อาชีพ วิศวกร เป็นความใฝ่ฝันของเด็กหนุ่มสาวหลายคนที่กำลังจะศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยความหมายของคำว่า"วิศวกร"สำหรับคำว่า "วิศวกร" หมายถึง วิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ คำนวณ ออกแบบ ควบคุมคุณภาพงานและการผลิตชิ้นงานต่างๆ โดยการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน รวมทั้งแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆจะมีหลายสาขาวิชา ยกตัวอย่างเช่น วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมชลประทาน วิศวกรรมอาหาร วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมเกษตร วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมอุตสาหการ และอื่นๆ ซึ่งในแต่ละสาขาจะใช้วิชาพื้นฐานเดียวกันอย่าง ฟิสิกส์ แคลคูลัส แต่สาขาต่างๆของวิศวกรรมจะมีวิชาหลักที่แตกต่างกัน เมื่อจบการศึกษาก็จะทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนเลือกสาขาวิชาเรียนควรศึกษาก่อนเลือกสาขานั้นๆวิศวกรรมโยธาคืออะไร? เรียนอะไร?วิศวกรรมโยธา จะเป็นสาขาหนึ่งที่เรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ คำนวณ ออกแบบ การศึกษาทางธรณีวิทยา ชลศาสตร์ และการบำรุงรักษาสิ่งปลูกสร้างต่างๆ สิ่งปลูกสร้างในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียง บ้าน ตึก อาคารสาธารณะเท่านั้น จะรวมสาธารณูปโภคด้วย เช่น ถนน สะพาน เขื่อน ท่อส่งน้ำ สนามบิน ท่าเรือ สัญญาณไฟจราจร และอื่นๆวิศวกรรมโยธา ในระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาตรี) จะเรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ คำนวณ ออกแบบ โครงสร้างต่างๆตั้งแต่ฐานราก คาน เสา พื้น โครงหลังคา การบริหารจัดการโครงการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานภายใต้งบประมาณที่กำหนด งานทาง การจัดการงานทาง การศึกษาทางธรณีวิทยาเพื่อให้ทราบคุณสมบัติของดินสำหรับประยุกต์ใช้ในงานฐานราก งานสำรวจเพื่อทำแผนที่ และการจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งนี้ในระดับปริญญาตรีจะเป็นการเรียนความรู้พื้นฐานที่เพียงพอต่อการไปประกอบอาชีพวิศวกรรมโยธา แต่หากต้องการศึกษาเชิงลึกมากขึ้นในด้านต่างๆวิศวกรรมโยธาจะมีสาขาย่อยมากมาย ทั้งนี้จะขอยกตัวอย่าง 4 สาขาดังนี้1.วิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Engineering) โดยสาขานี้จะเน้นเรื่อง กลศาสตร์ชั้นสูง การวิเคราะห์โครงสร้างแบบ finite element2.วิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ (Construction Engineering and manangement) โดยสาขานี้จะเน้น กฎหมายและการจัดการสัญญาก่อสร้าง เทคนิคการวิเคราะห์โครงการ การวิเคราะห์การลงทุน เทคนิคการวางแผนและควบคุม3.วิศวกรรมขนส่ง (Transportation Engineering) โดยสาขานี้จะเน้นการวิเคราะห์การจราจร การวางแผนการขนส่ง สถิติขั้นสูงสำหรับการวางแผนการขนส่ง และ 4.วิศวกรรมปฐพี (Geotechnical Engieering) โดยสาขานี้จะเน้นเรื่องกลศาสตร์ดินชั้นสูง การออกแบบฐานรากชั้นสูง การศึกษาพฤติกรรมกิน การออกแบบเขื่อนประกอบอาชีพอะไร? อัตราเงินเดือนประมาณเท่าไหร่?วิศวกรรมโยธา เมื่อเรียนจบจะได้วุฒิการศึกษาเป็นวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (วศ.บ.) โดยสาขานี้ต้องไปสอบใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (กว.) เพราะตามถือเป็นสาขาวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม ซึ่งตัวอย่างอาชีพหลังจบการศึกษาเช่น1.วิศวกรสำนักงาน (Office engineer) เป็นวิศวกรที่จะอยู่ประจำสำนักงานของสำนักงานใหญ่ หรือ ภาคสนาม โดยส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดเตรียมแผนงาน แบบก่อสร้าง ทำ Payment ประสานงานหน่วยต่างๆ จัดทำรายงานประจำสัปดาห์ เดือน2.วิศวกรภาคสนาม (Site engineer) เป็นวิศวกรที่จำอยู่ประจำภาคสนามเป็นหลัก จะคอยควบคุมดูแลคุณภาพงานผลิตให้ไปเป็นตามแบบรูป มาตรฐาน และข้อกำหนดตามหลักวิศวกรรม แก้ปัญหาหน้างานให้ราบรื่น วางแผนจัดทรัพยากรมาหน้างาน3.วิศวกรเขียนแบบ (Draftsman) เป็นบุคคลที่ใช้โปรแกรมในการเขียนแบบ เคลียร์แบบรูปก่อนดำเนินการก่อสร้างจริง ตรวจสอบ Clash Detection ประสานงานกับวิศวกรผู้ออกแบบ4.วิศวกรออกแบบ (Designer) ออกแบบโครงสร้าง สิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้สามารถสร้างได้จริงตามความต้องการของเจ้าของงาน ภายใต้งบประมาณและเวลาที่กำหนด รวมทั้งได้มาตรฐานวิศวกรรม5.วิศวกรที่ปรึกษา (Engineering Consultant) เป็นที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้าง ตรวจสอบคุณภาพงานจากผู้รับเหมา รวมทั้งด้านการบริหารจัดการก่อสร้างต่างๆ บริษัทส่วนใหญ่โดยทั่วไปเด็กจบใหม่ระดับปริญญาตรีจะมีอัตราเงินเดือนอยู่ในช่วง 15,000-20,000 บาทไม่รวมสวัสดิการและอื่นๆ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท แชร์ประสบการณ์เรียน และ การทำงานของผู้เขียนประสบการณ์ "เรียน" วิศวกรรมโยธาของผู้เขียนผู้เขียนจะเริ่มแชร์ประสบการณ์เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาตั้งแต่ปีการศึกษาที่ 1 จนกระทั้งถึง ปีการศึกษาที่ 4 ดังต่อไปนี้1) ปีการศึกษาที่ 1:1.1 ผู้เขียนเข้ามหาวิทยาลัยประมาณปี พ.ศ. 2559 ผู้เขียนมามหาวิทยาลัยก่อนเปิดการศึกษา 1-2 อาทิตย์เพื่อเข้ากิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยจำนวนหลายวัน ซึ่งกิจกรรรมจะค่อนข้างสนุก เป็นกิจกรรมเต้น ร้องเพลง ตะลุยเกมและฐานต่างๆ จากกิจกรรมถือว่าทำให้รู้จักและสนิทเพื่อนมากขึ้น (ปัจจุบัน บางมหาวิทยาอาจจะไม่มีกิจกรรมรับน้อง หรือ อาจจะไม่เข้มข้นเนื่องจากขาดช่วงไปในสถานการณ์โควิด 19) สำหรับปี 1 จะเป็นช่วงที่ค่อนข้างทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย คณะ และ ภาควิชา เยอะมาก เพื่อนบางคนก็ไปเข้า สันทนาการ หรือ หรีด หรือ พี่นำร้องเพลง หรือ นักกีฬา รวมทั้งช่วงนี้จะมีกิจกรรมรับน้องจากพี่ๆปี 2-4 ด้วย (แอบกระซิบว่า รับแบบลับๆ แต่ปัจจุบันหลายอาจจะไม่มีแล้ว หรือ ไม่เข้มข้น เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น) เทอมนี้ผู้เขียนขอแนะนำว่า กิจกรรมสามารถร่วมได้แต่ต้องแบ่งเวลาให้ถูกด้วย ทั้งเรื่องเรียน และ กิจกรรม1.2 สำหรับการเรียนในปีการศึกษาที่ 1 นี้ วิชาที่เรียนเป็นวิชาพื้นฐานตั้งแต่มัธยมปลายเช่น คณิตศาสตร์สำหรับวิศวกร ฟิสิกส์ เคมี แต่จะมีวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมบ้างเช่น Engineering Drawing, Engineering Programming and Engineering Mechanics I สำหรับวิชาพื้นฐานแนะนำเรียนให้ผ่านทั้งหมดเนื่องจากจะมีวิชาที่ต่อเนื่องกันอย่าง คณิต1, ฟิสิกส์1 --> คณิต 2, ฟิสิกส์22) ปีการศึกษาที่ 2:2.1 สำหรับปีการศึกษานี้ กิจกรรมของมหาวิทยาลัย คณะ และ ภาควิชาจะไม่เยอะ สำหรับภาคการศึกษานี้การเรียนการสอนจะมีความจริงจังมากขึ้นเนื่องจากวิชาที่เรียนจะมีความเฉพาะเจาะจงแต่ละสาขาวิชาโดยภาควิชาวิศวกรรมโยธาจะเรียนวิชา วิศวกรรมสำรวจ, กลศาสตร์วัสดุ 1-2, การวิเคราะห์โครงสร้าง 1, คณิตศาสตร์ประยุกต์สำหรับวิศวกรโยธา, คอนกรีตและวัสดุวิศวกรรม และ วัสดุวิศวกรรม2.2 สำหรับรายวิชาที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือ: วิศวกรรมสำรวจ เนื่องจากเป็นวิชาที่เรียนเป็นกลุ่ม เป็นวิชาปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี เรียนรู้เกี่ยวกับกล้องระดับ กล้องประมวลผลรวม (Total Station) การคำนวณวงรอบ การปรับแก้ค่าต่างๆ และการทำแผนที่เชิงวิศวกรรม โดยเทอมที่ 1 จะเรียน ทำแผนที่ ที่มหาวิทยาลัย พอช่วงก่อนเปิดเทอมที่ 2 จะไปทำแผนที่จริงนอกสถานที่ แต่วิชานี้เหนื่อยและร้อนมากๆสำหรับวิชาที่ผู้เขียนไม่ชอบที่สุดคือ: วิชากลศาสตร์วัสดุ1-2 เนื่องจากเป็นวิชาคำนวณที่ออกข้อสอบยากมากและมีคน F เยอะมาก บางคนเรียนเกิน 4 ปีเพราะรายวิชานี้ก็มี แต่ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจและขยันหมั่นเพียรต้องผ่านได้ไปแน่นอน3) ปีการศึกษาที่ 3:3.1 ปีการศึกษานี้จะเป็นอีกปีที่มีการเรียนจริงจัง แต่ปีการศึกษานี้จะมีการเรียนที่ ห้องปฏิบัติการ เยอะมากเช่นรายวิชา Materials Testing Lab., Soil Mechanics Laboratory และ Laboratory for Fluid Mechanics ในปีนี้ผู้เขียนจะเริ่มเรียนเกี่ยวกับรายวิชาออกแบบ การเขียนแบบ 2D 3D พฤติกรรมของดิน น้ำ การขนส่ง สัญญาก่อสร้างและการประมาณราคา ดังรายวิชาต่อไปนี้ Reinforced Concrete Design, Soil Mechanics, Engineering Geology, Computer Applications in Civil Engineering, Fluid Mechanics, Hydrology for Civil Engineering, Transportation Engineering and Contract&Estimation3.2 สำหรับรายวิชาที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือ: Computer Applications in Civil Engineering เนื่องจากเป็นรายวิชาที่ได้เรียนเกี่ยวกับการใช้ Excel ประยุกต์ การเขียนแบบด้วย Autocad และ Sketchup สำหรับรายวิชาที่ผู้เขียนไม่ชอบที่สุดคือ: ปีนี้ไม่มี4) ปีการศึกษาที่ 4:ปีการศึกษานี้สำหรับเรื่องการเรียนจะไม่หนักเท่ากับปีที่ 2-3 แต่จะเน้นที่งานวิจัย งานวิจัยของผู้เขียนที่ร่วมกับเพื่อนทั้งสองคนและอาจารย์ที่ปรึกษาได้ทำเกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรมโครงสร้างเรื่อง Post-Buckling Behavior of Variable-Arc-Length Pipe due to Internal Fluid Motion และได้ตีพิมพ์ที่ การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติครั้งที่ 25 ประสบการณ์ "ทำงาน" วิศวกรรมโยธาของผู้เขียนเมื่อผู้เขียนจบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาตรี) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ปี พ.ศ.25631.บริษัท A ตำแหน่ง "วิศวกรโยธา" ช่วงปลายปี พ.ศ.2563 (ประมาณ3-4 เดือน)ผู้เขียนได้ไปสัมภาษณ์งานบริษัท A เป็นบริษัทด้านเทคนิคการซ่อมบำรุงฐานราก เป็นบริษัทขนาดเล็ก ถึง กลาง มีสภาพแวดล้อมการทำงานแบบครอบครัว ผู้เขียนได้งานตำแหน่ง วิศวกรโยธา (civil engineering) โดยมีหน้าที่ตั้งแต่ออกแบบ ประสานงาน และคุมงานภาคสนาม เงินเดือนที่ได้จะอยู่ที่ 16,000 บาท (ไม่รวมอื่นๆ) แต่ถ้ารวมแล้วจะอยู่ที่ 18,000-20,000 บาท เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดเล็กถึงกลาง จึงทำให้การทำงานไม่ได้มีระบบระเบียบชัดเจน และ ผู้เขียนต้องทำตั้งแต่ออกแบบ - คุมหน้างานก่อสร้าง (รู้สึกว่าเงินเดือนไม่คุ้มค่าเหนื่อย) รวมทั้งรูปแบบการทำงานแบบครอบครัวที่ทำให้รู้สึกอึดอัด และ มองไม่เห็นความก้าวหน้าทางการงาน จึงทำให้ผู้เขียนทำงานเพียง 3-4 เดือน และได้ลาออก (ช่วงนี้วางแผนสอบใบ กว. ด้วย) 2.บริษัท B ตำแหน่ง "วิศวกรภาคสนาม" ช่วงปี พ.ศ. 2564-2565 (ประมาณ 1ปี)บริษัท B จะมีการทำแบบทดสอบก่อน ถ้าผ่านประเมินจะเรียกสัมภาษณ์ โดยผู้เขียนผ่านทั้ง 2 ขั้นตอนและได้ตำแหน่งงานเป็นวิศวกรสนาม บริษัท B เป็นบริษัทขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ มีการทำงานแบบมีระบบแบบแผน เงินเดือนรวมสวัสดิการจะอยู่ที่ 22,000 บาท (OT เป็นแบบเหมารวมในนี้แล้ว: ไม่ค่อยดีเนื่องจากบางช่วงทำงานดึกแต่ไม่ได้เงินเพิ่ม) การทำงานตำแหน่งวิศวกรสนามของบริษัทนี้ ผู้เขียนจะทำหน้าที่วางแผนงานภาคสนามโดยอ้างอิงจากแผนงานหลัก ควบคุมทรัพยากรภายในไซต์งานก่อสร้าง ควบคุมคุณภาพงานให้เป็นไปตามแบบรูปรายการข้อกำหนด จัดทำรายงานประจำวัน จัดทำใบrequest and report ประสานงานกับส่วนกลาง ทำเอกสารเพิ่ม-ลดงาน วางแผนเทคอนกรีต 500-1000 Cu.m. ภาคสนามรวมทั้งการเดินรถ และอื่นๆ จากการทำงานบริษัทนี้ทำให้ผู้เขียนได้ช่วยงาน Project Engineering และ Project Manager ด้านการบริหารโครงการเล็กน้อยดังนั้นใน ปลายปี พ.ศ.2565 ผู้เขียนจึงได้ลาออกและไปเรียน ปริญญาโท วิศวกรรมโยธา สาขาวิศวกรรมบริหารงานก่อสร้าง โดยเส้นเวลาเป็นไปดังภาพด้านล่างอ้างอิงที่มารูปภาพ:ภาพหน้าปก วิศวกรโยธา (Civil Engineering) โดย S-Wichawat Channel (จัดทำขึ้นเอง)ภาพที่ 1 หัวข้อ ความหมายของคำว่า "วิศวกร" โดย S-Wichawat Channel (จัดทำขึ้นเอง)ภาพที่ 2 หัวข้อ วิศวกรเรียนอะไร? คืออะไร? โดย S-Wichawat Channel (จัดทำขึ้นเอง)ภาพที่ 3 หัวข้อ ประกอบอาชีพอะไร? อัตราเงินเดือนเท่าไหร่? โดย S-Wichawat Channel (จัดทำขึ้นเอง)ภาพที่ 4 หัวข้อ แชร์ประสบการณ์เรียน และ ทำงานของผู้เขียน โดย S-Wichawat Channel (จัดทำขึ้นเอง)ภาพที่ 5 Timeline ประวัติของผู้เขียน โดย S-Wichawat Channel ภาพที่5 Mohamed_hassan / Pixaba เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !