วันนี้จะพาไปรู้จักกับวัดคูเต่า เป็นสถานที่อยู่ใกล้บ้านของนักอ่านเองค่ะ เป็นที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางเพียง 20 – 30 นาทีเท่านั้น วัดแห่งนี้ถือได้เป็นว่าศาสนาสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของตำบลคูเต่า จังหวัดสงขลา ที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ของโบราณสถานไว้หลายจุดด้วยกัน โบราณสถานที่สำคัญได้แก่ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง และศาลาท่าน้ำ ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ด้วยเหตุอันนี้ทำให้ศาลา 100 ปี วัดคูเต่าได้รับรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติยูเนสโก จากการที่ได้รับรางวัลในครั้งนั้นทำให้วัดคูเต่าเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น วัดคูเต่า เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณริมคลองอู่ตะเภา อำเภอบางกล่ำ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยวัดคูเต่าถูกก่อสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2299 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 แต่เดิมวัดคูเต่าตั้งอยู่ที่บ้านคลองหิน แต่เดิมวัดคูเต่ามีชื่อว่า “ วัดสระเต่า ” เนื่องจากเต่าอาศัยอยู่ในสระจำนวนมาก เริ่มแรกวัดตั้งอยู่ตรงข้ามป่าช้าหนองหิน แต่ที่ตั้งของวัดสระเต่าเป็นที่ราบลุ่ม เมื่อเกิดน้ำหลากก็จะไหลเข้าท่วมวัด สร้างความเดือดร้อนให้พระสงฆ์ และชาวบ้าน ต่อมามีจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และทำไร่สวนส้มเป็นจำนวนมาก จึงต้องการไม้เพื่อใช้ในการค้ำยันต้นส้ม เนื่องจากดินบริเวณนั้นค่อนข้างดี ชาวบ้านจึงต้องออกไปหาไม้เสม็ดบริเวณทุ่งเกาะไหล เดินทางค่อนข้างลำบาก มีเรื่องเล่าว่าเคยมี เสือสมิง ทำร้ายสามเณรจนมรณภาพ จนเกิดปัญหาต่าง ๆ ชาวบ้านจึงร่วมมือร่วมใจขุดบริเวณทิศเหนือของวัด ทอดยาวไปยังสถานที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน เพื่อใช้ในการสัญจรคมนาคม ส่งผลให้เต่าในสระ ย้ายลงไปในคูใหม่ และเมื่อมีการสร้างวัดขึ้นใหม่จึงเรียกวัดแห่งนี้ว่า “ วัดคูเต่า ” จิตรกรรมฝาผนังวัดคูเต่า เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีคุณค่าเป็นอย่างมาก เป็นการแสดงถึงศิลปวัฒนธรรม และประเพณี รวมไปถึงวิถีชีวิตในยุคนั้น ๆ ผ่านจิตกรผู้เขียนภาพ และเรื่องราว ตลอดจนการใช้เส้น สี เรื่องราวที่ปรากฏบนฝาผนัง เขียนเรื่องทศชาติชาดก ตอนพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นนามของพระโพธิสัตว์สุดท้าย นอกจากทำความรู้จักกับประวัติของวัดแห่งนี้แล้ว ในทุกวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ จะมีตลาดนัดภายในวัดทุกสัปดาห์ ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงต่างพามาซื้อของ มาขายของ ทำให้วันนัดทุกสัปดาห์ของทางวัดจะคึกคักค่ะ ของที่ขายจุดเด่นเลยก็คือปลาสด ๆ ที่ขึ้นจากทะเล ที่ชาวบ้านนำมาขายตั้งแต่เช้าตรู่ ขนมก็เป็นพื้นบ้านไทย ๆ อยากให้นักอ่าน นักท่องเที่ยวทุกท่านลองมาเที่ยวที่วัดคูเต่าแห่งนี้ดูนะคะ