วันที่ 13 ตุลาคม และวันที่ 23 ตุลาคม เป็น วันหยุดประจำเดือนตุลาคม และเป็นวันหยุดราชการที่สำคัญด้วยนะครับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ประกาศให้ ประชาชนทั่วไป สามารถขึ้นทางด่วนได้ฟรี 3 เส้นทาง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 0.01 ถึงเวลา 24:00 ของวันที่ 13 ตุลาคม เรามาชมกันนะครับว่ามีที่ไหนกันบ้างเส้นทางที่ 1 ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) มีจำนวน 19 ด่าน มีระยะทางรวมกันโดยประมาณ 27.1 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ทางผมใช้เดินทางเกือบทุกวัน เพื่อหลีกเลียงรถติด เลยนะครับ โดยมี 3 เส้นทางหลักดังนี้สายดินแดง - ท่าเรือ ระยะทาง 8.9 กิโลเมตร โดยเริ่มจาก เส้นถนนวิภาวดีรังสิต จนถึงท่าเรือคลองเตย สายบางนา - ท่าเรือ ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร โดยเริ่มจาก เส้นถนนแยกบางนา จนมาถึงเส้น ท่าเรือคลองเตย นะครับ สายดาวคะนอง - ท่าเรือ ระยะทาง 10.3 กิโลเมตร โดยเริ่มจาก เส้น ท่าเรือคลองเตย ข้ามสะพานแขวน จนมาถึงเส้นพระราม 2 ดาวคะนองกันเลยนะครับการเดินทางด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร เป็นเส้นทางหลักที่ทางผมใช้ เดินทางไปทำงาน จากฝั่งธนบุรี เข้าสู่ฝั่งพระนคร โดยขึ้นจากกิโล 9 เส้นทางสะพานพระราม 9 หรือชาวบ้านเรียนติดปากว่าสะพานแขวน วิ่งมาจนถึงฝั่งถนนพระราม 4 โดยระหว่างการข้ามสะพานพระราม 9 เราสามารถมองวิวทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาได้ แถมค่อนข้างประหยัดเวลาในการเดินทางได้พอสมควรเลยนะครับเส้นทางที่ 2 ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) มีจำนวน 31 ด่าน มีระยะทางรวม 38.4 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่นานๆ ใช้ที่แต่ก็มีความสะดวกสบายและค่อนข้างประหยัดเวลาในการเดินทางค่อนข้างมากนะครับ โดยทางพิเศษศรีรัชจะมีด้วยกัน 3 เส้นทางหลักดังนี้ส่วน AB สายทางจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าทิศใต้ผ่านต่างระดับพญาไท ส่วน C สายทางนอกเขตเมืองต่อจากพื้นที่ส่วนเอบีจากถนนรัชดาภิเษกบริเวณประชาชื่น ส่วน D สายทางจากถนนพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกถึงถนนศรีนครินทร์ ทางพิเศษส่วนนี้ได้เชื่อมต่อกับทางยกระดับจตุรทิศขาออก เพื่อเดินทางต่อเนื่องไปถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) ทำให้สามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิและทางภาคตะวันออกได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับเส้นทางสายทางพิเศษ ศรีรัช ทางผมจะใช้ ประมาณ 2 เดือนครั้ง ทางที่ใช้บ่อย จะเป็นเส้นทางสาย D เป็นเส้นทางที่จะไปทางกรุงเทพ ชลบุรี หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเส้นทางที่สามารถลัดเลาะ จากฝั่งธนบุรี วิ่งตรงไปสนามบิน สุวรรณภูมิ หรือ ไปชลบุรีในช่วงเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ ก็ว่าได้นะครับ เป็นเส้นทางที่สะดวกและร่วดเร็วกว่าการวิ่งด้านล่างค่อนข้างมากเลยที่เดียวนะครับ เส้นทางที่ 3 ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน โดยเป็นเส้นทางที่เดินทางออกนอกเขตกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่ทางบางประอิน มีระยะทางโดยรวมประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางไปต่างจังหวัด ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทางผมจะใช้เดินทางในช่วงหยุดยาว อย่างเช่น วันปีใหม่ และวันสงกรานต์นะครับ โดยจะมีทั้งสิ้น 2 เส้นทางด้วยกันนะครับช่วงที่ 1 แจ้งวัฒนะ-เชียงราก เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อจากเส้นทางพิเศษศรีรัชนะครับ ช่วงที่ 2 เชียงราก-บางไท เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อจากเส้นทางช่วงที่ 1 เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยานะครับสำหรับเส้นทาง พิเศษอุดรรัถยา เป็นเส้นทางที่ ผมได้ลองใช้ช่วงวันหยุดยาว เช่นหน้าเทศกาล สงกรานต์ ที่เดินทางไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเส้นทางที่ประหยัดเวลาการไปผจญรถติดเส้น รังสิตได้ดีเลยที่เดียว ทิวทัศน์สองข้างทางก็ผ่านทุ่งนา การจราจรไม่ติดขัดเท่าที่ควร สะดวกสบายมากเลยครับเป็นอย่างไรบ้างครับ เส้นทางขึ้นทางด่วนฟรีในวันหยุด ของเดือนตุลาคม เพื่อนๆ คนไหน ใกล้ที่ไหน ก็ใช้ที่นั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นไปท่องเที่ยวหรือไปธุระก็ไม่ต้องเสียเงินขึ้นทางด่วน ฟรีและประหยัดเวลา ในวันนั้นนะครับ ขอบคุณข้อมูลจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร / Exatทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) / Expresswayทางพิเศษอุดรรัถยา / Expresswayขอบคุณ รูปภาพจาก ภาพหน้าปก ทางพิเศษศรีรัช Expressway ,ทางพิเศษอุดรรัถยา Expressway และ ภาพถ่าย พร้อมตกแต่งโดย ฮาวหนานซิงภาพที่ 1 ถ่ายพร้อมตกแต่งโดย ฮาวหนานซิงภาพที่ 2 ถ่ายพร้อมตกแต่งโดย ฮาวหนานซิงภาพที่ 3 ทางพิเศษศรีรัช Expresswayภาพที่ 4 ทางพิเศษอุดรรัถยา Expressway7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์