เรื่องราวของ Forex ที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก็คือกรณีของแชร์ลูกโซ่ Forex3D ซึ่งเป็นการใช้การลงทุน Forex มาเป็นข้ออ้างในการระดมทุน จากนั้นก็ตามสูตรสำเร็จของแชร์ลูกโซ่ คือเชิดเงินของคนที่ตกเป็นเหยื่อ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจริง ๆ แล้ว Forex ไม่ใช่ผู้ร้ายของเหตุการณ์นี้นะครับ เพราะมันก็ยังเป็นเพียงตลาดการเงินประเภทหนึ่ง เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้น ตลาดทองคำ ตลาดอนุพันธ์ ที่ทั่วโลกทำการซื้อขายกันเป็นปกติ ที่สำคัญยังมีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดในโลกเสียด้วยซ้ำ ซึ่งวันนี้ดันจู๊คจะพาไปทำความรู้จักกับ Forex กันครับ ว่ามันจะน่าลงทุน หรือมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ลองไปดูกันเลยดีกว่า ภาพจาก pixabay.comForex คืออะไร ซื้อขายอย่างไรForeign Exchange คือชื่อเต็ม ๆ ของ Forex มันก็คือการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศนั่นเอง สำหรับการซื้อขายในตลาด Forex ก็จะสามารถซื้อขาย ผ่านโปรแกรมซื้อขายของโบรกเกอร์ได้เลย โดยจะมีคู่เงินแต่ละประเทศให้เลือกเยอะมาก เช่น EUR/USD(ค่าเงินยูโรต่อเงินดอลลาร์) USD/JPY(ค่าเงินดอลลาร์ต่อค่าเงินเยน) เป็นต้น การซื้อขายเพื่อทำกำไรก็คือ เราจะคาดการณ์ค่าเงินที่จะแข็งค่าในอนาคต ถ้าเลือกถูกก็ได้กำไร ถ้าเลือกผิดก็ขาดทุนนั่นเอง ซึ่งมีหน่วยซื้อขายเป็น Lot Size มีตั้งแต่ 0.01 Lot(ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 1,000$) ไปจนถึง 100 Lot ผ่านการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงที่จะเรียกกันว่า จุด (Pips) เช่น EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.0050 ถ้าเรามองว่า EUR จะแข็งค่า เราก็เลือกคำสั่ง ซื้อ (Buy) ถ้าราคาวิ่งขึ้นไปที่ 1.0060 เราก็ได้กำไร 10 จุด แต่ถ้าเรามองว่า USD จะแข็งค่า เราก็เลือกคำสั่ง ขาย (Sell) แล้วราคาวิ่งลงไปที่ 1.0030 เราก็ได้กำไร 20 จุด นั่นเอง ส่วนกำไรต่อจุดจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับจำนวน Lot Size ที่เราลงทุน ลงเยอะได้เยอะลงน้อยก็ได้น้อยภาพจาก pixabay.comForex มีข้อดีอะไรบ้างข้อดีอย่างแรกเลยก็คือ ตลาดมีสภาพคล่องสูงมาก มีคนซื้อขายกันทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยถึง 100 เท่าเปิดบัญชีซื้อขายง่าย สามรถทำทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ของโบรกเกอร์ Forex ได้เลย และใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็สามารถทำการซื้อขายได้แล้ว และบางโบรกเกอร์ก็สามารถฝาก-ถอนผ่าน Internet Banking ได้อีกด้วยLeverage คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถทำกำไรได้เยอะ จากเงินลงทุนปริมาณน้อย ๆ ซึ่งโบรกเกอร์จะให้เราเลือกได้เลยว่าเราจะเลือกเท่าไร เช่น Leverage 1:100 ก็คือถ้าเรามีเงินทุน 1,000 บาท เราก็สามารถเอาไปซื้อขายค่าเงินในมูลค่า 100,000 บาท ได้นั่นเอง ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยปกติถ้าเราเล่นหุ้น เราจะสามารถทำกำไรเฉพาะเวลาที่หุ้นขึ้นเท่านั้น แต่ Forex เราสามารถทำกำไรขาลงก็ได้ เช่น คู่เงิน USD/THB อยู่ 31.05 บาท ถ้าเราเลือกลงทุนในเงินบาท THB ด้วยการกดคำสั่ง Sell เวลาราคาลงไปที่ 31.00 บาท ถ้าเราปิดการซื้อขายก็จะได้กำไร 5 จุด นั่นเองภาพจาก pixabay.comForex มีข้อเสียอะไรบ้างอย่างแรกเลยการซื้อขาย Forex ในบ้านเรานั้นยังไม่มีกฎหมายรองรับ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนไทยก็จะซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ ทำให้เวลามีปัญหาเกี่ยวกับโบรกเกอร์ หรือโดนโบรกเกอร์โกง ก็จะไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้นั่นเองLeverage คือดาบสองคม ถ้าข้อดีของมันคือสามารถทำกำไรได้เยอะ บนเงินลงทุนที่น้อย เช่นเรามีเงินทุน 1,000 บาท และเลือกใช้ Leverage 1:100 เราก็ซื้อขายได้ 100,000 บาท เวลาที่ตลาดวิ่งขึ้นวิ่งลงเท่านั้นเท่านี้จุด เช่นลงทุนไป 10 Lot ใช้เงินจากการ Leverage 100,000 บาท สมมุติว่าได้กำไรจุดละ 200 บาท แต่ทุนจริง ๆ ของเรามีแค่ 1,000 บาท ถ้าตลาดผิดทางแค่ 5 จุดเงินทุนเราก็หายเกลี้ยงแล้ว ซึ่ง 5 จุดในตลาด Forex ใช้เวลาวิ่งแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเองนะครับภาพจาก pixabay.comนี่แหละครับตลาด Forex ต้องบอกว่าเป็นตลาดการเงิน ที่ทำให้เราได้ต่อสู้กับความโลภของเราได้อย่างดีเลยนะครับ เพราะจุดที่ทำให้เราเกิดความโลภก็คือระบบ Leverage นั่นแหละครับ แล้วโบรกเกอร์เขาจะให้เราเลือกเอง ซึ่งมีตั้งแต่ 1:1 ไปจนถึง 1:1000 โน้นเลย เพื่อน ๆ ลองคิดดูสิครับ โบรกเกอร์เปิดโอกาสให้ เงินทุนแค่ 1,000 บาทของเรา สามารถเอาไปซื้อขายในมูลค่าสูงถึง 1,000,000 บาทได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เลือก Leverage เยอะไว้ก่อนอยู่แล้ว แต่ในทุก ๆ ตลาดการเงินนั้น มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วนะครับ ว่าจะเลือกเป็นคนส่วนใหญ่ หรือ จะเลือกเป็นคนส่วนน้อยภาพหน้าปกจาก pixabay.com