เพิ่งฉายแค่เพียงตอนแรกก็พาแฮชแท็ก #ฉลาดเกมส์โกงEP1 เข้าสู่ท็อปชาร์ทของทวิตเตอร์ได้อย่างไม่เหนือความคาดหมาย สำหรับ “ฉลาดเกม์โกง Bad Genius The Series” ละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน “ฉลาดเกมส์โกง Bad Genius” ของ GDH ที่เต็มไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือการดัดแปลงจากภาพยนตร์สู่ละครโทรทัศน์นั้นมีมากมายเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะการดำเนินเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงตัวละครชื่อเดิมในมุมมองของนักแสดงคนใหม่ โดยเฉพาะ ‘ลิน รินลดา นิลเทพ’ สาวน้อยอัจฉริยะผู้เป็นตัวดำเนินเรื่อง ซึ่งได้รับนักแสดงสาวสวยอดีตสมาชิกของ BNK48 “จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน” นำพาทีมโกงสู่เส้นทางใหม่ที่ต่างจากเดิมย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีทีแล้วในโรงภาพยนตร์ “ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง” ทำให้พวกเราได้รู้จัก “ครูพี่ลิน” เด็กสาวหน้านิ่งผู้ไม่เก่งเรื่องการเข้าสังคม เธอมีความคิดที่ลุ่มลึก ไม่แสดงความรู้สึกออกมาง่ายๆ ในขณะที่ “ลิน” คนใหม่ แม้จะปราดเปรื่องไม่ต่างจากคนเดิม แต่กลับมีน้ำเสียงที่สดใสเมื่อได้บรรยายความน่าทึ่งของโรงเรียนกรุงเทพทวีปัญญาให้กับพ่อของเธอผู้พยายากอย่างหนักเพื่อส่งเสียลูกสาวเพียงคนเดียวให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีที่สุดแม้จะต้องก่อหนี้สินให้ตนเอง“แล้วมีเพื่อนใหม่หรือยัง” คำถามสั้นๆ จากพ่อ หวนให้ระลึกไปถึงการพบหน้ากันครั้งแรกในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของลินและเกรซ เพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของลิน ในวันถ่ายรูปติดบัตรนักเรียน เหตุที่ลินในแบบเดิมมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยิ้มแย้ม ทำให้เกรซที่มีคิวถ่ายรูปติดบัตรต่อจากเธอเนื่องจากเลขที่ติดกันทนเห็นเพื่อนมีชะตากรรมใช้รูปหน้าเรียบในบัตรนักเรียนติดกันตลอด 3 ปีไม่ได้ จึงให้ความช่วยเหลือในการกำชับช่างภาพและตัวลินเพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลุกลามไปสู่การวางแผนโกงระดับประเทศแล้วลินคนใหม่ล่ะ? เธอไม่ได้มีสีหน้าบึ้งตึงจนน่าเป็นห่วง ตอนถ่ายรูปติดบัตรคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธออยู่แล้ว แบบนี้ก็ไม่ได้สนิทกับเกรซน่ะสิ ในขณะที่คิดเช่นนั้นละครก็พาเราไปสู่เหตุการณ์ใหม่ที่ต่างจากภาพยนตร์ในขณะที่ลินกำลังเล่นเปียโนในระหว่างช่วงพักเที่ยง เกรซก็เข้าใจผิดคิดว่าลินมาออดิชั่นเพื่อการแสดงละครเวทีเช่นเดียวกับตัวเอง ทั้งสองได้พูดคุยทำความรู้จักและแก้ไขความเข้าใจผิดในเวลาอันรวดเร็ว เกรซจึงขอให้ลินช่วยซ้อมบทละครเวทีด้วยเสียเปียโน ความพยายามของสองสาวทำให้เกรซออดิชั่นผ่าน โดยที่เธอไม่ได้เตรียมใจว่านักเรียนที่จะได้ขึ้นแสดงละครเวทีต้องมีเกรดเฉลี่ยที่สมควร ลินจึงอาสาติวหนังสือให้เกรซในฐานะเพื่อนคนแรกภายในโรงเรียนกรุงเทพทวีปัญญา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโกงรูปแบบใหม่ที่ต่างจากภาพยนตร์ความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกตีแผ่และให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นในละคร เมื่อลินรู้ว่าพ่อของเธอต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อจ่ายค่าเทอมราคาหลายหมื่นแม้ว่าลินจะได้รับทุนการศึกษา เหตุเพราะทุนที่เธอควรได้รับแต่เดิมเป็นของ แบงค์ อีกหนึ่งนักเรียนหัวกะทิที่มาจากครอบครัวยากจน สิ่งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในภาพยนตร์ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแบงค์และลินเปลี่ยนไปในรูปแบบใหม่ที่เราไม่คาดคิด จากเด็กหนุ่มที่เคยชื่นชมเพื่อนที่หัวดีไม่ต่างกันในภาพยนตร์ สู่คู่แข่งด้านทุนการศึกษาที่ไม่ใครคนหนึ่งต้องเสียน้ำตา แต่เนื้อแท้แบงค์ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย เขาปฏิเสธคำขอเป็นเพื่อนจากลินก็เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งเขาและเธอต้องเสียใจเมื่อทุนการศึกษาตกที่ใครคนใดคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของสองคนนี้จะพัฒนาไปในรูปแบบไหนคงต้องอดใจรอดูกันต่อไปสำหรับEP1 ก็มีจุดน่าสนใจให้สังเกตกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ในฉากสุดท้ายก็ยังมีเซอไพรส์ให้กระทบจิตใจของลินจนน่าตระหนก เมื่อครูโสภณผู้คุมสอบวิชาคณิตศาสตร์ถูกไล่ออกเนื่องจากเหตุการณ์การปล่อยข้อสอบให้นักเรียนซึ่งถูกเปิดโปงโดย พัฒน์ แฟนหนุ่มฐานะดีของเกรซ ที่ได้รับความช่วยเหลือของลินจากการสอบครั้งล่าสุด มันช่างเป็นความบังเอิญที่เลวร้ายเมื่อเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งที่ลินพบคือลูกชายของครูโสภณคุณครูคนหนึ่งที่พยายามหาหนทางให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดแม้จะต้องทำการ ‘โกง’ ผ่านแจกข้อสอบให้นักเรียนที่มาเรียนพิเศษกับตัวเอง ช่างคล้ายคลึงและแตกต่างกับพ่อของลินเสียเหลือเกิน พ่อของลินไม่มีโอกาสหาเงินจากการสอนพิเศษเพราะต้องทำงานของโรงเรียนที่คั่งค้างจากครูคนอื่น ลินไม่พอใจที่พ่อทำเช่นนั้นภาพของครูโสภณซ้อนทับกับพ่อของเธอมากแค่ไหน ลูกของครูโสภณเสียโอกาสทางการศึกษาไม่ต่างจากเธอหรือเปล่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของ ‘ครูพี่ลิน’ ต่อจากนี้มากแค่ไหน ทำเอาอดใจรอไม่ไหวแล้วล่ะ รูปภาพทั้งหมดจาก GDH