ในหนึ่งปีควรมีสักครั้งที่เราจะออกไปพักผ่อนหย่อนกายที่ไหนสักแห่ง แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ถ้าไม่เลือกทะเล ก็ต้องไปสู่อ้อมอกภูเขา ไม่ว่าจะฤดูฝน ร้อน หนาว เราก็ควรจะเที่ยวให้รางวัลแก่ชีวิตกันบ้าง "บ้านป่าเหมี้ยง" ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเหมือนอะไรมากมาย แต่ในหมู่ของคนสายเที่ยวแนวธรรมชาติภูเขา และในวงของคนดื่มกาแฟก็อาจจะเคยรู้จักกันบ้าง เพราะบ้านป่าเหมี้ยงเป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาที่ต้องเดินทางไปแบบเฉพาะเจาะจง พูดง่ายๆก็คือ ต้องตั้งใจไปเท่านั้น หมู่บ้านแห่งนี้ มีชื่อจาก เหมี้ยง เป็นภาษาเหนือ หมายถึง ต้นชา ซึ่งปลูกกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นร้อยปีแล้ว ว่ากันว่า ภูเขาที่นี่อากาศเย็น มีคนมาบุกเบิกปลูกต้นชา อยู่ไปอยู่มาก็ตั้งรกราก เก็บใบชามาหมักขาย สร้างครอบครัวกันเพิ่มขึ้นเรื่อยมา กลายเป็นหมู่บ้านมาจนถึงทุกวันนี้ อาชีพหลักของคนที่นี่ยังคงรักษาวิถีการเก็บใบชา มาทำเมี่ยง โดยใช้ใบชาสดมัดเป็นกำ นำไปนึ่งให้สุก แล้วหมักหลายเดือน นำออกมาทำเป็น เหมี้ยงหมัก คนภาคเหนือนิยมเคี้ยวกินเป็นของว่าง อมไว้ในกระพุ้งแก้ม แก้ง่วง เพราะชาหรือ เหมี้ยง มีคาเฟอีน ให้ความสดชื่น เวลาออกไปทำไร่ทำนา คล้ายกับวิถีของคน ดื่มชา กาแฟในยุคสมัยนี้ หมู่บ้านป่าเหมี้ยง จึงเป็นแหล่งผลิตและขายส่ง เหมี้ยงสู่ตลาดในภาคเหนือรายใหญ่ แม้ปัจจุบันในหมู่บ้านจะเหลือผู้ประกอบการหมักเหมี้ยงเพียงรายเดียว แต่ทุกครัวเรือก็เก็บใบเมี่ยงมานึ่งขายส่งให้ทุกวัน นอกจากนั้นยังเอาใบชาแก่ไปขายส่งให้โรงงานผลิตใบชา และยังนำมาเป็นอาหารเมนูเด็ดคือ ยำใบเหมี้ยง และเอาใบเหมี้ยง ตากแห้งบดไปทำไส้หมอนใบชา หนุนเพื่อสุขภาพขายเป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่เจ๋งไปกว่านั้น คนรุ่นลุกหลานในยุคนี้ เริ่มหันมาปลูกกาแฟอาราบิก้า สลับกับสวนเหมี้ยงกันกันมากขึ้น ที่นี่เลยขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟ ขายส่งโครงการหลวง และ มีเกษตรกรหลายรายแปรรูปคั่วกาแฟขายเอง ในหมู่บ้านจึงมีบรรยากาศของการ เก็บผลผลิตกาแฟ ตากกาแฟ แปรรูป และมีร้านกาแฟกระจายไปหลายหลังคาเรือน แถมยังพัฒนาบ้านเรือนให้เป็นโฮมสเตย์เกือบ 20 หลัง บริหารจัดการแบบกฎของหมู่บ้านร่วมกัน น่ารักมากๆ หมู่บ้านป่าเหมี้ยง จึงเป็นชุมชนเล็กๆที่มีเสน่ห์ทั้งวิถีชีวิตและ สภาพภูมิประเทศเป็นหมู่บ้านในดินแดนหุบเขาที่เราต้องไปเยือนสักครั้ง ปลายทาง “โฮมสเตย์บ้านป่าเหมี้ยง” (ค้นหาในกูเกิลก็เจอง่ายมาก) บรรยากาศบ้านพักติดลำห้วย และวิวภูเขาที่อยากจะร้อง ว๊าววว..เย็นสบาย เส้นทางไปถึงบ้านป่าเหมี้ยง จะต้องปักหมุดเป้าหมายไปที่อำเภอ เมืองปาน จังหวัดลำปาง หมู่บ้านนี้อยู่บนภูเขาเหนืออุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน สามารถผ่านเข้าไปในเส้นทางขึ้นอุทยาน ทะลุออกด้านหลัง ถามเจ้าหน้าที่ว่าไปบ้านป่าเหมี้ยง ก็จะง่ายกว่า หาเส้นทางผ่านหมู่บ้านอื่นๆขึ้นไป ระยะเวลาจากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนขึ้นไป ไม่เกิน 40 นาทีก็ถึงแล้ว เส้นทางขึ้นเป็นทางลาดยางแคบๆ รถเก๋งก็ขับขึ้นได้สบาย หากใครจะลองนั่งรถสองแถวจากตัวเมืองลำปางไป ก็ มีคิวรถสองแถว แถวกาดกองต้า แต่ต้อง โทรไปนัดหมายกับเจ้าของบ้านดฮมสเตย์ก่อน เพื่อหารถในหมู่บ้านไปรอรับที่ ตัวอำเภอเมืองปาน สองข้างทางขึ้นป่าเหมี้ยงเป็นป่าทึบ อากาศเย็น แต่ปลอดภัยเพราะ ระหว่างทางมีหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ ก่อนถึงหมู่บ้านก็จะเจอจุดชมวิว ชาวบ้านเรียกว่าลานดอกเสี้ยว เพราะภูเขาที่นี่มีดอกชงโคป่า หรือภาษาเหนือเรียกกันว่า ดอกเสี้ยว ทั้งภูเขา ในช่วงพ้นฤดู หนาวเดือน กุมภาพันธ์ ดอกเสี้ยวจะบานสะพรั่งไปทั่วดอย คล้ายซากุระ ในช่วงฤดูฝนบ้านป่าเหมี้ยงเหมือนต้องมนต์แห่งขุนเขา เพราะเสียงน้ำในลำห้วยที่ผ่านกลางหมู่บ้าน ไหลดังตลอดทั้งวันทั้งคืน โรแมนติกเป็นที่สุด ส่วนหน้าร้อนก็ ไม่ร้อนมาก อากาศเย็นสบายฤดูไหนๆก็ไปได้...... หากเราตั้งใจจะไปที่ไหนสักแห่งเงียบๆ ดูวิถีคนอยู่กับป่า วิถีคนบ้านๆอบอุ่น เรียบง่าย บ้านป่าเหมี้ยง ลำปางเหมาะจะไปนอนค้างสักคืน เชารฺ์ทพลังแล้วกลับไปลุยง่านต่อ ก็ต้องลองจัดจ๊า......