อยากลดน้ำหนัก แต่ไม่มีเวลาไปฟิตเนสเพื่อออกกำลังกาย แล้วจะผอมได้ไง? ไม่ต้องกังวลใจเรื่องไม่มีเวลาไปฟิตเนส หรือไม่มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย เพราะจริงๆแล้วมีวิธีการออกกำลังกายง่ายๆอยู่ด้วยกันหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณผอมลงและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ หนึ่งในนั้นก็คือ การเดิน ที่สามารถทำที่ไหนและเวลาใดก็ได้ เพียงแต่จะต้องมีเทคนิคการเดินอย่างถูกวิธีเพื่อให้คุณได้เดินออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและลดน้ำหนักลงได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ มาดูกันว่า การเดินเพื่อลดน้ำหนัก ทำได้อย่างไรบ้าง 1. จัดท่าทางการเดินให้ถูกต้อง ในการเดินออกกำลังกาย คุณควรจัดระเบียบร่างกายให้อยู่ในท่วงท่าที่ถูกต้อง ด้วยการยืดไหล่ขึ้น หลังตั้งตรง แขม่วกล้ามเนื้อท้องเล็กน้อย ซึ่งการจัดท่าทางที่ถูกต้องจะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลและช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ใช้เวลาในการเดินออกกำลังกายแต่ละครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเดินให้ได้ในระยะทาง 2.5 – 3.3 กิโลเมตร หรือประมาณ 3,000 – 4,500 ก้าว ซึ่งการเดินเร็วจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 100-300 แคลอรีขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว แต่เป้าหมายที่ดีในการเดินเพื่อลดน้ำหนักควรเดินให้ได้อย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว 3. ความเร็วในการเดินควรอยู่ระหว่าง 4.8 – 7.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่คุณยังสามารถหายใจหนักกว่าปกติเล็กน้อยแต่ยังสามารถพูดได้ชัดเจน คนที่สวมนาฬิกาที่มีระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อาจตรวจสอบดูว่าอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ใน Fitness Zone หรือ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของคุณ ซึ่งวิธีการหาอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดสามารถทำได้อย่างง่ายๆคือ 220 – อายุเป็นจำนวนปี 4. เพิ่มความเข้มข้นในการเดินออกกำลังกาย ด้วยการเดินขึ้นทางชันซึ่งจะช่วยเผาผลาญจำนวนแคลอรีได้มากขึ้น ข้อดีของการเดินออกกำลังกายนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง อย่างแรกเลยก็คือ ความง่ายและสะดวก เพราะคุณแทบไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆในการออกกำลังกายเลยยกเว้นรองเท้าผ้าใบออกกำลังกายดีๆสักคู่หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องฝึกฝนหรือใช้ทักษะใดๆมากเลย ใครๆก็สามารถทำได้ ดังนั้น หากไม่มีเวลาไปฟิตเนสหรือไม่สะดวกที่จะออกกำลังกายแบบหนักๆ ลองใช้วิธีการเดินออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายกันดีกว่า เครดิตภาพ www.freepik.com www.pixabay.com