ปวดหัวไมเกรน ต้องทำอย่างไร? วันนี้เรามีคำตอบ โรคปวดศีรษะมีมากมายหลายประเภท เช่น โรคปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด (tension headache) โรคปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (cluster headache) และ โรคปวดศีรษะเนื่องจากมีแรงดันในสมองสูง(increase intracranial pressure) เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้เกิดการปวดศีรษะเพียงข้างเดียวได้ หากคุณมีอาการ ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุ้บ ๆ ปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย หรือทนรับต่อแสงแดด/เสียงดังไม่ค่อยได้ แสดงว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าโรคไมเกรนเข้าแล้วล่ะ ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน มีหลายอย่างแตกต่างกันไป แต่โดยรวม ๆ สรุปได้ว่า ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรนมีดังต่อไปนี้ การกระตุ้นทางประสาทสัมผัส เช่น กลิ่นควันบุหรี่ แสงจ้า หรือในที่ที่มีเสียงดัง ความเปลี่ยนแปลงทางออร์โมน เช่น ช่วงที่มีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์ ช่วงหมดประจำเดือน หรือการรับประทานยาคุมกำเนิด อาหารบางชนิด เช่น กล้วยหอม ช็อคโกแลต เนย ชีส เป็นต้น การดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์แดง เหล้าต่าง ๆ ทำงานหนักงานเกินไป อดนอน เครียด การรับมือกับไมเกรน ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยในการกระตุ้นที่ทำให้เกิดไมเกรนตามที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง หากมีการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ควรพักสายตาทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง และหากมีอาการปวดมากขึ้นควรปลีกตัวไปพักผ่อนในห้องมืด ๆ และมีความเงียบสงบ ร่วมกับการประคบเย็นบริเวณต้นคอ จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ นอกจากนี้ยังต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ร่างกายแข็งแรง และยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย แต่ในกรณีที่อาการปวดศีรษะยังไม่หายไป และเริ่มมีอาเจียน วิงเวียน มีไข้ เห็นภาพซ้อน พูดไม่ชัด หรือแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัย และได้รับยารักษาอาการที่ถูกต้อง ไม่แนะนำให้ซื้อยากินเอง เพราะมีอัตราการเสี่ยงเสียชีวิตได้ หากได้รับยาหรือกินยาไม่ถูกต้อง การรักษาโรคไมเกรน ในทางการแพทย์ การรักษาโรคไมเกรนให้หายขาดนั้นยังอยู่ในการศึกษาค้นคว้า มีเพียงวิธีการรับมือกับอาการปวด หรือการป้องกันไม่ให้เกิดไมเกรน เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แม้ว่าทางการแพทย์ยังไม่มีการยืนยันเรื่องการรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นอาการปวดศีรษะไมเกรนถือว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย เพราะหากมีอาการปวดจนเรื้อรัง อาจจะลามไปทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้เช่นกัน สิ่งที่สำคัญ คือ การหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ หรือหลีกเลี่ยงไเจ้าไมเกรนนี้ได้เช่นกัน อ้างอิง www.bumrungrad.com รูปภาพ Credit: Pinterest