ในปี พ.ศ.2540 เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า วิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในเอเชีย เริ่มต้นขึ้นในประเทศไทย หลังจากที่รัฐบาลไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท จากเดิมที่ตรึงไว้ 25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลได้ตัดเชือกที่ตรึงเอาไว้และปล่อยให้เงินบาทลอยไปตามสายลม จนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวสูงสุดถึงเกือบ 52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คนที่กู้เงินดอลลาร์มา 1 ล้านเหรียญ จากที่เคยมีหนี้เป็นเงินไทยเพียง 25 ล้านบาท ตื่นมาอีกทีหนี้งอกเพิ่มขึ้นมากลายเป็น 52 ล้านบาททำให้ธุรกิจน้อยใหญ่จึงล้มหายตายจากไปมากส่งผลให้คนรวยกลายเป็นคนจน คนรากหญ้าแม้ไม่ได้รับผลกระทบมากแต่ก็ต้องมาตกงานเพราะพิษเศรษฐกิจแท้ๆ กลับมาที่ปัจจุบันเรียกได้ว่าเรากำลังเจอกับวิกฤตซ้อนวิกฤต สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกาเป็นตัวเริ่ม ตามมาด้วยไวรัสโควิดที่เริ่มที่จีน ต่อมามีสงครามราคาน้ำมันและโควิดที่ลามไปทั่วโลก วิกฤตในครั้งนี้กระทบกับคนทุกชนชั้น ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือสายการบินต้องหยุดชะงัก ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจบริการต้องปิดให้บริการ รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ต้องประกาศปลดหรือพักงานพนักงาน ส่งผลให้คนตกงาน ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่ม ประชาการสูญเสียรายได้ ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การระบาดของเชื้อไวรัสที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ได้ขยายเป็นวงกว้างทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เช่น การประกาศปิดเมือง ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด การประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด และยังมีมาตรการการกักตัวให้อยู่ในที่อยู่อาศัย ซึ่งมาตรการเหล่านี้ส่งผลให้ต้องหยุดการทำกิจกกรมต่าง ๆ ทำให้กระทบไปถึงธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว แต่ในร้ายย่อมมีดี จากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มหันไปสนใจการใช้ระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น ขายของออนไลน์ สอนพิเศษ ขายหน้ากากอนามัย ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้นหากถามว่าวิกฤตครั้งไหนรุนแรงกว่า สภาพตลาดมันไม่ช็อคเหมือนปีต้มยำกุ้ง เนื่องจากเป็นอะไรที่เราไม่มีบทเรียนมาก่อน แต่ครั้งนี้แม้เราจะมีบทเรียนมาก่อน ทำให้สภาพเศรษฐกิจไม่ช็อคเหมือนปีต้มยำกุ้ง แต่แท้จริงแล้ววิกฤตครั้งนี้ รุนแรงกว่าเนื่องจากกระทบคนหมู่มากกว่า และวิกฤตครั้งนี้น่าจะซึมยาว 2 ปีเลยทีเดียว ที่มาของภาพประกอบ ภาพตัวอย่างที่1 / ภาพตัวอย่างที่2 / ภาพตัวอย่างที่3 / ภาพตัวอย่างที่4