วัดร้องแง ตั้งอยู่ที่บ้านร้องแง หมู่ที่ 7 ตำบลวรนคร อำเภอปัว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2310ประวัติชุมชนระบุว่า บรรพบุรุษชาวลื้อย้ายถิ่นหนีภัยสงครามมาจากแคล้นสิบสองปันนา พบพื้นที่บริเวณลำน้ำฮ่องแง (ร่องแง-แงเป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง) เห็นว่าอุดมสมบูรณ์ดีจึงลงหลักปักฐาน ต่อมาชื่อหมู่บ้านถูกเขียนเพี้ยนเป็นร้องแง วัดร้องแงเป็นวัดที่เก่าแก่ ที่สงบ ร่มรื่นและมีคุณค่าทางจิตใจกับคนไทลื้อในชุมชน วัดร้องแงงมีวิหารที่โดดเด่นงดงามด้วยศิลปะไทยลื้อ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองน่าน ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่น ลักษณะของวิหารวัดร้องแงหน้าบันเป็นลายพันพฤกษา วิหาร มีหลังคาคลุมต่ำ ในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัย ผนังหลังองค์พระมีจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติและมีราชชาดก ฝีมือของช่างพื้นบ้าน บนเสาวิหารมีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดง หรือ ลายคำ ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น ลายกรวยเชิง ลายพรรณพฤกษา ลายดอกไม้ เป็นต้น รอบพระวิหารยังมีรูปแกะสลักไม้ เป็นรูปนาคทันต์ เทพ ยักษ์ และสัตว์ในหิมพานต์ และมีนาคทันต์ หรือ คันทวย เป็นไม้ฉะลุแกะสลักเป็นรูป เทวดา ยักษ์ ครุฑ ลิง ในพระวิหารจะประดับด้วยตุงในแบบของล้านนาแล้วยังประดับด้วยดอกไม้พันดวง (ดอกไม้ในตอกไม้ไผ่สาน เพื่อบูชาพันพระคาถา ในพิธีตั้งธรรมหลวงหรือเทศน์มหาชาติ ตามความเชื่อของคนไทลื้อ) นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมธรรมาสน์ทรงโบราณแบบดั้งเดิมของล้านนาที่หาชมได้ยากอีกด้วย การเดินทาง จาก อ.ปัว กลับรถตรงเกาะกลางหน้าหน้าโลตัส เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 1256 ตรงข้าม โรงเรียนวรนคร ผ่านวัดพระธาตุเบ็งสกัด หลังจากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆถึงบ้านร้องแง จะเห็นวัด อยู่ทางด้านซ้ายมือ มีป้ายบอกชัดเจน ภาพหน้าปกและภาพประกอบ Photo by มิ่งทิพย์