ขอบคุณภาพ : หน้าปกจาก pexels.com by Burak K เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน มีทิศทางการเติบโตในช่วงขาลงอย่างชัดเจน โดยเศรษฐกิจไทยชะลอตัว มีผลกระทบมาจากหลายปัจจัย อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว , สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่มีผลกระทบต่อไทย , เงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ส่งออกได้น้อยลง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีการจ้างงานที่ลดลง โดยเฉพาะกิจการขนาดเล็กที่บางรายทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหวจนถึงขั้นต้องปิดกิจการ ภาพจาก : pexels.com by Pixabay การที่เงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับการส่งออก ทำให้ส่งออกได้น้อยลง เพราะต่างประเทศมองว่าสินค้าไทยมีราคาที่แพงขึ้นอย่างมากทำให้หันไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทนทำให้ประเทศไทยส่งออกได้ลดลง แล้วการที่เงินบาทแข็งค่ายังส่งผลให้ผู้บริโภคภายในประเทศหันไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมองว่าราคาถูกกว่าเที่ยวในประเทศและคุ้มค่าที่จะเสีย ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ แล้วด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคภายในประเทศไม่ค่อยออกมาจับจ่ายใช้สอยกัน จึงมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ให้ผู้บริโภคภายในประเทศหันมาจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นโครงการชิม ช้อป ใช้ , โครงการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย , โครงการวันธรรมดาราคาช็อคโลก เป็นต้น ภาพจาก : www2.ชิมช้อปใช้.com ส่วนปัญหาการว่างงานในปัจจุบัน ขณะนี้การจ้างงานของไทยเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตามองคือความเสี่ยงของตลาดแรงงาน ในปี 2563 จะมากขึ้นเมื่อนักศึกษาจบใหม่เข้ามาในระบบ จะมีการว่างเพิ่มสูงขึ้น ภาพจาก : pexels.com by energepic.com ในขณะเดียวกันพบว่าตลาดแรงงานในหลายภาค เช่น ส่งออก ผลิต การบริการ การค้าส่ง ค้าปลีก โลจิสติกส์ อยู่ในช่วงชะลอตัว มีการลดการรับแรงงานใหม่ และบางธุรกิจหันมาใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI , หุ่นยนต์ และเทคโทยโลยีต่างๆ ทำให้มีการลดการจ้างแรงงานลง ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเข้ามาประคับประคองด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการบริโภคภายใน เพราะฉะนั้น ทิศทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรต่อไป และจะหาทางออกกับปัญหาการว่างงานแล้วเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องรอดูกันต่อไป และหากใครที่ยังว่างงานอยู่ อย่าได้เพิกเฉยต่อโชคชะตา เพราะนี่คือช่องทางที่อาจจะทำให้คุณพบวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้ คลิกที่นี่เลย