ภาพจาก Jonathan Borba/Unsplashวันศารทวิษุวัต จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตกแบบพอดิบพอดี ซึ่งในประเทศไทยดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก เวลาประมาณ 06.07 น. และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก เวลาประมาณ 18.13 น.แต่ละปีจะมีวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดีเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น คือวันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) คือวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคม และวันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) คือ 22 หรือ 23 กันยายน ทำให้วันดังกล่าวมีเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากันคำว่า Equinox (อิ-ควิ-นอกซ์) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำ คือ aequus แปลว่า เท่ากัน และ nox แปลว่า กลางคืน ดังนั้นจึงแปลรวมกันว่า ‘กลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน’ ส่วน ‘วิษุวัต’ แปลว่า ‘จุดราตรีเสมอภาค’ เกิดในช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง จึงเรียกว่า Vernal Equinox (วสันตวิษุวัต) และ Autumnal Equinox (ศารทวิษุวัต)สิ่งที่ซ้อนอยู้ภายใต้โบราณสถานอันโดดเด่นของโลกคือความรู้จากสมัยโบราณเกี่ยวกับพระอาทิตย์ เพียงแค่สองครั้งต่อปีที่แสงอาทิตย์ส่องมาสู่โลกความลับของพวกมันจะถูกเปิดเผย ตลอดเวลาหลายพันปีที่หลายอารยธรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ต่างมีอณุสรณ์สถานโบราณที่อยู่ในตำแหน่งตรงกับพระอาทิตย์ในวันเดียวกันปรากฏการณ์วิษุวัตแต่ละโบราณสถานต่างเป็นความมหัศจรรย์ทั้งในด้านวิศวกรรมและดาราศาสตร์ แต่นักดาราศาสตร์สมัยโบราณรู้ถึงปรากฏการณ์นี้ได้อย่างไร เผ่าพันธ์มนุษย์ต่างเฉลิมฉลองความสำคัญของพระอาทิตย์ไปพร้อมๆกันบนโลกในปรากฏการณ์เดียวกัน วันวิษุวัตช่วงเวลา 06.15 นาฬิกา ในกัมพูชาจะเกิดปากฏการวิษุวัตเพียงแค่สองครั้งต่อปี เมื่อกลางคืนและกลางวันมีความยาวนานเกือบจะเท่ากันทั่วทั้งโลก ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมารอดูปรากฏการนี้ที่นครวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณตรงทางทิศตะวันออกของเจดีย์ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ภาพจาก allPhoto Bangkok/Pexels ห่างจากกัมพูชาออกไปอีกกว่า 3,200 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก ช่องหน้าของวัดในอินเดียปัทมานภสวามีมนเทียร อียิปต์เกิดขึ้นที่ปิรามิดตรงไหล่ของสฟิงซ์ ในยุโรป วัดหินไนจ์ดาที่ถูกสร้างก่อนปิรามิดหลายพันปี ในทวีปอเมริกาที่ชิเชนอิตชาในเม็กซิโกเป็นการแสดงของแสงสีนานกว่าหนึ่งชั่วโมงซึ่งเป็นรูปของงูเลื้อยลงทางด้านล่างของวัดพระเจ้างู มนุษย์ต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรมต่างเฉลิมฉลองให้พระอาทิตย์ในปัจจุบันอาจจะเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้ถึงเรื่องเหล่านี้แต่ไม่ใช่สำหรับมนุษย์ในสมัยหลายพันปีก่อนพวกเขารู้ถึงเรื่องนี้ได้ยังไง ถึงเรื่องดาราศาสตร์และปฏิทินที่แม่นยำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงอยู่ของมนุษย์ เกี่ยวเนื่องไปยังเรื่องการเกษตรและฤดูกาลในฤดูร้อนซีกโลกเหนือจะเอียงไปทางพระอาทิตย์และช่วงกลางวันจะยาวนานขึ้น ในช่วงฤดูหนาวมันจะเอียงออกจากพระอาทิตย์และเมื่อถึงช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูพระอาทิตย์จะอยู่ตรงบริเวณเส้นศูนย์สูตรพอดีทำให้สองฝั่งของโลกหันหาพระอาทิตย์เท่าๆกัน ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนของเท่าโลกยาวเกือบเท่าๆกันนาน 12 ชั่วโมงอารยธรรมสมัยโบราณและความรู้ด้านดาราศาสตร์ติดตามการเคลื่อนไหวของพระอาทิตย์รวมไปถึงการใช้ทักษะทางวิศวกรรมที่สร้างสิ่งก่อสร้างเพื่อรอตอนรับปรากฏการนี้พวกเขาทำได้อย่างไรนครวัดในกัมพูชาถูกสร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้วโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่สอง นครวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในแนวเดียวกันกับทิศตะวันออกแต่พวกเขาสร้างมันโดยการหันออกจากทิศตะวันออกไปครึ่งองศานั้นไม่ใช่ความผิดพลาดแต่เป็นการสร้างที่ถูกคำนวนออกมาแล้วว่าถ้าหากพระอาทิตย์ขึ้นนั้นมันจะขยับไปทางขวาของท้องฟ้าครึ่งองศาทำให้มันมองได้ตรงกับเจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม นั้นแสดงให้เห็นถึงควมสำคัญของวิษุวัตในระดับที่ทั้งนครวัดถูกสร้างขึ้นมาเพราะมันเมื่อวันวิษุวัตออกจากกัมพูชามันก็ไปต่อที่วัดในตอนใต้ของอินเดีย ปัทมานภสวามี โบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามหลังจากนครวัดกว่า 400 ปี พระอาทิตย์เคลื่นผ่านช่องที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามไปทางทิสตะวันตกไม่ต่างอะไรจากลิฟที่เคลื่อนที่ลงทีละชั้น ในอียิปต์ ณ ที่แห่งหนึ่งในสถาปัจตยกรรมที่สำคัญที่สุดในโลก มหาสฟิงซ์แห่งกีซาและพีระมิดคาเฟรที่ถูกสร้างอย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่เมื่อ 4,500 ปีที่แล้ว ในช่วงวันวิษุวัตพระอาทิตย์จะไปตกอยู่ที่ไหล่ของสฟิงซ์โดยมีพีระมิดอยู่ด้านหลัง ตำแหน่งของทุกๆพีระมิดในกีซาตรงกับตำแหน่งพระอาทิตย์ตกในด้านตะวันตกอย่างแม่นยำภายในองศาที่ 15 ภาพจาก Joshua Michaels/Unsplashวันวิษุวัตยังคงเดินหน้าต่อไปจนถึงทวีปยุโรในทะเลเมดิเตอร์เลเนียนบนเกาะมอลตา ตรงใจกลางแท่นบูชาโบราณ มันเป็นความมหัศจรรย์ทางดาราศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 5,500 ปีที่แล้ว ในมไนจ์ดรามีวัดที่ถูกสร้างขึ้นสามแห่งโดยเรียงตัวกันเป็นใบโคลเวอร์โดยแต่ละวัดจะหันหน้าไปทิศที่ต่างกันแต่วัดแห่งหนึ่งที่หันหนาเพื่อรับกับวันวิษุวัต ณ ที่แห่งนี้พวกนักดาราศาสตร์สมัยโบราณใช้ดาวลูกไก่เป็นตัวกำหนดตำแหน่งที่พระอาทิตย์จะขึ้นในวันวิษุวัต นั้นยังเป็นอีกข้อยืนยันว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวันวิษุวัต ภาพจาก Kyrylo Balakleiets/Unsplash ห่างออกไปจากมอลตา 2,400 กิโลเมตรก็เกิดปรากฏการเดียวกันในลอฟครูว์แห่งเคาน์ตีมีธ โบราณสถานที่เก่าแก่เกือบ 5,000 ปี แสงแห่งวิษุวิตส่องเข้ามายังห้องโถงที่เต็มไปด้วยรูปสลักของพระอาทิตย์และเรื่องราวความเป็นความตายและเมื่อปรากฏการวิษุวัตฉายแสงมาถึงทวีปอเมริกาในเม็กซิโก พูเอโบล โบนิโต ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่ซับซ้อนที่สุดในโลก อารยธรรนี้สร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นจากหินธรรมชาติและได้ลงมือสร้างสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังอย่าง พูเอโบล โบนิโตขึ้นมา มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาในยุคโบราณสร้างอยู่ในพื้นที่แห้งแร้ง พวกเขาสร้างที่นี้เพื่อจุดประสงค์ในการบูชาพระอาทิตย์ พูเอโบล โบนิโตถูกสร้างให้เป็นเส้นตรจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกทำให้เมื่อวันวิษุวัตมาถึงพระอาทิตจะขึ้นแต่ตกลงตามแนวกำแพงของพูเอโบล โบนิโต ภาพจาก Jeremy Zero/Unsplashห่างไปอีก 2,400 กิโลเมตร เผ่ามายาได้ก่อสร้างโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่กว่าพูเอโบล โบนิโตแถมพวกเขายังสร้างปรากฏการทางแสงอาทิตที่เยี่ยมยอดที่สุดในการเดินทางของพระอาทิตย์ ในเมืองโบราณชิเชนิตซา ในเม็กซิโกเหล่าผู้คนได้มารวมตัวเพื่อรอชมปรากฏการอันเเสนพิเศษจากวันวิษุวัต เมื่อพันกว่าปีก่อนศูนย์กลางของอาณาจักรมายาตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูกาดันของเม็กซิโก แต่อารยธรรมของพวกเขามีความเก่าแก่กว่า 3,000 ปี อาณาจักรแห่งนี้ถูกพูดถึงบ่อยในเรื่องของดาราศาสตร์และสิ่งก่อสร้างที่สวยงามเอล การาโกล ภาษาสเปนแปลว่าหอยทาก ที่นี้เป็นสูญกลางอันสำคัญของเผ่ามายา ที่นี้เป็นที่อยู่อาศัยและจดบันทึกของนักดาราศาสตร์ สถานที่แห่งนี้ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นปฏิทินสำหรับวันวิษุวัตอีกด้วย เผ่ามายาเชื่อว่าฤดูแล้งนั้นเป็นฤดูแห่งความตายในฤดูฝนนั้นเป็นฤดูแห่งชีวิตเพราะฉนั้นการมาของวันวิษุวัตนั้นเป็นการปลี่ยนแปลงของช่วงฤดูและเป็นการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาของความตายเป็นช่วงเวลาของชีวิต ภาพจาก Yohann Mourre/Unsplashเพื่อการันตีการอยู่รอดของพวกเขา เขาเชื่อว่าพระเจ้าต้องถูกทำให้สงบในวันวิษุวัตและที่ชิเชนอิตซาหนึ่งในพระเจ้าที่ทรงพลังที่สุดคือพระเจ้างูติดปีก คูคูลคานผู้บินเหนือพระเจ้าแห่งฝน ผู้นำพาซึ่งฤดูฝนขณะที่เขาขยับหางพัดพาฝนทำความสะอาดโลก เผ่ามายาสร้างพีระมิดตามชื่อของเขาและสลักรูปร่างของเขาไว้บริเวณด้านหน้า เผ่ามายาสร้างพีระมิดนี้เมื่อพันปีก่อนโดยไร้ซึ้งเทคโนโลยีช่วยในการคำนวน เพื่อสร้างปรากฏการที่น่าทึ่งนี้มันยากมาถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อพันปีก่อนแต่ความมหัศจรรร์ที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นคือภาพเงาที่สะท้อนของบันไดมาตกกระทบกับราวบันไดทำให้เกิดภาพงูเลื่อยของเทพเจ้าคูคูลคาอนสวยงาม ภาพจาก Mario La Pergola/Unsplashถึงแม้ต่างวัฒนธรรม ต่างอารธรรม ต่างทวีป ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา แต่สิ่งที่ไม่ต่างกันนั้นคือพวกเขามองถึงความสำคัญของดวงอาทิตย์เหมือนๆ ดวงอาทิตย์ถือเป็นหนึ่งแรงผลักดันให้พวกเขาสร้างสิ่งที่มหัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้ ขอบคุณข้อมูลจากเรื่อง : national geographic : Chasing the Equinoxภาพบางภาพอาจไม่ตรงเนื้อหาเนื่องจากอาจเกิดปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ จึงขออภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !