สวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องของวัดดี ๆ อีกแห่งหนึ่งที่อยากจะนำเสนอท่านนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าวัดนี้เป็นอีกวัดหนึ่งที่ผู้เขียนเชื่อว่าหลายท่านคงเคยผ่านไป ผ่านมาแต่ไม่เคยแวะเอาหละครับมาดูกันว่าวัดที่ว่านี้อยู่ที่ไหน และมีอะไรน่าสนใจบ้าง วัดที่ผู้เขียนอยากนำเสนอนี้ชื่อว่าวัด “ศรีดอนชัย” ตั้งอยู่ที่ทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไปเยี่ยมชมนั้นแสนสะดวกครับเพราะวัดอยู่ในใจกลางชุมชนหากมีเวลาลองแวะเที่ยวชม และเข้ากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะครับ มาดูกันครับว่าแต่ละจุดภายในวัดมีความน่าสนใจอะไรบ้าง จุดที่หนึ่ง ก่อนท่านผ่านเข้ามายังซุ้มประตูแล้วท่านจะพบกับพระสีวลีอรหันต์เจ้ายืนประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวหน้าวัดโดยมีลักษณะเป็นยืนเด่นสง่ามือขวาถือไม้เท้ามีซ้ายแบกร่มสำหรับความเชื่อเรื่องพระสีวลีนะครับ พุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่าพระสิวลีเป็นพระอรหันต์เจ้าที่เป็นผู้เลิศทางด้านโชคลาภ หากใครได้กราบ บูชา สักการะขอพรจะพบแต่ความสุข พบแต่โชคลาภ ประมาณว่าไม่จน ไม่เจ็บ มีแต่ความสุข....อย่าลืมครับก่อนเข้าไปยังวัดต้องกราบขอพรก่อนให้ได้ จุดที่สอง พระพุทธรูปปางนาคปรก (เป็นพระพุทธรูปประจำวัดของคนเกิดวันเสาร์) ตามพุทธประวัติพระพุทธรูปปางนี้เท่าที่ทราบคือ ชาวพุทธมีความเชื่อผูกพันกับพญานาคมาช้านานครับตามตำนานพุทธประวัติก็จะมีปรากฎบางช่วงตอน เช่น ในตอนที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ใต้ต้นศรีมหาโพธิได้เสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา 7 วัน ก็ได้มีพญานาคนามว่าพระยามุจรินทร์นาคราช ได้แปลงกายเป็นพญานาคมาแผ่พังพานบดบังแสงแดด ปัดเป่าแมลงไม่ให้มารบกวนพระวรกายพระพุทธองค์ เป็นต้น จุดที่สาม จะพบกับพระวิหารประจำวัดครับ สำหรับพระวิหารนี้ชาวพุทธเราใช้เป็นที่สำหรับประกอบกิจกรรมทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล งานบุญต่าง ๆ หรือแม้แต่กระทั่งการบวชสามเณรก็จะมีการประกอบพิธีในพระวิหาร (ต่างกับอุปสมบท เพราะจะทำกันที่พระอุโบสถเท่านั้น) นอกจากนี้ในสมัยก่อนพระวิหารยังเป็นแหล่งชุมนุมของชาวบ้านหากเมื่อมีเรื่องที่ต้องปรึกษากิจการอื่น ๆ ภายในหมู่บ้านหรือชุมชน และจุดสะดุดตาอีกจุดหนึ่งคือบันไดสองฝั่งก่อนขึ้นไปบนพระวิหารจะมีพญานาคสีทองสองตนขนาดทางขึ้นบันไดซ้าย-ขวา เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับพระประธานองค์สีทองปางมารวิชัยตามประวัติของพระพุทธรูปปางนี้คือ เป็นปางเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้ผจญพญามารเมื่อครั้งก่อนตรัสรู้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ (เท่าที่เรา ๆ ท่าน ๆ เคยเห็นอย่างตอนที่พระแม่ธรณีบีบมวยผม) อั้นนั้นหละครับ...เมื่อขึ้นมาแล้วก็กราบขอพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัวด้วยนะครับ จุดที่สี่ นารายณ์ทรงสุบรรณ ผู้เขียนทราว่า นารายณะ (ไทยเรียก นารายณ์) เป็นพระนามหนึ่งของพระวิษณุ ส่วนสุบรรณ ก็เป็นชื่อเรียก ครุฑ หรือ พญาครุฑ พาหนะของพระวิษณุโดยมีความเชื่อว่าพระวิษณุเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่บนสวรรค์มีพลัง อำนาจ สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่ขอพร ประสบความสำเร็จพบเจอแต่สิ่งที่ดี มีความเจริญในชีวิตสำหรับที่ทางวัดได้สร้างไว้นี้จะมีลักษณะเป็นพระวิษณุหรือพระนารายณ์องค์สีขาวประทับอยู่บนหลังของพระญาครุฑ และพญาครุฑจะประทับอยู่บนพระราหูองค์สีดำอีกที มาแล้วอย่าลืมนะครับมาขอพระกัน จุดที่ห้า จุดสุดท้ายจะเป็นศาลารวมประดิษฐานพระพุทธรูปสวยงามมากโดยภายในศาลาจะมีพระพุทธรูปอยู่หลวงปางที่ประดิษฐานอยู่ เช่น ปางนาคปรก ปางสมาธิ ปาง สะดุ้งมาร ปางรำพึง เป็นต้น หากมาแล้วเข้ามากราบขอพรกันนะครับ ผู้เขียนรับรองเลยว่าท่านจะได้รับพรดีดีกลับไปแน่นอน.... อย่าลืมนะครับถ้ามีโอกาสผ่านไปผ่านมาก็อย่าลืมแวะเข้ามากราบขอพร เข้ามาเยี่ยมชมหรือเข้ามาทำบุญได้ตามความสะดวก ขอบอกเลยว่าหากท่านพลาดแล้วจะพูดได้คำเดียวว่า เสียดายจริง ๆ เอาหละครับสำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ....ธรรมะสวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน ดร.อาบแสงจันทร์ ต.