กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนบุตรเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวนเดือนละ 600 บาท ให้กับเด็กแรกเกิด จนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูณ์ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว และสนับสนุนให้เด็กแรกเกิดได้เติบโตตามช่วงวัยอย่างเหมาะสมโดยคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน มีดังนี้1. บิดา มารดา หรือบุคคลอื่นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด2. เด็กแรกเกิดจะต้องอาศัยร่วมกับผู้ยื่นลงทะเบียน3. อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย หากคนในครัวเรือนมีรายได้ประจำ หรือมีรายได้เป็นรายเดือน เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการ ลูกจ้างรายเดือน เป็นต้น สามารถยื่นลงทะเบียนได้ แต่ให้แนบสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนของคนในครัวเรือนมาด้วย หรือคนที่ได้สิทธิประกันสังคม สามารถยื่นลงทะเบียน แต่รายได้ของครัวเรือนรวมกันแล้วเฉลี่ย จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี (คำนวณจาก รายได้ของทุกคนในครัวเรือนต่อเดือนรวมกัน แล้วคูณ 12 แล้วหารด้วยจำนวนหัวในครัวเรือนที่พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกับเด็กแรกเกิด)4. ผู้ยื่นลงทะเบียนต้องขอรับเงินผ่านบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยสามารถลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร ได้ ณ หน่วยงานตามที่เด็กแรกเกิดได้อาศัยหรือถูกเลี้ยงดูอยู่จริงๆ หรือผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ ผู้ปกครองจะต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองเสียก่อนเอกสารประกอบ ดังนี้1. แบบลงทะเบียน ดร.01 และ ดร.02 (สามารถขอรับได้ ณ หน่วยงานใกล้บ้าน) หรือโหลด https://dcy.go.th/publication/16896866204252. บัตรประชาชนของผู้ลงทะเบียน พร้อมผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชนกับบัญชีธนาคารใดก็ได้3. สูติบัตรเด็กแรกเกิด4. เอกสารของผู้รับรอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในพื้นที่5. เอกสารอื่นๆ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น ตัวอย่างบิดา มารดา และเด็กแรกเกิด มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตำบล ก. ร่วมกัน ต่อมายายของเด็กแรกเกิด ซึ่งมีอาชีพเป็นครูในสถานศึกษาของรัฐ (มีรายได้ 20,000 บาท/เดือน) ได้นำตัวเด็กแรกเกิดมาเลี้ยงดู ณ ตำบล ข. โดยมีตาของเด็กแรกเกิด (มีอาชีพรับจ้างรายวัน รายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท/เดือน) เป็นเจ้าบ้านและได้อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านนี้ด้วย (รวมคนที่พักอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน ตำบล ข. จริงๆ มีจำนวน 3 คน ได้แก่ ตา ยาย และเด็กแรกเกิด แม้ว่าเด็กแรกเกิดจะไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้าน ตำบล ข. นี้ก็ตาม) เนื่องจากบิดาและมารดาของเด็กแรกเกิดได้หย่าร้างและไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ ทำให้ยายของเด็กกลายเป็นผู้ปกครอง การคำนวณว่าครัวเรือนมีรายได้เท่าไรตามตัวอย่างดังกล่าว : ยายมีอาชีพเป็นครู มีรายได้ 20,000 บาท/เดือน ส่วนตามีรายได้จากการรับจ้างรายวัน ตกเดือนละ 1,000 บาท/เดือน และเด็กแรกเกิดยังไม่มีรายได้นำเงินเดือนของยายกับตารวมกัน 20,000+1,000 = 21,000 บาท แล้วคูณ 12 (12 เดือน) เท่ากับ 252,000 บาท จากนั้นหาร 3 (3 คือจำนวนหัวในบ้านตำบล ข. ได้แก่ ยาย ตา และเด็กแรกเกิด) จะได้เท่ากับ 84,000 บาท/คน/ปี ซึ่งยังไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปีกรณีนี้ ยายซึ่งเป็นครูมีสิทธิยื่นลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตรให้กับเด็กแรกเกิดได้ ณ อบต. ข. เนื่องจากเด็กแรกเกิดได้ถูกนำมาเลี้ยงดู ณ ตำบล ข. จริง โดยจะต้องแนบสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนของยาย พร้อมให้ เจ้าหน้าที่ อสม. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับรอง ว่าเด็กอยู่ในพื้นที่จริงและครัวเรือนมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี โดยจะมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนบุตร จาก พมจ. ตั้งแต่เดือนที่ยื่นลงทะเบียน ผ่านเลขบัตรประจำตัวประชาชนของยายที่ได้ผูกพร้อมเพย์ไว้ ภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน จนเด็กมีอายุครบ 6 ปีหรือตรวจสิทธิผ่าน https://csgcheck.dcy.go.th/public/eq/popSubsidy.do?ms=1707638112699เงินอุดหนุนบุตร แม้ว่าจะได้เพียงเดือนละ 600 บาท แต่มันสามารถช่วยเหลือค่านม ค่าอาหาร หรืออื่นๆ ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งจะทำให้เด็กมีโอกาสได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม แต่จุดที่น่าสังเกตจากการที่ได้มีโอกาสสอบถามและพูดคุยผู้ที่เคยลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตรทั้งลงทะเบียนด้วยตนเอง และผ่านแอปพลิเคชั่น "เงินเด็ก" คือในส่วนของการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น "เงินเด็ก" มีความยุ่งยาก เนื่องจากจะต้องทำการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD ซึ่งบางครัวเรือนมีความยากจนจริงๆ ไม่มี Smart Phone หรือ Internet หรือใช้ Smart Phone ไม่เป็น ทำให้ต้องเดินทางมาลงทะเบียนด้วยตนเอง ณ หน่วยงานใกล้บ้านใครอยากลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินอุดหนุนบุตร ลองพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นก่อน หรือยังไม่เข้าใจ มีข้อสงสัย ลองสอบถามไปที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245, 08-2037-9767, 08-3431-3533, 06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่แนะนำให้ลองสอบถามข้อมูลได้ที่หน่วยงานใกล้บ้าน เช่น อบต. เทศบาล พมจ. ประจำจังหวัดอย่างไรก็ดี หากพิจารณาดูแล้วมีคุณสมบัติข้างต้น มาลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินอุดหนุนบุตรและนำเอกสารการลงทะเบียนมาลงทะเบียน ณ หน่วยงานใกล้บ้าน หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น "เงินเด็ก" เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของตัวเองและบุตร และเป็นการช่วยเหลือค่านมบุตรได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็ยังพอช่วยเหลือครอบครัวและสนับสนันให้บุตรได้เติบโตไปตามช่วงวัย ภาพปก Canvaอ้างอิงข้อมูลและภาพประกอบจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน1, กรมกิจการเด็กและเยาวชน2, กรมกิจการเด็กและเยาวชน3, กรมกิจการเด็กและเยาวชน4 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !