จากสถานการณ์ตอนนี้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัส COVID-19 ซึ่งทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิต และผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าเชื้อโรคร้ายจะหยุดการแพร่ระบาดไปในเร็ว ๆ นี้ หลังจากประเทศเราได้ประกาศการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก ฉุกเฉิน และมีมาตรการให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) หรือการหยุดอยู่บ้านไม่ออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ทำงาน เที่ยว เพื่อชะลออัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เมื่อไม่ได้ทำงานแต่ปากท้องเราต้องกิน ชีวิตเราต้องใช้สิ่งของต่าง ๆ ทำให้เงินในกระเป๋าเราหมดอย่างรวดเร็ว และเมื่อมองเงินในบัญชีเราแล้วอาจจะเหลือเงินพอใช้ไม่กี่เดือน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคุณไม่มีการวางแผนการเงินในอนาคตครับ ซื่งถ้าคุณมีการวางแผนดังกล่าวคุณจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น ซึ่งวันนี้ผมจึงมาแนะนำ วิธีเก็บเงิน เผื่อในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะเจอกับสถานการณ์อันเลวร้ายแบบนี้อีกขอบคุณภาพจาก pixabay1. เก็บเงินก่อนแล้วค่อยใช้ ก็คือ เมื่อเราได้เงินมา เช่น เงินเดือนจากงานประจำ หรือรายได้อย่างอื่น ให้เราหักเงินไว้ก่อน อาจจะหักไว้อีกบัญชีนึง เพื่อไว้เป็นเงินออม ใช้ในยามจำเป็นหรืออาจเอาไปลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยก็ได้ครับ เช่น เงินเดือนคุณ 3 หมื่น อาจจะหักไว้ซัก 1 หมื่น เหลือเงิน 2 หมื่นไว้ใช้ จะทำให้เราพยายามจัดการบริหารเงิน 2 หมื่นนั้นให้พอใช้ใน 1 เดือน พอเราเห็นอะไรที่อยากได้ เช่น กระเป๋าแบรนเนมสวยดีน่าซื้อ รองเท้าดูเท่จังอยากได้มาใส่แบบคูล ๆ เมื่อเราดูเงินแล้วจะคิดว่า "อุ้ยเงินเราใกล้หมดแล้วนี่หว่า ใช้กระเป๋าเดิม รองเท้าเดินก่อนดีกว่ามันก็ยังใช้ได้อยู่ เดี๋ยวปลายเดือนจะไม่มีตังค์กินข้าว" (แต่ที่จริงเรามีเงินที่หักไว้ก่อนแล้ว 1 หมื่นเพื่อออม จะเอามาใช้ไม่ได้) ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราเป็นคนประหยัดเลยหล่ะครับขอขอบคุณภาพจาก freepik2. ไม่ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยซื้อสิ่งของที่อยากได้ แต่สุดท้ายก็ใช้สิ่งของเหล่านั้นไม่คุ้ม แต่พอถึงเวลาที่เราต้องใช้สิ่งของที่จำเป็นจริง ๆ กลับไม่มีเงินซื้อเพราะเอาเงินไปซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นหมดซะก่อน เช่น เงินเดือนเราตอนนี้ยังน้อยมาก แต่ก็ยังดาวน์รถมาขับทำงาน อีกทั้งยังผ่อนคอนโดหรูใจกลางเมืองซะอีก เดือน ๆ นึงถ้าคิดคำนวณแล้วเราอาจจะไม่มีเงินเก็บเลย หรืออาจเป็นหนี้ด้วยซ้ำ เราจึงต้องถามตัวเองก่อนว่ามันจำเป็นหรือไม่ ตอนนี้อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว เพราะยังมีรถเมย์ รถไฟฟ้าที่ตอนนี้ขยายไปไหนต่อไหนแล้ว บางทีก็เป็นข้อดีเหมือนกันที่ไม่ต้องมานั่งขับรถเองให้เครียดเพราะรถในกทม.ติดมาก แต่ถ้าต้องใช้รถส่วนตัวจริง ๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรถหรู ๆ แพง ๆ มาใช้เลยครับ คอนโดอาจจะจำเป็น แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นคอนโดแพง ตอนนี้เราอาจจะอยู่คอนโดแถวชานเมืองแลกกับที่ต้องตื่นเช้าหน่อย แต่ราคาอาจถูกกว่าคอนโดใจกลางเมืองเป็นหลักล้านเลยขอขอบคุณภาพจาก pixabay ดังนั้นเราจึงควรซื้อสิ่งที่จำเป็นก่อน สิ่งที่ไม่จำเป็นค่อยซื้อทีหลัง แล้วเราจะซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นได้ตอนไหน ก็ตอนที่เรามีเงินเหลือเยอะ ๆ ครับ เช่น บังเอิญหุ้นที่เราซื้อไว้สร้างเซอร์ไพรส์พุ่งทยายไปหลายเปอร์เซ็น เมื่อขายออกมาทำให้ได้กำไรหลายเท่า หรือบังเอิญได้รับมรดกเยอะ เปย์สาวเท่าไหร่เงินก็ยังไม่หมดซักกะที ต่อให้เรารวยเท่าไหร่หรือหาเงินได้เก่งสุด ๆ แต่ถ้าเราใช้เงินเก่งกว่า มีค่าใช่จ่ายมากกว่ารายได้ สุดท้ายเราก็จะจนอยู่ดีครับ...ในทางกลับกันถ้าเราหาเงินได้เก่ง และใช้เงินไม่เก่ง เราก็สามารถรวยได้ครับ หรือไม่จำเป็นต้องรวยหรอก ขอแค่มีเงินไว้ใช้เพื่อความสุขในภายภาคหน้าก็พอ...ขอขอบคุณภาพจาก freepikอ้างอิง ขอขอบคุณภาพปกจาก freepik