ในปีที่ผ่านมา ทุกคนคงน่าจะเคยได้ยินคำว่า 'กองทุนอสังหาริมทรัพย์' กันเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะมาจากการแนะนำจากนักวิเคราะห์และคนในแวดวงการเงิน เนื่องจากช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน นักลงทุนหลายคนเลยหาทางเลือกอื่นในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงทำให้ปีที่แล้วกองทุนที่เน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีเงินไหลเข้ามา 2.3 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% จากปีที่แล้ว และกองทุนที่เน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ มีเงินไหลเข้ามา 4.7 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากปีที่แล้ว ซึ่งเราคิดว่านอกจากจะมีคนลงทุนในกองทุนอสังหาเพิ่มขึ้นจนทำให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเยอะ ส่วนนึงอาจจะมาจากตัวอสังหาริมทรัพย์เองที่โตขึ้น*ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2019 จากเว็บไซต์ Morningstar Thailand (https://www.morningstarthailand.com/th/news/198363/กลุ่มกองทุนรวมหมวดอสังหาริมทรัพย์.aspx)ภาพจาก: https://pixabay.com/photos/manhattan-new-york-city-407703/เราจะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักกองทุนอสังหากันมากขึ้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็นการระดมเงินจากคนหลายคนที่ซื้อกองทุนเดียวกัน แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายแต่ละกอง โดยเราจะได้รับเป็นหน่วยลงทุน ส่วนใหญ่เมื่อกองทุนได้กำไรก็จะให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5-10% ต่อปี (แต่ในปีที่แล้ว กองทุนอสังหาให้ผลตอบแทนสูงถึง 20% เชียวนะ) จริง ๆ แล้ว หลักการลงทุนก็เหมือนกันกองทุนรวมทั่วไปเลย แต่จะต่างกันที่ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในอสังหาต่าง ๆ เช่น สนามบิน อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า คลังเก็บสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม เป็นต้นภาพจาก: https://pixabay.com/photos/skyscraper-building-office-warsaw-2461313/ประเภทของกองทุนรวมอสังหา มี 2 ประเภท คือ กองทุนรวมอสังหา (Property Fund) และ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)ในปัจจุบันจะไม่มีกองทุนรวมอสังหา (Property Fund) เปิดกองใหม่เพิ่มแล้ว แต่ก็ยังมีกองทุนอสังหาแบบนี้เปิดให้เราซื้อขายได้อยู่นะ โดยทาง กตล. ประกาศให้ออกเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) แทน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งกอง REIT มีความคล้ายกับ Property Fund แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องกฎเกณฑ์ต่าง ๆ และกอง REIT มีลักษณะเป็นกองทรัพย์สินที่ถือกรรมสิทธิ์โดยทรัสตี ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลข้อดีของ Property Fund คือ1.ใช้เงินลงทุนน้อย เริ่มต้นเพียงแค่หลักพัน และมีสภาพคล่องสูง2.กระจายความเสี่ยง เนื่องจากในแต่ละกองทุนจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายแห่ง หรือบางกองทุนก็จะกระจายลงทุนไปในหลากหลายประเทศ3.ไม่ต้องดูแลสินทรัพย์เอง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญหรือมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลและบริหารจัดการแทน4.ทำให้เรามี passive income อย่างสม่ำเสมอ5.ไม่ต้องมีความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ก็สามารถลงทุนได้.ภาพจาก: https://pixabay.com/photos/airline-architecture-buildings-city-1807486/ข้อควรระวังในการลงทุนกองทุนอสังหาการลงทุนในกองทุนรวมอสังหา จะมีความเสี่ยงในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น อาจทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนอสังหาลดน้อยลง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าอัตราดอกเบี้ยกำลังอยู่ในช่วงขาลงก็จะเป็นประโยชน์ และช่วงที่น่าสนใจที่เราจะเลือกลงทุนอสังหาในช่วงนี้ค่ะสุดท้ายนี้ กองทุนอสังหามีความหลากหลายในนโยบายการลงทุนอย่างมาก ทั้งประเภทอสังหา การลงทุนอนันดาในประเทศ และการลงทุนอสังหาต่างประเทศ ดังนั้น ก่อนการลงทุนอย่าลืมศึกษานโยบายกองทุนนั้นให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน และในปีนี้ตลาดอาจจะยังคงมีความผันผวนอยู่ ใช้ความระมัดระวังในการลงทุนกันด้วยนะคะ=====หากเพื่อน ๆ ชอบอ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนและกองทุนรวมสามารถติดตามบทความอื่นของเราได้ที่https://www.blockdit.com/secret.fund