ประเทศอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็นประเทศในแถบเอเชียที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤต COVID-19 สูงที่สุดในบรรดาประเทศแถบเอเชียด้วยกัน เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีจำนวนมากถึง 1,300 ล้านคนทำให้การดูแลและควบคุมประชาชนนั้น เรียกได้ว่าเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในหมู่ประชาชนอย่างรวดเร็วและมีจำนวนผู้ป่วยในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ประเทศอินเดียนั้น เป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบเอเชียซึ่งแม้ได้ชื่อว่ามีความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมสูง แต่สำหรับความเป็นอยู่ของประชาชนยังคงมีความน่าเป็นห่วง ช่องว่างระหว่างคนในสังคม ทั้งเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐาน ความแตกต่างของศาสนา เรื่องของชนชั้นทางสังคม ได้ก่อให้เกิดวิกฤตมนุษยธรรม ปัญหาเรื่องของความเป็นอื่น (Otherness) ทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มในประเทศอินเดีย ถูกกีดกัน รังเกียจ หรือขาดโอกาสในการเข้าถึงซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานด้านต่าง ๆ และนำไปสู่การได้รับผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพและเผชิญปัญหาความยากจน และบางกลุ่มยังต้องเผชิญปัญหาความเกลียดชังและแบ่งแยก ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของโรคระบาดเลวร้ายขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงเลยทีเดียว เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ยังคงน่าเป็นห่วง อินเดียจึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยังคงต้องยืดเวลาการ Lockdown กิจกรรมต่าง ๆ ของประชาชนและกิจการต่าง ๆ ออกไป แม้การ Lockdown จะเป็นหนึ่งในมาตรการที่ผู้นำทั่วโลกเลือกใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดอย่างได้ผลดี แต่มาตรการเหล่านี้ กลับยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับประชาชนส่วนมากอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ประเทศอินเดียเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจ ตามเมืองสำคัญต่างก็มีจำนวนประชากรที่เป็นแรงงานอยู่อาศัยจำนวนมาก เมื่อเกิดการ Lockdown กิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ส่งผลให้การจ้างงานหยุดชะงักและเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อได้ แรงงานหรือลูกจ้างต่างขาดรายได้ที่จะใช้ชีวิตอยู่อาศัยภายในเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ กลุ่มแรงงานจึงมีความต้องการกลับถิ่นภูมิลำเนาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขาดแคลนของปากท้อง ในประเทศอินเดียพบประชาชนกลุ่มผู้ใช้แรงงานเลือกวิธี ‘เดินเท้า’ กลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงวัยต่างต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาอันเนื่องมาจากมาตรการ Lockdown ของภาครัฐที่ทำให้กลุ่มแรงงานขาดแคลนรายได้และไม่มีโอกาสเข้าถึงหรือได้รับการเยียวยาจากมาตรการดังกล่าว การเข้าถึงซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานและการเยียวยาจากภาครัฐ ยังคงเป็นสิ่งหนึ่งที่กลุ่มแรงงานในประเทศยากที่จะเข้าถึงได้โดยสะดวก นอกจากจะต้องเผชิญปัญหาความยากจนจากสภาวะเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลง กลุ่มแรงงานยังถือเป็นกลุ่มคนอีกหนึ่งกลุ่ม ที่จะต้องเผชิญปัญหาเรื่องของความขัดแย้งและปัญหาทางด้านสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อยครั้งจากคนภายในประเทศ เพราะความบกพร่องในความรู้และการเข้าถึงสาธารณสุข บวกกับความจำเป็นของชีวิตที่ต้องอยู่อาศัยร่วมกันกับครอบครัวอย่างแออัด สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยซึ่งนำมาสู่การแพร่กระจายของโรคอย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้ใช้แรงงานให้กลายเป็นกลุ่มผู้ป่วยและผู้แพร่เชื้อกลุ่มสำคัญ ซึ่งนั่นนำมาสู่ปัญหาเรื่องความขัดแย้งของคนในสังคม กลุ่มแรงงานต่างถิ่นหรือกลุ่มแรงงานภายในพื้นที่ถูกกีดกันและตั้งแง่รังเกียจจากผู้คนในสังคม กลายเป็นเหยื่อในการประณาม กล่าวโทษ และต้องเผชิญหน้ากับการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ด้วยศาสนา จารีตประเพณี บวกกับข้อห้ามข้อปฏิบัติต่าง ๆ กลุ่มผู้ใช้แรงงานในสังคมประเทศอินเดียจึงยังไม่อาจเรียกร้องหรือได้รับความคุ้มครองจากภาครัฐเท่าที่ควร นอกจากกลุ่มแรงงานในสังคมวัฒนธรรมของประเทศอินเดียจะได้รับผลกระทบเรื่องต่าง ๆ จากทั้งมาตรการ Lockdown ภายในประเทศ เรื่องของโรคระบาด COVID-19 และการเผชิญหน้ากับปัญหาความขัดแย้งและความเกลียดชังจากผู้คนในสังคม ทั้งนี้ เหตุปัจจัยเรื่องของความเกลียดชังมิได้เกิดขึ้นเพียงเพราะกลุ่มแรงงานดังกล่าวเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้คนในสังคมเพียงเท่านั้น ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ความแตกต่างทั้งเรื่องของ ชาติพันธุ์ แนวคิดทางการเมืองการปกครอง ระบบชนชั้น ไปจนถึงความแตกต่างของศาสนา สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องราวความขัดแย้งภายในประเทศที่เกิดขึ้นมาช้านาน ภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลให้วิกฤตมนุษยธรรมในประเทศอินเดียเกิดขึ้นอีกครั้ง ชนชั้นแรงงานหรือคนยากจนในสังคมถูกกีดกันรังเกียจ กลุ่มผู้เห็นต่างทางศาสนา เช่น ชาวมุสลิมในประเทศอินเดียถูกโจมตีเป็นอย่างมาก ด้วยพิธีกรรมและวัติปฏิบัติทางศาสนาของชาวมุสลิมที่ร่วมกันประกอบพิธีกรรมเป็นหมู่คนจำนวนมากได้ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจากโรคระบาดในประเทศอินเดียเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนั่นนำมาสู่ความเกลียดชังจากผู้คนในสังคมที่มีต่อชาวมุสลิม ชาวมุสลิมในประเทศอินเดียซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนน้อย ต้องเผชิญปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันจากผู้คนในสังคม บางครั้งการกระทำที่หนุนนำความเกลียดชังและความแตกแยกยังถูกสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและสื่อที่ควรวางตัวเป็นกลาง ทั้งกลุ่มแรงงาน กลุ่มชาวมุสลิม และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ภายในประเทศอินเดีย จึงถูกผลักให้ตกอยู่ในภาวะของความเป็นอื่นจากแผ่นดินที่อยู่อาศัยทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม จากทั้งประชาชนที่อาศัยร่วมกันภายในประเทศและจากภาครัฐ อาจกล่าวได้ว่ามีผู้อาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมาเป็นเหตุปัจจัยในการกีดกันคนกลุ่มน้อยออกจากสังคม วิกฤตดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในประเทศอินเดีย ถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่เกิดขึ้นภายในประเทศที่มีความหลากหลายของวัฒนธรรมซึ่งไม่อาจตัดขาดจากเรื่องราวความขัดแย้งด้วยน้ำมือของมนุษย์ได้แม้ผ่านเวลามาหลายยุคหลายสมัย หลายประเทศทั่วโลกเองก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับประเทศอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิหน้าที่ขั้นพื้นฐานที่ภาครัฐจัดวางไว้ได้โดยสะดวกภายในประเทศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมจึงเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง มาตรการ Lockdown ในหลายประเทศยังคงสร้างความยากลำบากแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย แรงงานในหลายประเทศถูกละเลย เลือกปฏิบัติ รวมไปถึงกลุ่มผู้มีความต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และชนกลุ่มน้อย ยังคงขาดแคลนความช่วยเหลือจากภาครัฐ ทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาศัยช่องว่างการเข้าถึงสิทธิหน้าที่ต่าง ๆ มาเบียดบังมนุษยธรรมที่พึงมีต่อกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ วิกฤตเรื่องมนุษยธรรมทั้งในประเทศอินเดียและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่จบไม่สิ้นและเป็นอีกเหตุปัจจัยหนึ่งที่เป็นปัญหาหนุนนำให้สถานการณ์ของการแพร่ระบาด COVID-19 เลวร้ายขึ้นได้ ภาพปก : Trevor Cole /ภาพ1 ภาพ2 Amaan Ali /ภาพ3 : Amaan Ali on unsplash เชิงอรรถ - โควิด: สาวอินเดียคลอดลูกข้างทาง ระหว่าง “เดินเท้า” กลับภูมิลำเนา พักแค่ 2 ชั่วโมง-กัดฟันเดินอีก 4 วันถึงบ้าน - โควิด-19 ทำชาวมุสลิมในอินเดีย-ศรีลังกา ถูกตีตรายิ่งกว่าเดิม