัสดีค่ะเขียดผู้มีแกก! เฮ้ย! แขกผู้มีเกียรติ เฮ้ย! ถูกแล้ว วันนี้เราจะมารีวิวเหมือนเพื่อนคุยกัน สบาย ๆ เป็นกันเอง เข้าใจง่ายณ ปัจจุบันมีใครยังไม่เคยเป็นโควิดเลยสักครั้งกันบ้าง โชคดีแล้วล่ะค่ะที่รักษาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยจากเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ได้มายาวนานขนาดนี้ แต่สำหรับเราปี 2022 ไม่รอดจ้า เราตรวจเจอมันเข้าในวันที่ 19 มีนาคม 2565 เลขสวยเหมือนมันเลยไหมล่ะ 19 เหมือนกันอีก เจ้าเพื่อนรัก!เอ๊ะ! แล้วเราได้รับเชื้อมายังไงกันล่ะ? อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าสิ่งที่เสี่ยงมากคือมาจาก "เงิน" เป็นความประมาทเลินเล่อของเราเองที่ไม่ทันได้ฉีดแอลกอฮอล์แล้วเผลอลืมไปจับจมูกหยิบอะไรเข้าปากหมับเข้าให้เลยเป็นเรื่องดังนั้นเราขอเน้นย้ำกับทุกคนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้นะคะ "ใส่แมส-เว้นระยะห่าง-ล้างมือบ่อย ๆ" ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกคนอาการของสายพันธุ์โอมิครอนจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เริ่มแรกเลยเรารู้สึกระคายเคืองคอกับน้ำลายข้นเหนียวกว่าปกติจึงจิบน้ำทั้งวันคิดว่าคงเพราะวันนี้พูดเยอะหรือเปล่าเลยมีอาการแบบนั้น วันถัดมารู้สึกเมื่อยหน้าขาทั้งที่เราออกกำลังกายสม่ำเสมอแน่นอนว่ายากที่จะมีอาการเจ็บปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต่อมาช่วงเย็นของวันอาการเหล่านั้นยังคงอยู่เราจึงคิดว่า "เอาล่ะ ฉันโดนแล้วแหง" จึงไปซื้อ ATK แบบน้ำลายมาสองกล่องเพื่อตรวจและผลปรากฎว่าขึ้น "สองขีดจาง" ทุกคนคะไม่ว่าจะจางหรือเข้มถ้าสองขีดคือเป็นโควิดแล้วเด้อแยกตัวเองออกมาได้เลยเพื่อความมั่นใจแน่ใจอีกครั้งเช้าอีกวันเราซื้อATKแบบแหย่จมูก ก็ขึ้นสองขีดจางเช่นเดิม "โอเค ฉันยอมแพ้แกแล้วเป็นก็เป็นวะ" อ้อ! เราฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า(AstraZeneca)สองเข็มค่ะ...หลังจากนั้นเราก็เริ่มกินยารักษาตัวเองก่อนเลยค่ะไม่รีรอเวลาถือว่าเป็นการลดภาระให้เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักมาตลอดเพราะยังไงต้องรักษาตามอาการอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ลงทะเบียนเข้าระบบกับทางรัฐไว้นะคะเผื่อฉุกเฉินอาการไม่ดีขึ้นผ่านไปหนึ่งวันโรงพยาบาลได้โทรมาถามอาการและจัดยาเตรียมไว้ให้เราไปรับแบบ Drive-thru ด้วยค่ะ สะดวกสุด ๆ และยังโทรมาเช็คอาการอีกสองครั้งจนเราดีขึ้นจนแทบเป็นปกติเราเริ่มกินฟ้าทะลายโจรก่อนอันดับแรก 4 เม็ด 4 เวลาและต้องกินไม่เกิน 5 วันนะคะ ยาละลายเสมหะ 1 ซองและยาแก้ไอ 1 เม็ด 3 เวลา ก่อนนอนเราจะกินยาแก้แพ้ไปด้วยค่ะหากไม่มีอาการอะไรไม่ต้องกินนะคะ! ที่สำคัญดื่มน้ำให้ได้2ลิตรทุกวันขยันเข้าห้องน้ำหน่อยแต่ต้องทำเพื่อผลิตออกซิเจนสู้กับเชื้อโรคไปเลยค่ะนอกจากเมื่อยกล้ามเนื้อกับระคายเคืองคอแล้ว จะมีไข้ต่ำ ๆ ที่วัดได้คือ 37.6 ครั้งเดียวแล้วไม่มีไข้อีกเลย ส่วนค่าออกซิเจนดีตลอดเลยค่ะวัดได้ 98 ทุกครั้ง ยกเว้นอาการไอกับเสมหะนี่ชนะเลิศมากเป็นหนักอยู่สามวันแล้วค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นมีน้ำมูกเล็กน้อยประมาณ1-2วันแล้วหายไปผ่านไป7วันเราตรวจATKก็ยังคงขึ้นสองขีดจางอยู่เหมือนเดิม จนรอไปอีกสองวันแล้วตรวจใหม่คราวนี้ยิ้มออกหน่อยเพราะเหลือขีดเดียวแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่ชะล่าใจนะอีกสองวันตรวจซ้ำอีกนั่นแหละ 1 ขีด เย้!หายแล้วจ้าาาาาสุดท้ายนี้! เราไม่มีทางรู้เลยว่าสงครามแห่งโรคภัยจะจบลงเมื่อไหร่ แต่เราอยากให้ทุกคนสู้ สู้และอดทน ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองให้เข้ากับโลกใบนี้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากเรามองโลกอย่างเข้าใจแล้วสุขภาพจิตของเราก็จะดีตามไปด้วยต่อให้เจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหนพวกเราก็ผ่านมันไปได้เหมือนทุกครั้งค่ะบทความโดย : THUNDERSWEETขอบคุณภาพปกจาก : Canvaภาพประกอบ :ภาพที่ 1 โดย Edward Jenner จาก pexelsภาพที่ 2 โดย Anna Shvets จาก pexelsภาพที่ 3 โดย Anna Shvets จาก pexelsภาพที่ 4 โดย cottonbro จาก pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !