ลูกควรเรียน...รัฐบาล หรือเอกชนดี ช่วงนี้โรงเรียนต่าง ๆ เริ่มทยอยประกาศผลสอบและทำการเปิดรับนักเรียนใหม่กันแล้วส่วนเด็กที่อยู่โรงเรียนเดิมก็ไม่มีปัญหา แต่เด็กที่ต้องไปเข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่นี่สิครับผู้ปกครองจะตัดสินใจอย่างไรว่าจะให้ลูก ๆ ของเราเข้าเรียนที่โรงเรียนรัฐบาล หรือโรงเรียนของเอกชนดีเรามาดูกัน ลูกควรเรียน...รัฐบาล หรือเอกชนดี ในการตัดสินใจของผู้ปกครองเพื่อเลือกโรงเรียนให้ลูกมีข้อแตกต่างระหว่างโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง ข้อดีโรงเรียนรัฐบาล 1.เป็นโรงเรียนที่เปิดมานานมีชื่อเสียงมีรุ่นพี่ ๆ ที่จบไปมากมายทำให้จบออกไปมีแหล่งต่อยอดในการเรียนหรือการแนะนำจากรุ่นพี่ ๆ ได้ไม่เคว้ง 2.อยู่ไม่ไกลที่พักของนักเรียนเพราะโดยส่วนมากโรงเรียนรัฐบาลจะมีโควต้าให้เด็กในพื้นที่มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนก่อน 3.ค่าเทอมถูกมากบางที่ให้เรียนฟรีโดยเฉพาะลูก ๆ ใครอยู่ชั้นอนุบาล - ป. 6 โรงเรียนรัฐบาลให้เรียนฟรีไม่เสียค่าเทอม 4.มีสวัสดิการต่าง ๆ ตามที่รัฐจัดหามาให้เช่นแจกอุปกรณ์การเรียนแถมมีข้าว, น้ำ, ขนม, นมฟรีให้กิน ข้อเสีย : อุปกรณ์บางอย่างอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของเด็กนักเรียนและการเรียนการสอนอาจไม่ทั่วถึงเนื่องจากมีจำนวนนักเรียนที่มีมาก, ความสะอาดภายในโรงเรียนบางที่บางแห่งอาจยังมีการทำความสะอาดไม่ดีพอเนื่องจากงบการจ้างคนที่จะมาทำความสะอาดมีจำกัด ข้อดีโรงเรียนเอกชน 1.ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียน 2 ภาษาลูกจะได้เรียนรู้ในการฝึกใช้ภาษาเป็นอย่างดีและมีหลักสูตรให้เลือกเรียนหลากหลายรวมถึงหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ทันยุคสมัยอัพเดทเสมอ 2.มีครูและอาจารย์รวมถึงบุคลากรอื่น ๆ ดูแลอย่างทั่วถึงรวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพียงพอต่อเด็ก ๆ 3.มีรถรับส่งอย่างดีไว้ใจได้เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นรถของโรงเรียนเองไม่ต้องไปค่อยหารถรับ - ส่งให้ปวดหัว 4.มีความสะอาดรวมทั้งบรรยากาศและสุขลักษณะที่ดีภายในโรงเรียน ข้อเสียของโรงเรียนเอกชน : อันดับแรก ๆ ที่เราทราบกันดีราคาค่าเทอมไปจนถึงค่าอุปกรณ์ค่าอาหารการกินต่าง ๆ มีราคาแพง, การเดินทางไปโรงเรียนบางแห่งใช้เวลานานเนื่องจากอยู่ไกลบ้านอาจทำให้นักเรียนอ่อนล้าต่อการเดินทางได้ ได้รู้ถึงข้อแตกต่างระหว่างโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชนกันไปแล้วคราวนี้ผู้ปกครองคงจะตัดตัดสินใจกันได้แล้วว่าเราควรส่งให้ลูกของเราเข้าไปเรียนโรงเรียนไหนดีโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ล่ะท่านนะครับ. ภาพประกอบปก / Pic 1/ Pic 2/ Pic 3 โดยผู้เขียน