เรามักจะปฏิเสธกระแสที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันไปไม่ได้ นั่นคือการดูแลสุขภาพ และการดูแลรูปร่างให้ดีอยู่เสมอ ผู้คนต่างหันมาออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง คาดิโอ้ หรือแม้แต่บอดี้เวท และคุณทราบหรือไม่ว่า การออกกำลังกายแต่ละแบบให้ผลต่อสุขภาพที่ต่างกัน รวมถึงส่งผลต่อสภาพจิตใจที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ทำไมผมถึงกล่าวว่า การออกกำลังกายมีผลทางด้านสภาพจิตใจ? ตัวผมเองได้สัมผัสด้วยตนเองโดยที่ผมเริ่มจากการวิ่ง คาดิโอ้ ทดลองทุกอย่าง แต่ก็ยังรู้สึกว่า”เหนื่อย” รู้สึก”ท้อ” และ”หมดแรงจูงใจ”ที่จะทำต่อ จนวันหนึ่งผมได้หันกลับมาย้อนถามตนเองว่า “ทำไปเพื่ออะไร?” และคำตอบที่ได้ก็คือ “อยากมีหุ่นและรูปร่างที่ดี” จากความตั้งใจเล็ก ๆ ผมได้นำมาเป็นแรงผลักดันในการลงมือทำอีกครั้ง จนตัดสินใจเดินเข้าไปในยิมแห่งหนึ่งใกล้บ้าน และเริ่มจากการหยิบจับ ทดลอง สังเกต และศึกษาข้อมูลมาปรับใช้กับตนเอง ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่เล่นเวทไม่มีความรู้สึกว่า “เหนื่อย” “ท้อ” หรือ “หมดกำลังใจ” แต่กลับรู้สึกมีความสุขในสิ่งที่ทำมากขึ้น ผมรักมัน และต้องการพัฒนาตนเองให้มากขึ้นอีก จนมาในวันนี้ผมก็หลงรักกับสิ่งที่เรียกว่า “กีฬาเพาะกาย” (เครดิตภาพ : นักเขียน) ในตอนนี้ผมยังคงเป็นมือใหม่ที่พึ่งก้าวเข้าสู่โลกของ “นักเพาะกาย” ครับ และในสักวันหนึ่งผมจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของที่แห่งนั้นให้ได้ครับ (เครดิตภาพ : นักเขียน) ก้าวแรกก่อนเป็นนักเพราะกาย เขาเริ่มลงแข่งขันโมเดลหุ่นครับ เวทีนี้จะเน้นดูกล้ามที่มีความชัดเจน ไม่มีไขมันครับ มุมมองของหลายๆท่านอาจจะคิดว่า รูปร่างที่ดี = อาหารเสริม(เวย์โปรตีน เป็นต้น) แต่ความเป็นจริงไม่ใช่เลยครับ อาจจะไม่ถึงขั้นที่จะมีหุ่นที่เหมือนกับ “นักเพาะกาย” หากคุณต้องการที่จะมีกล้ามเนื้อที่เห็นได้เด่นชัด รูปร่างที่สวยงาม สิ่งที่จะต้องมีคือ “วินัย” กับ ”ความอดทน” ครับ อันดับแรกด้าน “วินัย” มีอะไรบ้าง? นอกจากวินัยในการออกกำลังกายที่ต้องทำเป็นประจำ ทำตามแผนที่วางไว้ ยังรวมถึงวินัยด้าน “การกิน” ด้วยครับ ซึ่งผมขออธิบายดังนี้ ตามปกติแล้วร่างกายของมนุษย์เราจะมีองค์ประกอบหลักคือ “กล้ามเนื้อ” กับ “ไขมัน” และสิ่งที่เราต้องการจะกำจัดออกไปมากที่สุดคือ“ไขมัน” ใช่ไหมครับ? (เครดิตภาพ : นักเขียน) ซึ่งเราจะกำจัดไขมันออกไปได้มีเพียงไม่กี่วิธี โดยวิธีที่นิยมอย่างมากคือการออกกำลังกายครับ แต่ทว่าสิ่งที่จำเป็นในการออกกำลังกาย ที่ร่างกายของเราจะนำไปปรับใช้เปลี่ยนเป็น “พลังงาน” คือโปรตีนกับคาร์โบไฮเดตครับ หากเราทำการออกกำลังกายแต่ดันอดอาหาร นอกจากจะไม่มีแรงในการออกกำลังกายแล้วยังจะทำให้ร่างกายของเราไปดึงโปรตีนกับคาร์โปไฮเดตมาจากกล้ามเนื้อและตับ กล่าวง่าย ๆก็คือ กล้ามเนื้อเราจะลดลงแต่ไขมันนั้นเท่าเดิมและมนุษย์เราไม่มีใครที่จะอดอาหารได้ตลอดชีวิตใช่หรือไม่ครับ? เมื่อเรากลับมาทานอาหารตามเดิม สารอาหารจะถูกจัดเก็บในกล้ามเนื้อและตับ หากกล้ามเนื้อในร่างกายเรามีน้อยสารอาหารจะถูกไปเก็บเป็นไขมันครับ หลาย ๆ คนจึงมีภาวะที่เรียกว่า “โยโย่”นั่นเองครับ จากที่กล่าวมา วินัย ในการกินคือ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายควบคู่กัน เพียงเท่านั้นเราก็จะมีรูปร่างที่ดี โดยไม่ต้องอดอาหารครับ (เครดิตภาพ : นักเขียน) สำหรับด้าน “ความอดทน” แน่นอนครับว่า การเล่นเวท หรือบอดี้เวทนั้น จะทำให้ได้ผลที่ดี มีกล้ามเนื้อได้ต้องเล่นให้หนักพอสมควร โดยที่ผมกล่าวว่าเล่นให้”หนัก” ไม่ได้หมายถึงน้ำหนักของแผ่นเหล็กเพียงอย่างเดียวนะครับ แต่หมายถึงการเล่นให้กล้ามเนื้อของเรารู้สึกเจ็บปวด อ่อนล้าครับ อาจจะฟังดูโหด แต่มันคือความจริงครับ เมื่อกล้ามเนื้ออ่อนล้า หรือเจ็บจากการเล่นเวท หลังจากเล่นเสร็จไม่เกิน 15 นาทีเพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะต้องการโปรตีนไปสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อครับ ให้ทานอาหารเสริมประเภทเวย์โปรตีน หรือหากไม่มีก็สามารถทานไข่ขาว ขนมปัง หรือหัวมัน ทดแทนได้ครับ “ความอดทน” อีกรูปแบบหนึ่งคือความอดทนด้านจิตใจครับ เราทานอาหารตามใจปากหรือใช้ชีวิตที่แทบจะไม่ออกกำลังกายมาก่อนเลย จะให้เห็นผลใน 1 หรือ 2 เดือน เป็นไปไม่ได้ครับ ทุกอย่างต้องใช้เวลาเสมอครับ รวมถึงตัวผมเองที่ในปัจจุบันผมยังไม่มีร่างกายถึงขึ้นที่จะเรียกว่า “นักเพาะกาย” ได้ แต่ผมจะทำต่อไปจนสำเร็จตามสิ่งที่หวังไว้ครับ สำหรับตัวผมเล่นเวทแบบเฉพาะส่วนตามแผนครับเพื่อเน้นการสร้างกล้ามเนื้อให้หนัก ๆเฉพาะส่วนไปเลย โดยที่ไม่ได้เล่น Full Body (ทุกส่วนของร่างกาย) ภายในวันเดียว อย่างเช่นวันจันทร์ ผมจะเล่นเฉพาะส่วนแขน(แขน หัวไหล่ ท้องแขน ท้องแขนมัดนอกเป็นต้น)เพียงอย่างเดียว และในวันอังคารก็จะเล่นเฉพาะส่วนท้อง(ท้องบน ท้องล่าง สีข้าง เอว หลัง เป็นต้น)เพียงอย่างเดียว เป็นต้นครับ หากเป็นเพศชายที่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ ให้เล่นเน้นที่น้ำหนักต่อการเล่น 1 SET ครับ กล่าวคือ เมื่อเล่นแขนหน้า 7.5กิโล จำนวน 10ครั้ง/SET เมื่อเล่นไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวไม่รู้สึกล้าให้เลือกวิธีการเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปแต่จำนวนครั้งเท่าเดิมครับ ส่วนเพศหญิงที่เน้นสร้างรูปร่างให้ดูกระชับ ให้เล่นเวทโดยเน้นที่จำนวนรอบต่อการเล่น 1 SET ครับ กล่าวคือ เมื่อเล่นแขนหน้า 2.5 กิโลจำนวน 10 ครั้ง/SET เมื่อเล่นไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวไม่รู้สึกล้าให้เลือกวิธีการเพิ่มจำนวนครั้ง/SETแต่น้ำหนักเท่าเดิมครับ อาจจะเป็น 13ครั้งหรือ 15 ครั้ง/SETก็ได้ครับ ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ได้นะครับ