ตลอดช่วงระยะเวลาของประวัติศาสตร์ของมนุษย์มีบันทึกการเกิดโรคระบาดมาแล้วหลายครั้ง สมัยก่อนทำได้เพียงรักษาตามอาการ แต่ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้มีการพัฒนามาไกลกว่าเมื่อก่อนทำให้เรามีการจัดทำสารบางชนิดฉีดเข้าสู่ร่างกายเพื่อจะให้ร่างกายของคนเรานั้นปลอดภัยจากโรคร้ายพวกเราเรียกกันว่า วัคซีน วัคซีนคือสารชนิดหนึ่งที่ฉีดเข้าไปร่างกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ส่วนใหญ่ทำมาจากเชื้อโรค แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทำจากเชื้อโรคที่ตายแล้วมีสารของเชื้อโรคมาฉีดเข้าตัวเรา และ ทำจากเชื้อโรคที่อ่อนแอ ทำให้มันสลบพิษจะได้ไม่รุนแรง เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายคนเรา ร่างกายเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกัน กับโรคนั้นๆ (ภาพจาก DCD/Unsplash) ซึ่งในปัจจุบันเองคนทั้งโลกได้รู้จักกับโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนในทุกมุมโลกไปพร้อมๆกัน โรคร้ายที่สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนในเวลาอันรวดเร็วนั้นก็คือ Covid-19 Covid-19 คืออะไร ? โรคโควิด 19 คือโรคติดต่อซึ่งเกิดจากไวรัสโคโรนาชนิดที่มีการค้นพบล่าสุด ไวรัสและโรคอุบัติใหม่นี้ไม่เป็นที่รู้จักเลยก่อนที่จะมีการระบาดใน เมืองอู่ฮั่นประเทศจีนในเดือนธันวาคมปี 2019 ขณะนี้โรคโควิด19 มีการระบาดใหญ่ไปทั่ว ส่งผลกระทบแก่หลายประเทศทั่วโลก การแพร่เชื้อ โรคโควิด19 นี้โดยหลักแล้ว แพร่จากคนสู่คนผ่านทางฝอยละอองจากจมูกหรือปากซึ่งขับออกมาเมื่อผู้ป่วยไอหรือจามเรารับเชื้อได้จากการหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปจากผู้ป่วย หรือจากการเอามือไปจับพื้นผิวที่มีฝอยละอองเหล่านั้นแล้วมาจับตามใบหน้า ระยะเวลานับจากการติดเชื้อและการแสดงอาการ (ระยะฟักตัว) มีตั้งแต่ 1-14 วัน 97% ของผู้ป่วยเริ่มมีอาการภายใน 14 วัน (ภาพจาก Fusion Medical Animation/Unsplash) ประเทศไทยของเราเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างรุนแรงทั้งทางด้านการใช้ชีวิต การทำงาน เศรษฐกิจ รวมไปถึงทางด้านการศึกษา เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้นเปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปหลายด้าน เราต้องปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็น work from home การศึกษาเองก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นในรูปแบบการเรียนการสอนแบบ online ส่วนทางด้านการซื้อขายต่างก็เน้นไปในทาง Delivery เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการติดเชื้อรวมไปถึงการออกไปแพร่เชื้อด้วย ตอนนี้ประเทศไทยเองมีการนำเข้าวัคซีนอย่างต่อเนื่องและทยอยฉีดให้กับผู้คนที่มีความประสงค์จะรับวัคซีนจัดหาจากทางรัฐบาล และยังคงมีวัคซีนทางเลือกที่สามารถจองได้หากมีโควตานำเข้าวัคซีนทางเลือก แต่สำหรับวัคซีนทางเลือกแล้วมีราคาที่ค่อนข้างจะสูงแถมยังมีปริมาณที่น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ปัจจุบันมีวัคซีนอยู่หลายยี่ห้อได้แก่ ยี่ห้อวัคซีนโควิดที่ WHO อนุมัติให้ใช้งานได้ Pfizer ประเทศสหรัฐอเมริกา (ประสิทธิภาพ 95%) Moderna ประเทศสหรัฐอเมริกา (ประสิทธิภาพ 94.5%) Johnson and Johnson ประเทศสหรัฐอเมริกา (ประสิทธิภาพ 66%) AstraZeneca ประเทศอังกฤษ (ประสิทธิภาพ 65%) Covishield ประเทศอินเดีย (ประสิทธิภาพ 72%) ยี่ห้อวัคซีนโควิดที่ WHO อนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน (สามารถฉีดได้ตั้งแต่กลุ่มคนอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้สูงอายุ) Sinovac ประเทศจีน (ประสิทธิภาพ >50%) Sinopharm ประเทศจีน (ประสิทธิภาพ 79-86%) ยี่ห้อวัคซีนโควิดที่อยู่ระหว่างรออนุมัติจาก WHO Novavax ประเทศสหรัฐอเมริกา (ประสิทธิภาพ 89%) Sputnik-V ประเทศรัสเซีย (ประสิทธิภาพ 91%) Covaxin ประเทศอินเดีย (ประสิทธิภาพ 81%) CanSino ประเทศจีน (ประสิทธิภาพ 65%) (ภาพจาก Daniel Schludi/Unsplash) ปัจจุบันในไทยมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น 28.1(ณ วันที่ 23/08/64) ล้านคน ทางผู้เขียนเองก็มีการจองวัคซีน Covid-19 ไปแล้วเช่นกันแต่การจองนั้นใช่ว่าจะได้ฉีดกันง่ายๆ เนื่องด้วยการที่จะได้รับวัคซีนนั้นจำเป็นที่จะต้องแจกจ่ายให้กับผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เสี่ยงก่อน หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เกิดคัตเตอร์ก่อนด้วยเช่นกัน นั้นอาจทำให้เกิดการแทรกคิวของการฉีดวัคซีนอยู่เป็นประจำ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีการวอร์คอินเข้าไปฉีดเช่นกันแต่เวลาในการเปิด วอร์คอินนั้นอาจจะไม่ตายตัวหรือคงที่เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง ในสถานที่ที่จัดเตรียมเพื่อรับมือกับผู้ที่เดินทางเข้ามาเพื่อขอรับวัคซีนนั้นเป็นทั้งกลุ่มเสี่ยงและคนในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วจุดที่รอรับวัคซีนระหว่างลงทะเบียนนั้นก็สำคัญมากจึงต้องมีการคัดกรองอย่างไม่หละหลวม มีการป้องกันทั้งผู้ที่เข้ามาขอรับวัคซีนทั้งบุครากลทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่เองก็เช่นกัน ทางผู้เขียนจองวัคซีนไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาทางผู้เขียนได้คิวที่ 78,397 แต่ปัจจุบันมีการรับวัคซีนถึงคิวที่ 29,000 นั้นแสดงว่าทางผู้เขียนเองต้องรอคิวอีกทั้งสิ้น 49,397 คิว อาจจะต้องใช้เวลารอถึงสองเดือน ทางผู้เขียนเองก็เข้าใจดีว่าปัญหาในความล่าช้านั้นเป็นเหตุที่เลี่ยงไม่ได้เนื่องจากมีผู้ที่ต้องการเข้ารับวัคซีนเป็นจำนวนมากจึงมีการเกิดปัญหาเฉพาะหน้าหลายอย่างทำให้การจ่ายวัคซีนนั้นช้ากว่าที่ควรเป็น ทางผู้เขียนเองก็ได้มีเพื่อนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกันโดยการฉีดเข็มแรกนั้นเป็น Sinovac เข็มที่สองเป็น AstraZeneca เว้นระยะห่างในการฉีดเข็มที่สองอยู่ที่ 30 วัน เพื่อนขอผู้เขียนได้ วอร์คอินเข้าไปและแจ้งความประสงค์ที่จะรับวัคซีน การเดินเข้าไปรอรัคบวัคซีนั้นก็ต้องลงทะเบียนตามจุดต่างๆที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ ทั้งจุดตรวจและจุดกรอกข้อมูลต่างๆ ในการรับวัคซีนอาจจะใช้เวลาราวชั่วโมงเศษเนื่องจากในระหว่างที่รออยู่นั้นกูมีคนที่ทยอยเข้ามาเรื่อยๆทั้งคนที่วอร์กอินเช่นเดียวกันและทั้งคนที่มาตามคิวที่ลงทะเบียนรวมไปถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงฉุกเฉิน หลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพื่อนเล่าว่าจะมีอาการปวดในจุดที่ฉีดวัคซีนไปหลังจากนั้นหนึ่งวันแรกมีอาการไข้นิดหน่อยประมาณสองวัน ซึ่งนั้นเป็นอาการที่เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อโรคและได้ทำการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อจะป้องกันร่างกายของเราให้ปลอดภัยจากเชื้อ Covid-19 และหวังว่าวิกฤตที่เหล่ามนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้จะหายไปในเร็ววัน สถานการณ์โควิดในเดือนสิงหาคม 2564 นั้น แต่ละวันยังคงมีผู้ติดเชื้อในหลักหมื่นรายและมีผู้เสียชีวิตนับร้อยรายภายในหนึ่งวัน นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าการจัดการควบคุมโรคและจัดหาวัคซีนนั้นยังทำได้ไม่ดีนัก และยี่ห้อวัควซีนที่ได้รับนั้นยังคงเป็นยี่ห้อที่ให้ผลรับที่ไม่ค่อยดีนักอย่าง sinovac จึงทำให้ทางการแพทย์ไทยเลือกและตัดสินใจที่จะใช้การฉีดผสมระหว่าง Sinovac และ AstraZeneca การฉีดวัคซีนในปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซนต์เต็ม มีหลายครั้งที่หลายคนได้รับวัคซีนครบทั้งสองเข็มแต่ก็ยังคงพบผลตรวจติดเชื้อได้เช่นกัน ทั้งนี้การรับวัคซีนแต่ละยี่ห้อนั้นผลที่ร่างกายจะตอบสนองต่อวัคซีนยี่ห้อนั้นๆจะแตกต่างกัน ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังจากรับวัคซีนนั้นมีไม่เท่ากันเนื่องจากศักยภาพทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามการตรวจภูมิคุ้มกันที่ขึ้นมาเยอะมากพอจะป้องกันเชื้อได้ยังคงเป็นวัคซีนยี่ห้อ Pfizer และ Moderna วัคซีนสองยี่ห้อนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก who , cigna เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !