เมืองมรดกโลกชื่อดังในประเทศกัมพูชาอย่าง “เสียมเรียบ” นอกจากจะมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายอย่างเช่น นครวัดและนครธรรมแล้ว เสียมเรียมยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือการล่องเรือ ชมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณโตนเลสาบนั่นเอง โตนเลสาบอยู่ทางตอนใต้ของเสียมเรียมประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 7,500 เมตร และยังเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นเสมือนแก้มลิงธรรมชาติที่คอยรับน้ำจากแม่น้ำโขง และแม่น้ำสายย่อยๆหลายสายไหลมารวมกันจนกลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของชาวกัมพูชา มีปลาน้ำจืดมากถึง 300 สายพันธุ์ เมื่อถึงฤดูแล้ง น้ำในโตนเลสาบจะไหลกลับไปยังแม่น้ำโขงที่บริเวณที่กลางจุดจัตุรมุขกลางกรุงพนมเปญ ก่อนจะไหลลงไปที่ประเทศเวียดนาม ทำให้ระดับน้ำในโตนเลสาบแห่งนี้ลดฮวบจนเกิดเป็นพื้นที่ดิน จนสามารถปลูกข้าวได้ ที่โตนเลสาบนอกจากจะมีบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้แล้ว ยังมีทั้งตลาดลอยน้ำ โบสถ์คริสต์ และโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งที่โรงเรียนจะมีครูอาสาสมัครมาช่วยสอนหนังสือ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวกัมพูชาที่มีเชื้อสายเวียดนาม มีอาชีพทำการเกษตรและประมงเป็นหลัก ชาวบ้านบางส่วนหันมาแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อเป็นอาชีพเสริมเช่น การทำปลาร้า ซึ่งจะเริ่มทำในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงปลายเดือนมีนาคม และเสน่ห์ของโตนเลสาบคือการนั่งเรือชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกนั่นเอง ด้านบนของจุดแวะพักจะมีจุดชมวิวไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของพระอาทิตย์และทะเลสาบที่กว้างไกลสุดลูกหาลูกตา มีการเลี้ยงจระเข้บนแพไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูอีกด้วย และจะมีของฝากที่ทำจากหนังจระเข้ หนังงู หากใครอยากลองชิมเนื้อจระเข้ ที่โตนเลสาบแห่งนี้ก็มีขายด้วยนะคะ สำหรับทริปนั่งเรือชมโตนเลสาบ เราอาจจะต้องมีการเตรียมตัวซักเล็กน้อย แนะนำให้เตรียมกระเป๋าที่กะทัดรัดและพกพาได้สะดวก ส่วนการเดินทาง เราใช้บริการรถของทางโรงแรมซึ่งจะมี 2 รอบ เวลา07.00 น. และ 13.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง