ระหว่างการขับรถด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.อย่างช้า ๆ เพื่อเดินทางไปทำงานตอนเช้า หวังที่จะได้มองทิวทัศน์สองข้างทางในวันที่ชีวิตไม่เร่งรีบที่ฉันมักจะเลือกทำเป็นบางวัน เพื่อมีโอกาสมองธรรมชาติกับบรรยากาศทุ่งนาที่ฉันเติบโตและเห็นวิถีชีวิตของชาวนามาตั้งแต่ครั้นสมัยวัยเด็ก มาวันนี้เข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคมภาพท้องนานั้นผิดแปลกไปจากทุกปีที่เคยเป็นมา ต้นข้าวที่เคยเขียวขจีตั้งต้นล้อเล่นปลิวลมที่เคยกลับหายไปเหลือไว้เพียงร่องรอยของล้อรถเกี่ยวข้าวและเศษฟางข้าวแห้ง ๆ นอนเฉาราบไปกับพื้นผืนที่ทุ่งนา แต่ในทางกลับกัน เมื่อฉันขับรถแล่นผ่านไปพื้นที่ติดกันราว 1 กิโลเมตร กลับเป็นภาพของต้นข้าวที่สูงเขียวขจี เป็นภาพบรรยากาศท้องทุ่งนาที่ทำให้ต้องหยุดรถเพื่อลงไปถ่ายรูปบรรยากาศธรรมชาติท้องนาแบบนี้ อีกทั้งมองเห็นตุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ติดกันกับทุ่งนาข้าวนั้นทำให้ฉันอดที่จะคิดถึงพ่อหลวง ร.9 ที่ท่านเคยตรัสสอนแนวคิดเกษตรตามแนวพระราชดำริพอเพียงด้วยการขุดสระ สร้างบ่อกักเก็บน้ำแก้ภัยแล้ง จากข้อมูลกรมชลประทาน กล่าวถึงวิกฤตภัยแล้งในปีนี้จะมีความรุนแรงให้เกษตรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อเป็นการลดปัญหาการใช้น้ำกับผลผลิตและสำรองน้ำไว้ใช้ โดยผู้เขียนเห็นว่าการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วงด้วยวิธีการขุดสระ ขุดบ่อเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด เพราะเปรียบเทียบได้ชัดเจนว่าเกษตรที่มีพื้นที่ทำนา 10 ไร่ ควรจะแบ่งเป็นการขุดสระ ขุดบ่อขนาดใหญ่ซัก 1 ไร่ โดยเฉลี่ยความสูงของคันดินขอบสระ 1.5 เมตร ความกว้าง 5 เมตร สามารถความจุสระประมาณ 1,350 ลูกบาศก์เมตร แต่จะมากกว่านี้ก็ยิ่งดี เพื่อเป็นพื้นที่สำรองน้ำไว้ใช้ยามเกิดวิกฤตภัยแล้งได้ ยิ่งสามารถขุดได้ลึกเท่าไหร่ถือเป็นการดี นั่นคือ การสร้างตุ่มขนาดใหญ่ ไว้แก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน หากเกษตรกรหรือผู้อ่านรายใดที่ต้องการขุดสระเพื่อใช้ในการเกษตรแต่ยังประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ สามารถติดต่อกรมพัฒนาที่ดินได้เพราะกรมพัฒนาที่ดินมีการจัดโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน โดยการขุดสระน้ำในไร่นา ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร และให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการออกค่าใช้จ่าย 2,500 บาท/บ่อ เพื่อเป็นการบรรเทาสภาพปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพ การเก็บกักน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกร ในพื้นที่นอกเขตชลประทานได้มีแหล่งน้ำที่เหมาะสม กับการเกษตร เป็นการสนับสนุนการทำเกษตรแบบผสมผสานตามหลักทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บทความนี้จึงต้องการนำเสนอให้เห็นความสำคัญของการขุดสระเพื่อใช้ในการเกษตรยามประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ และหากเกษตรกรหรือผู้อ่านท่านใดที่มีความคิดอยากขุดสระติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด ทั่วประเทศเลยนะคะ หรือ คลิกที่ลิงก์นี้ค่ะ ขอบคุณข้อมูล จากเว็บไซต์กรมชลประทาน http://www.rid.go.th/ภาพประกอบ ::: ถ่ายโดยผู้เขียน