การทำหัวอาหารหมูเองดีอย่างไรการทำหัวอาหารหมูด้วยตนเองนั้น หลายคนที่เข้ามาอ่านอาจจะสงสัยว่ามันจะต้องทำยากอย่างแน่นอน หรืออาจจะคิดว่าการทำด้วยตนเองนั้น ประสิทธิภาพจะเท่าหัวอาหารที่ขายตามร้านหัวอาหารหรือไม่?? ผมบอกเลยว่าการทำหัวอาหารหมูด้วยตัวเองนั้นทำไม่ยาก แถมหมูโตไวอย่างมาก และอีกอย่างยังทำให้ประหยัดต้นทุนในการเลี้ยงหมูอีกด้วย ซึ่งการประหยัดต้นทุนนี้แหละที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะต้นทุนค่าหัวอาหาร 70 เปอร์เซ็นต์ ของต้นทุนทั้งหมดในการเลี้ยงหมู ซึ่งถ้าเราลดต้นทุนส่วนนี้ได้ จะทำให้เราได้กำไรมากขึ้น หรืออาจจะลดอัตราการขาดทุนในสภาวะราคาสุกรตกต่ำ วัตถุดิบที่ใช้ผสมหัวอาหารหมู กากถั่วเหลือง โดยกากถั่วเหลืองนั้นจะใช้เป็นแหล่งโปรตีนให้แก่สุกร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของสุกร ถ้าหมูขาดโปรตีนนั้นจะทำให้การเจริญเติบโตนั้นช้าลงเป็นอย่างมาก ซึ่งกากถั่วเหลืองนั้นจะมีโปรตีนสูงถึง 45 เปอร์เซ็นต์ปลาป่น ซึ่งปลาป่นนั้นก็จะเป็นแหล่งโปรตีน เหมือนกันกับกากถั่วเหลือง แต่จะมีโปรตีนมากกว่ากากถั่วเหลืองมาก โดยปลาป่นนั้นจะมีโปรตีนอยู่ที่ 55 - 60 เปอร์เซ็นต์ข้าวโพด โดยข้าวโพดนั้นจะเป็นแหล่งพลังงานให้แก่สุกร ซึ่งสุกรจะใช้พลังงานในการดำรงชีวิต โดยในข้าวโพดนั้นจะมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก ซึ่งเป็นพลังงานให้แก่สุกร โดยข้าวโพดนั้นจะให้พลังงานแก่สุกรอยู่ที่ประมาณ 3,140 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัมปลายข้าว โดยปลายข้าวนั้นก็จะเป็นแหล่งพลังงานเหมือนกันกับ ข้าวโพด แต่ปลายข้าวนั้นจะมีพลังงานมากกว่าข้าวโพด ซึ่งปลายข้าวจะมีพลังงานอยู่ประมาณ 3,596 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัมไดแคลเซียมฟอสเฟตP18 โดยไดแคลเซียมฟอสเฟตP18นั้น จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของสุกรค่อนข้างมาก ซึ่งผมเเนะนำให้ใช้ในการผสมหัวอาหารสุกรอย่างน้อยร้อยละ 1 ก็ยังดีเกลือ ช่วยให้โซเดียมแก่สุกร และยังทำให้หัวอาหารมีรสชาติอร่อยขึ้นฟรีมิกซ์ โดยฟรีมิกซ์จะเป็นวิตามินให้แก่สุกร ซึ่งฟรีมิกซ์จะช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของสุกร โดยผมแนะนำใช้ในการผสมหัวอาหารอยู่ที่อย่างน้อยร้อยละ 0.25 ก็ยังดี การบดวัถุดิบสำหรับการทำหัวอาหารหมู วัตถุดิบบางอย่างต้องทำการบดก่อนถึงจะนำมาใช้งานได้ เพราะวัตถุดิบบางชนิดมีความแข็ง สุกรไม่สามารถย่อยได้ง่าย ถ้าเราเอาไปผสมเป็นหัวอาหารเลย จะทำให้สุกรย่อยยาก หรืออาจย่อยไม่ได้เลย อีกทั้งจะเห็นวัตถุดิบบางชนิดออกมากับมูลสัตว์ วัตถุดิบหลักๆ ที่ต้องบดก่อนนำมาใช้คือ ปลายข้าว และ ข้าวโพด วิธีการทำวิธีการนั้นเราจะแบ่งหัวอาหารออกเป็น 4 สูตร โดยเราจะนำวัตถุดิบต่าง ในสัดส่วนในแต่ละสูตรมาผสมกัน ซึ่งสัดส่วนนั้นมีดังนี้สูตรที่ 1 ใช้กับหมูที่มีน้ำหนัก ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงจนถึง นำหนัก 15 กิโลกรัมปลายข้าว 3.5 กิโลกรัมข้าวโพด 3.5 กิโลกรัมกากถั่วเหลือง 2.4 กิโลกรัมปลาป่น 0.6 กิโลกรัมไดแคลเซียมฟอสเฟตP18 0.1 กิโลกรัมเกลือ 0.05 กิโลกรัมฟรีมิกซ์ 0.025 กิโลกรัม สูตรที่ 2 ใช้กับหมูที่มีน้ำหนัก 15 - 30 กิโลกรัมปลายข้าว 4 กิโลกรัมข้าวโพด 3.5 กิโลกรัมกากถั่วเหลือง 1.9 กิโลกรัมปลาป่น 0.6 กิโลกรัมไดแคลเซียมฟอสเฟตP18 0.1 กิโลกรัมเกลือ 0.05 กิโลกรัมฟรีมิกซ์ 0.025 กิโลกรัม สูตรที่ 3 ใช้กับหมูที่มีน้ำหนัก 30 - 60 กิโลกรัมปลายข้าว 4 กิโลกรัมข้าวโพด 4 กิโลกรัมกากถั่วเหลือง 1.4 กิโลกรัมปลาป่น 0.6 กิโลกรัมไดแคลเซียมฟอสเฟตP18 0.1 กิโลกรัมเกลือ 0.05 กิโลกรัมฟรีมิกซ์ 0.025 กิโลกรัม สูตรที่ 4 ใช้กับหมูที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ถึงส่งขายตลาดปลายข้าว 4.5 กิโลกรัมข้าวโพด 4 กิโลกรัมกากถั่วเหลือง 1 กิโลกรัมปลาป่น 0.5 กิโลกรัมไดแคลเซียมฟอสเฟตP18 0.1 กิโลกรัมเกลือ 0.05 กิโลกรัมฟรีมิกซ์ 0.025 กิโลกรัม สรุปเห็นไหมว่าการทำหัวอาหารหมูด้วยตนเองนั้น ไม่ได้ยากเลยสักนิดเดียว แต่เราต้องเหนื่อยกว่าการใช้หัวอาหารสำเร็จรูป เพื่อที่จะลดต้นทุนค่าหัวอาหารลง แต่บอกเลยคุ้มค่ากับการเหนื่อยอย่างแน่นอน เพราะสามารถลดค่าหัวอาหารหมูได้ถึง 400 - 700 บาทกันเลยทีเดียว แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : ถ่ายภาพโดย ผู้เขียนขอขอบคุณ รูปปก โดย matildanilsson จาก : Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !